ฟังเรื่อง เล่ากฏแห่งกรรม เรื่อง หมอชะลอ ศิษย์หลวงพ่อจรัล
ฟังยังไม่จบ ใครมีเนื้อเรื่อง นำมาโพสต์ให้อ่านบ้างครับ เสริร์ชไม่เจอครับ
กรรมเก่าที่ติดตามส่งผลในชาตินี้..คุณหมอชลอ เกิดสุวรรณ
เรื่องนี้ได้มาจากท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี) เป็นผู้เล่าให้ฟัง มีใจความว่า
“มีชายคนหนึ่งสนใจศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน ได้ไปปฏิบัติวิปัสสนาที่วัดอัมพวันกับท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์ ชายผู้นี้อดีตเคยเป็นทหารเสนารักษ์ เป็นคนใจดีมีเมตตาช่วยเหลือชาวบ้านเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยโดยมิได้รังเกียจ ชาวบ้านทั่วไปรักและนับถือ เรียกท่านว่า “คุณหมอชลอ เกิดสุวรรณ” ตั้งบ้านเรือนอยู่ข้างวัดอัมพวัน
หมอชลอเป็นผู้ที่สนใจฝึกสมาธิและวิปัสสนามาก ใช้เวลาฝึกวันละหลายชั่วโมงเป็นประจำจนสำเร็จได้ฌานชั้นสูง วันหนึ่งขณะที่คุณหมอชลอกำลังฝึกตามปกติ ก็บังเกิดนิมิตปรากฏภาพในอดีตชาติให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ครั้งหนึ่งในอดีตชาติ เมื่อหมอชลอมีอายุได้ ๑๖ - ๑๗ ปี ได้ร่วมไปกับพี่ชายและเพื่อนของพี่ชายเข้าปล้นบ้านๆหนึ่งในหมู่บ้านม่องร่าย ใกล้น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี พี่ชายยิงเจ้าของบ้านตาย ส่วนหมอชลอยิงภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกตาย แล้วโยนเด็กที่คลอดใหม่ๆลงไปในกองไฟใต้กระดานอยู่ไฟที่ภรรยาเจ้าของบ้านนอน พักฟื้นอยู่
ปรากฏว่ากรรมอันเป็นบาปหนักนี้ เป็นเหตุให้หมอชลอและพี่ชายต้องรับใช้หนี้กรรรมชั่วนี้ โดยถูกพวกปล้นยิงตายทั้งสองคนที่หมู่บ้านตำบลม่องร่าย จังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างที่ไปทำการค้าไม้ไผ่อยู่ที่นั่น หลวงพ่อจรัญท่านเล่าว่า ท่านได้ตักเตือนไม่ให้หมอชลอไปทำการค้าไม้ไผ่ที่กาญจนบุรี เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายอันเกิดจากกรรมเก่าในอดีตชาติตามมาส่งผล แต่หมอชลอไม่ยอมเชื่อ เพราะเวลานั้นไม้ไผ่กำลังเป็นสินค้าที่ส่งไปขายต่างประเทศได้ราคาดี มีกำไรมาก
แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นไปตามที่หลวงพ่อจรัญท่านเตือนหมอชลอไว้ล่วงหน้า หมอชลอถูกคนร้ายยิงตาย หลังจากพี่ชายถูกยิงตายเพียง ๑๕ วัน เหตุเกิดในเวลากลางวัน มีคนแต่งเครื่องแบบสีกากีคล้ายตำรวจมีปืนพร้อม มีจำนวน ๑๐ กว่าคน มาทางเรือหางยาวและจอดที่ท่าน้ำหน้าบ้านหมอชลอ แล้วเรียกหมอชลอให้ออกจากบ้านไปพบที่ท่าน้ำ
หมอชลอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการสอบสวนเรื่องที่พี่ชายถูก พวกปล้นยิงตาย จึงเดินไปที่ท่าน้ำ เมื่อยืนคุยกันสักครู่หนึ่ง ภรรยาหมอชลอซึ่งอยู่บนบ้านเห็นหมอชลอหันหลังจะกลับจากท่าน้ำเข้าบ้าน ก็ถูกคนร้ายคนหนึ่งที่อยู่ในเรือใกล้หมอชลอ ยกปืนขึ้นจ่อยิงท้ายทอยหมอชลอล้มกลิ้งตกท่าน้ำขาดใจตายทันที เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๔
เรื่องของหมอชลอแสดงให้เห็นว่ากฎแห่งกรรมมีจริง และเป็นสัจจธรรมที่ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ถ้าอดีตชาติทำบาปไว้หนักมาก ผลกรรมนั้นต้องตามสนองในชาตินี้แน่นอน แม้ว่าชาตินี้จะปฏิบัติธรรมได้ดีเพียงไร ก็ย่อมหนีกรรมในอดีตชาติไม่พ้น ต้องชดใช้กรรมชั่วนั้นจนได้
ที่มา - เรื่อง “อดีตชาติ” เรื่องที่ ๑๐๔ ในชุด “กฎแห่งกรรม” ของคุณ ท. เลียงพิบูลย์
คือฟังเล่าในรายการ RDN ยาวมากครับตั้ง 30 นาีที แต่ที่ได้อ่านสั้นมากครับ
..เราทุกคนเจริญกระกรรมฐานต้องพบกรรมแน่ ขอให้ทำให้ได้ขั้น อย่าทำเป็นญาณเบื่อหน่าย อาตมาเป็นห่วงโยม อาตมาไม่เป็นอะไรหรอก แต่จะทำเป็นเพื่อนกันไป อาตมาเคยเข้าผลสมาบัติมาหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่นิโรธสมาธิ นิโรธสมาบัติต้อง ๗ วัน มันคนละอย่าง เราแค่ผลสมาบัติเบื้องต้นก็ได้หลายชั่วโมง แต่อาจจะเข้าทีละ ๑๐-๒๐ นาทีได้คือ ไม่รู้เรื่องในกาลนั้นๆ รู้ข้างในแต่ไม่รู้ข้างนอก อาตมถึงได้เป็นห่วงโยมคือ สภาวธรรมนี่สำคัญมาก และคนเบื่อหน่ายอยากจะเลิก ข้อเท็จจริงจะถึงหัวเลี้ยวหัวต่อแล้ว เลิกแล้วจึงไม่ได้อะไรเลย ต้องอดทนต่อไป ตายให้มันตาย มันมีอะไรมา คือมากระซิบตลอด มารคือตัวเรา อยู่ในตัวเรา ให้เลิก ไม่ควรทำอย่างนี้เป็นต้น
...เพราะฉะนั้น หมอชลอคู่กับแม่สุ่ม ทองยิ่ง อาตมาสอนแม่สุ่มตอนอายุ ๓๘ ปี พายเรือมา เมื่อสมัยนั้นไม่มีความเจริญ มีเรือเดินแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนั้น ผ.อ.เมือง บุตรชายแม่สุ่ม ยังเป็นเด็กนักเรียน เมื่อสมัย พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๔๙๔ สอนมาตลอด เขาก็ระลึกชาติของเขาได้ หมอชลอก็ระลึกว่า ได้ไปฆ่าเขาที่น้ำตกเอราวัณ รูปร่างแบบนั้น น้ำตกเขาเอราวัณยังไม่มีอะไร ไปปล้นเขา พี่ชายฆ่าสามีเขาตายคาบันไดเลย ตัวเองก็ระลึกเหตุการณ์ว่าเป็นลูกมอญ ที่ราชบุรี หนีพ่อแม่ไปที่น้ำตกเอราวัณ ตัวเองก็ระลึกชาติได้ตอนนั่งเจริญพระกรรมฐาน แล้วก็ลืมไปแล้ว อาตมายังจดไว้ทุกวันนี้คู่กับโยมสุ่ม ตรงที่ไปปล้นเขามา แล้วเขาก็ต้องฆ่าหมอชลอในน้ำเลย ตายคาที่ คาบันไดบ้านหลังนั้น
...นี่แหละท่านทั้งหลาย ระลึกชาติได้แล้วต้องตาย ไม่ใช่หมายความว่าเราได้พระกรรมฐานแล้วไม่โดนฆ่าตาย ถ้าเราไปฆ่าเขามา เขาต้องฆ่าเราตายแน่นอน อย่าลืมกฎแห่งกรรม นับประสาพระโมคคัลลานะ สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วก็ยังโดนฆ่าตาย เห็นไหม ทุบกระดูกแตกหมดเลย แล้วพระโมคคัลลานะสำรวมต่อกระดูก เขาเรียกว่า โมคคัลลานะต่อกระดูก คาถานี้ใช้สำหรับต่อกระดูกคนได้ ต่อกระดูกเสร็จแล้ว อีกภาพหนึ่งก็ให้โจรทุบไป ภาพจริงก็ไปพบพระพุทธเจ้าแล้วทูลลาเข้าสู่นิพพาน พระพุทธเจ้ารู้ว่าเป็นเวรกรรมก็ต้องให้เข้าสู่นิพพานคือ พ่อมาตามฆ่า
...นี่แหละพระกรรมฐาน เราทำจะเห็นกรรม แล้วจะรู้ว่าเราเคยระลึกอะไรบ้าง บางคนทำไปร้องไห้ไปด้วย ขอให้ทำให้เข้าถึงขั้น บางทีทำนิดหน่อยจะไปรู้เรื่องอะไรเล่า อาตมาถึงเป็นห่วงโยม โยมไม่ต้องห่วงอาตมาหรอก อาตมาทำได้มานานแล้ว ตั้งแต่เดินทางไปพม่า รามัญ ไม่อย่างนั้นช้างเหยียบตายแล้ว หลวงพ่อดำที่ขอนแก่นท่านช่วยอาตมามากมาย ยืนหนอ ๕ ครั้งก็ได้ ตั้งแต่ศีรษะท่านบอกตจปัญจกกรรมฐาน ทำให้ได้ ๕ ครั้ง
...เดินจงกรม บางคนขาดสติยังไม่พอ อาตมายังเดินเซเลย เพราะเหนื่อย งานมาก เดินจงกรมเดินช้าๆ เซ ถ้าเดินไวไม่เป็นไร พอขวาย่างหนอ มันคอยอยากจะล้มไปทางโน้น โคลงไปทางนี้ ตั้งสติเข้าไว้เดี๋ยวมันก็หาย กำหนดรู้ไว้ วันนี้เดินยังโคลงเลย ไม่ใช่ว่าทำได้แล้วต้องได้ ไม่ใช่ บางทีเดินโคลง อาตมาอายุมากแล้ว บางทีงานมันมาก กังวลงานเยอะ เดินไปจิตมันก็ส่ายไปทางโน้น ส่ายไปทางนี้ เป็นเรื่องธรรมดา ให้ตัดปลิโพธกังวลเสีย มีงานที่ต้องทำที่กุฏิ จะไปสรงน้ำก็ใช้เวลา ถ้าเราไม่มีสติก็แย่ ทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ลำบากมาก ก็ขอฝากไว้
...หมอชลอต้องไปโดนฆ่าตาย ฆ่าแล้วทำศพเผาตรงนั้น เอากระดูกมา แม่ทองใบผู้เป็นภรรยาก็มาร้องไห้ ช่วงที่ทำบุญให้หมอชลอ ที่บ้านต้องกลายเป็นทำศพให้ด้วย เขาเรียกว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ตายโหง ตายห่า ภรรยาต้องตายห่าเพราะไปฆ่าภรรยาเขา แม่ทองใบที่พากันไปทำไร่ จับไม้รวกล่องแก่ง จังหวัดกาญจนบุรี พอสวดมนต์ให้หมอชลอ เอากระดูกมาห่อ คนนั้นมาถามบ้าง คนนี้มาถามบ้าง ว่าหมอชลอเป็นอย่างไร พูดจนเส้นประสาทแตก เพราะคิดถึงความหลังที่ผ่านมา ไม่น่าพากันไปตายโหงเลย
...แม่ทองใบเลือดออกทางปาก ทางหู ทางตา ทั้งๆ ที่จะทำบุญวันพรุ่งนี้แล้ว ตายคาที่เลย เขาเรียกตายโหง ตายห่า บ้านแตกสาแหรกขาด นี่เป็นกฎแห่งกรรม อาตมาไม่ได้ไปงาน แม่ทองใบเขามานิมนต์ บอกไม่ได้ไปหรอกนะ เพราะแม่ทองใบตายเสียวันนี้ จึงสั่งบอกให้เผาศพ ตายบ่ายเผาเย็นเลย ไปเผาวัดปากน้ำ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
...นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เวรกรรมตามสนอง เรื่องนี้ให้ชื่อว่า บ้านแตกสาแหรกขาด ตายโหง ตายห่า สามีตายโหง ภรรยาตายห่า ตายห่านี้แปลว่าเลือดแตกหมด ใครมาถาม เล่าแล้วก็ร้องไห้ คิดแต่เรื่องเศร้าใจ แม่ทองใบไม่เคยเจริญพระกรรมฐาน ไม่มีสติเลยเส้นประสาทแตก ตามหลักพระพุทธเจ้าสอนเรียกว่า หายห่า สามีตายโหง ภรรยาตายห่า ลูกเต้าซัดเซพเนจรหมด ทุกวันนี้ นี่แหละรุ่นคุณแม่สุ่ม ตั้งแต่อาตมาอยู่วัดพรหมบุรี ย้ายมา พ.ศ. ๒๔๙๙ แม่สุ่มคู่กับหมอชลอเข้าผลสมาบัติ หมอชลอเข้าได้ถึง ๘๔ ชั่วโมง แต่แม่สุ่มได้ ๓๐ ชั่วโมง ขอฝากไว้เรื่องเป็นอย่างนี้ ขอให้ทำให้ได้สภาวะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ก็ขอฝากไว้...
อันนี้ก็สั้น .....
http://board.palungjit.com/f4/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-67382.htmlhttp://tamroiphrabuddhabat.com/xmb/viewthread.php?tid=431