ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอินทร์ สอนเทวดาเร่งสร้างบุญ  (อ่าน 44 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29474
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระอินทร์ สอนเทวดาเร่งสร้างบุญ
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2025, 09:41:41 am »
0
.



พระอินทร์ สอนเทวดาเร่งสร้างบุญ
โดย ราช รามัญ | 09 ต.ค. 2568 | 03:30 น. อัปเดตล่าสุด : 09 ต.ค. 2568 | 08:09 น.



KEY POINTS

    • พระอินทร์นำเรื่องราวของเทพธิดาที่สิ้นชีวิตขณะเดินทางไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตศรัทธาอันแรงกล้า มาเป็นอุทาหรณ์สอนเหล่าเทวดา

    • ทรงสอนว่าชีวิตไม่แน่นอนจึงควรเร่งสร้างบุญโดยไม่ต้องรอ เพราะอานิสงส์ที่แท้จริงเกิดจากเจตนาและจิตใจที่ตั้งมั่น มิใช่จำนวนหรือมูลค่าของสิ่งของ



 :25: :25: :25:

แสงระยิบระยับสาดส่องไปทั่วฟากเพดานฟ้าอันมาแต่วิมานใหม่หลังหนึ่งบนสวรรค์ แสงระยับนี้ได้ส่องไปถึงพระเนตร ท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์) มเหสักข์แห่งเทพทั้งปวง แสงนี้ส่องระยับตลอดเวลา กระทั่งพระอินทร์จึงเอ่ยถามผู้เป็นเจ้าของวิมานนั้น

    "เทพธิดาผู้มาใหม่ เจ้าทำกุศลอะไรมาจึงมีวิมารที่ระยับตลอดเพลา ผิวพรรณผ่องใสมีแสงดุจรัศมี อาภรณ์นุ่งห่มระยับด้วยแสงตลอดเวลาเช่นนี้"

กราบพระอินทร์มเหสักข์แห่งเทพทั้งปวง ข้าพระบาท เพิ่งพ้นจากมนุษย์แล้วมาอุบัติที่นี่ ด้วยเหตุข้าพระบาท มีจิตจะไปกราบพระสถูปพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า ที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงจัดงานฉลอง จึงไปเก็บดอกบวมขม มา 4 ดอก แล้วเร่งเดินทางไปเพื่อให้ทัน ระหว่างทางจิตใจก็คิดแต่จะกราบสักการบูชาอย่างเดียว มุ่งมั่นไปสถูปให้ถึงเร็ว ๆ เดินทางไปแบบไม่ได้ระวังใด ๆ เมื่อไปถึงจุดหนึ่งมีวัวตัวหนึ่งวิ่งมาอย่างเร็วเมื่อเห็นข้าพระบาทแล้ว พระบาทจนเสียชีวิต แล้วข้าพระบาทก็มาอุบัติที่นี่

เมื่อพระอินทร์ได้รับฟังแล้ว ก็ตะลึงงันในกุศลเจตนาของธิดาที่แรงกล้าอย่างมาก ในการที่จะไปกราบสถูปพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พระอินทร์ยกมืออนุโมทนากับธิดานั้น แล้วจึงนำเอาเรื่องนี้ไปสอนเหล่าเทพเทวดาทั้งหลายว่า ชีวิตไม่แน่นอน ไม่เที่ยง ดังนั้น กุศลใดสามารถทำได้ควรทำทันทีมิต้องรอช้าใด ๆ เหมือนธิดานางนี้แค่เพียงดอกบวมขม4ดอกยังมีอานิสงส์มากถึงเพียงนี้ ดังนั้น เหล่าเทพเทวดาทั้งหลายพึงเร่งสร้างกุศลด้วยการกราบสักการบูชาและคอยรักษาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าตลอดจนกว่าจะหมดบุญแห่งการเป็นเทวดา เทวดาทุกท่านร่วมสาธุและปฏิบัติตาม

@@@@@@@

เรื่องนี้ได้สอนให้รู้ว่าการทำบุญสร้างกุศลนั้นทุกสิ่งอย่างอยู่ที่ใจเป็นที่ตั้งมิได้อยู่ที่จำนวนสิ่งของราคาของสิ่งของนั้น ๆ ดอกบวมขม แค่เพียงสี่ดอกกับจิตใจที่ต้องมั่นความศรัทธาในการที่จะกราบสักการะ ยังมีอานิสงส์มากถึงเพียงนี้ดังนั้นเราท่านทั้งหลาย จงมีความเข้าใจในด้านของการสร้างกุศลเสียใหม่ว่าอานิสงส์ทั้งหลายมีใจเป็นที่ตั้งมิได้มีจำนวนของวัตถุเป็นที่ตั้ง

แต่ถ้าผู้ใดพรั่งพร้อมนอกจากมีใจเป็นที่ตั้งแล้วยังมีวัตถุเป็นที่ตั้งด้วยเป็นอันมากย่อมทำให้มีอานิสงส์มากเช่นเดียวกัน แต่ถ้าว่ามีแต่วัตถุแต่ไม่มีใจที่เป็นกุศลอย่างตั้งมั่นอานิสงส์นั้น ย่อมไม่มากมายใด ๆ การทำบุญใด ๆอย่ารอกาลเวลา อย่ารอผู้ที่ไม่พร้อม เพราะเวลามีน้อยมาก ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นกับเราได้เสมอ

แม้ในประเทศไทยเองพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่หลายแห่งหลายที่ที่มีประวัติชัดเจนและเป็นของเก่าโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าจริง ๆ อาทิพระบรมสารีริกธาตุพระธาตุพนมจังหวัดนครพนม / พระบรมสารีริกธาตุ วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช เป็นต้น การมีจิตตั้งมั่นในการกราบพระบรมสารีริกธาตุยังมีอานิสงส์มากมายถึงเพียงนี้เราท่านทั้งหลายที่มีโอกาสได้ไปกราบสักการะย่อมมีใจเบิกบานเป็นปีติ สิ่งใดก็ตามถ้ามีใจเป็นกุศลอานิสงส์ในสิ่งนั้นย่อมมีมากมายอย่างแท้จริง

@@@@@@@

ผู้ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาจำนวนมากจึงนิยมไปนั่งภาวนาภายในพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยประหนึ่งว่าเหมือนได้นั่งปฏิบัติธรรมต่อเบื้องหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าย่อมทำให้จิตใจสงบได้เร็วได้เกิดปีติได้เข้าใจทำตามลำดับขั้นตอนของวาสนาในตนเองเพราะอานิสงส์จากการภาวนานั้น แรงและเร็วมากมีพลังมากเพราะเป็นพลังงานอันบริสุทธิ์โดยมีธรรมที่งดงามนั้นโอบอุ้มนั่นเอง

พุทธานุภาพของพระพุทธเจ้ายังคงมีอยู่ตลอดกาล มิได้หายไปไหน ถ้าใครปรารถนาจะได้บุญกับพระพุทธเจ้าการกราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุนั้น เป็นหนทางเดียวที่ทำแล้วอานิสงส์มากมายคณานับดุจได้ทำบุญกับพระพุทธเจ้า




Thank to : https://www.thansettakij.com/blogs/lifestyle/horoscope/640982
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 13, 2025, 06:31:50 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ