ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “ผู้ละทั้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้แล้ว มีใจสงบ ย่อมนอนเป็นสุข”  (อ่าน 196 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29405
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์,
ผู้สงบระงับ ละความชนะและความแพ้ได้แล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข.

ชยํ เวรํ ปสวติ ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต อุปสนฺโต สุขํ เสติ หิตฺวา ชยปราชยํ.



 :25: :25: :25:

เรื่องโกสลรัญโญปราชยวัตถุ ว่าด้วยเรื่องความพ่ายแพ้ของพระเจ้าโกศล

ในครั้งนั้นพระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภความปราชัยของพระเจ้าโกศล แก่ภิกษุทั้งหลายว่า

สมัยนั้นเมื่อพระเจ้าโกศลทรงอาศัยกาสิกคาม ทรงรบอยู่กับพระเจ้าอชาตศัตรู ผู้เป็นพระเจ้าหลาน ทรงรบกันอยู่ถึง ๓ ครั้ง แต่พระองค์ก็ยังทรงแพ้พระเจ้าหลานอยู่ดี ในการรบครั้งที่ ๓ ทรงดำริว่า

    “เราไม่อาจจะทำเด็กซึ่งมีปากยังไม่สิ้นน้ำนมให้แพ้ได้ ประโยชน์อะไรด้วยความเป็นอยู่ของเรา”

ท้าวเธอ ทรงตัดพระกระยาหาร เสด็จบรรทมบนพระแท่น ความเป็นไปของพระเจ้าโกศลได้ดังไปทั่วพระนคร เรื่องความปราชัยของพระเจ้าโกศล

เมื่อนั้น พระพุทธเจ้าตรัสพระคาถานี้แก่ ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้ว่า

    “ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้พ่ายแพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ ผู้ละทั้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้แล้ว มีใจสงบ ย่อมนอนเป็นสุข”

เนื้อหาสาระเกี่ยวกับความสุข คือ ผู้ละทิ้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้แล้ว มีใจสงบย่อมนอนเป็นสุข

@@@@@@

คำว่า เวร นอกจากจะไม่สงบแล้ว ยังกลับเพิ่มพูนเวรต่อกันให้มากขึ้น เปรียบเหมือนการใช้น้ำสกปรกชำระล้างสิ่งสกปรก ก็ยิ่งเพิ่มพูนความสกปรกมากขึ้น ฉะนั้น

คำว่า “ผู้ชนะ”  (ชยํ) หมายถึง ผู้ชนะผู้อื่นย่อมกลับได้เวร

คำว่า “ผู้พ่ายแพ้” (ปราชิโต) หมายถึง ผู้อันคนอื่นให้แก้แล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์ คือ ย่อมอยู่ลำบากในอิริยาบถทั้งปวงทีเดียว

คำว่า “มีใจสงบระงับ”  (อุปสนฺโต) หมายถึง พระขีณาสพผู้มีกิเลส มีราคะเป็นต้นในภายในสงบระงับ ละความชนะและความแพ้ได้ ย่อมอยู่เป็นสุข คือย่อมอยู่สบายแท้ ในอิริยาบถทั้งปวง

คำว่า “การไม่จองเวร” หมายถึงธรรมคือขันติ เมตตา โยนิโสมนสิการ (การพิจารณาโดยแยบคาย) และปัจจเวกขณะ (การพิจารณา)

เมื่อผู้พ่ายแพ้ คือ พระเจ้าโกศล ย่อมนอนเป็นทุกข์ เพราะความพ่ายแพ้แก่พระเจ้าหลานของตนเอง จึงทำให้พระองค์เสวยพระกระยาหารไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ เมื่อเป็นดังนี้ จึงทำให้พระองค์มีแต่ความทุกข์ ไม่มีความสงบ แต่ยังจะเพิ่มพูนความแค้นเคืองต่อกัน ก่อเวรต่อกันมากขึ้น

ในครั้งนั้นพระพุทธเจ้าทรงปรารภความปราชัยของพระเจ้าโกศล ตรัสพระธรรมเทศนาว่า “ชยํ เวรํ ปสวติ” หมายถึง “ผู้ชนะย่อมก่อเวร”


@@@@@@

สรุปได้ว่า เนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับความสุขในเรื่องนี้ คือ ผู้ละทิ้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้แล้ว มีใจสงบย่อมนอนเป็นสุข ในพระคาถานี้พระเจ้าโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรู หากทั้งสองพระองค์ จะมีความสงบสุขได้ ทั้งสองพระองค์จึงต้องเป็นผู้ที่ละทิ้งทั้งความชนะและความพ่ายแพ้ได้ เพื่อเป็นการไม่จองเวรทั้งผู้ชนะและผู้พ่ายแพ้

เพราะความโกรธ คือ สภาวะที่เป็นกิเลส ที่มีความโลภ ความโกรธ ความหลงมาครอบงำ ความดับกิเลสนี้ได้โดยพิจารณาธรรมคือ ขันติ เมตตา โยนิโสมนสิการ และปัจจเวกขณะ เหมือนดังสุภาษิตว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

ดังนั้นเมื่อดับความโลภ ความโกรธ ความหลงได้แล้ว จึงจะทำให้มีใจที่สงบและนอนหลับอย่างเป็นสุขได้ด้วยการละทิ้งความชนะและความพ่ายแพ้

ในครั้งนั้น เมื่อจบพระธรรมเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลายมีโสดาปัตติผล เป็นต้น




ขอขอบคุณ :-
บทความ : จาก วิทยานิพนธ์ เรื่อง "การศึกษาวิเคราะห์สุขวรรคในคัมภีร์ธรรมบท" โดยนางสาวณัฎฐาพรรณ กรรภิรมย์พชิรา , บทที่ ๒ โครงสร้างและเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับความสุขในสุขวรรค หน้าที่ ๓๔-๓๖
ภาพจาก : pinterest
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2025, 07:09:29 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ