« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2011, 01:21:03 pm »
0
งานใหญ่ของภาคเหนือ "พืชสวนโลกฯ"...2554 เริ่ม 14 ธค.'54
อีก 3 วันจากนี้ไปงานใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นงานใหญ่ของภาคเหนือ และจริงๆแล้วก็เป็นงานใหญ่ของประเทศไทยด้วย “มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ... ราชพฤกษ์ 2554” ก็จะเริ่มขึ้น
ณ บริเวณอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ 14 ธันวาคม 2554 ไปจนถึง 14 มีนาคม 2555 เป็นเวลา 92 วัน
ทีมงานซอกแซกแวบไปดูการเตรียมงานมาเรียบร้อยแล้ว และได้เขียนโหมโรงไว้บ้างแล้วด้วยซํ้า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน...บัดนี้ได้เวลาอันสมควรเพราะใกล้จะได้ฤกษ์เปิดงาน จึงขออนุญาตนำข้อมูลและรายละเอียดมาบอกกล่าวเพิ่มเติมตามที่สัญญาไว้
เพื่อเป็นคู่มือเที่ยวงานฉบับย่อดังที่เคยเขียนไว้ในการจัดงานครั้งแรก และเพื่อให้ท่านที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปงานนี้เพราะอยู่ไกล ได้ใช้จินตนาการนึกภาพตามไปพลางๆว่างานเขาจะเป็นอย่างไร
ในภาพรวมของงานจะยังคงเก็บของดีเมื่อครั้งก่อนที่คนไปเที่ยวงานถูกใจเอาไว้ครบถ้วน...ขณะเดียวกันก็เสริมของใหม่เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจและให้ความรู้เพิ่มขึ้นในครั้งนี้
เรามาเริ่มกันที่ของดีที่เคยเป็นพระเอกคราวก่อนและคราวนี้ก็เชื่อว่าจะยังเป็นพระเอกต่อไป...อันได้แก่ “หอคำหลวง” อาคาร 2 ชั้น ก่อสร้างแบบ ครึ่งตึกครึ่งไม้ สถาปัตยกรรมล้านนา ที่เป็นศูนย์กลาง เป็นสัญลักษณ์ของงานมาโดยตลอด
คณะกรรมการจัดงานได้ตกแต่งเสริมธงทิวบนทางเดินเข้าสู่หอเป็นแถวยาวงามสง่า หากไปยืนมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นภาพยาวแบบ 3 มิติ โดยมีวัด พระธาตุดอยคำ บนภูเขาด้านหลังเป็นฉากที่ช่วยเสริมบารมีให้งดงามยิ่งขึ้น
จุดนี้เป็นจุดแรกที่จะต้องแวะถ่ายรูปไว้ก่อน ...และเมื่อถ่ายรูปแล้วค่อยเดินเข้าสู่หอคำหลวง เพื่อพบกับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริอีกหลายๆโครงการ
ของเก่าประการที่ 2 ที่สร้างความประทับใจมากเมื่อครั้งที่แล้ว อันได้แก่ สวนฯนานาชาติ จะยังมีอยู่เช่นเดิม
โดยเฉพาะสวนและศาลาของ ภูฏาน, แคนาดา, เนเธอร์แลนด์, จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ลาว ฯลฯ ได้รับการปรับปรุงตกแต่งเรียบร้อยจากช่างฝีมือที่แต่ละประเทศส่งมาโดยตรง จนสวยงามขึ้นกว่าเดิมด้วยซํ้า
สำหรับ สวนองค์กร ในประเทศนั้น ก็จะมีของ ปตท., โตโยต้ามอเตอร์, กรุงเทพมหานคร ฯลฯ และปีนี้จะมีของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ องค์การส่งเสริมโคนมแห่งประเทศไทย เป็นน้องใหม่ไปร่วมด้วย
การประกวดกล้วยไม้พันธุ์ไม้ในระดับนานาชาติ ที่เป็นจุดเด่นครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ก็ยังมีอยู่ และ ดูเหมือนจะมีพันธุ์ไม้และกล้วยไม้สวยงามแปลกตา มาประกวดเพิ่มขึ้น พลาด ไม่ได้เลยที่จะต้องแวะไปที่ อาคารนิทรรศการ 2 หรือ Expo Center 2 สถานที่จัด นิทรรศการและประกวดที่มี กลิ่นหอมรวยรินตลอดเวลา
อีกหนึ่งจุดเด่นของครั้งที่แล้วก็คือขบวนพาเหรด แฟนซีกล้วยไม้ดอกไม้และพันธุ์ไม้ที่แห่แหนออก มาในยามคํ่าคืน พร้อมแสงไฟระยิบระยับแบบเดียว กับพาเหรดของดิสนีย์แลนด์ช่วงส่งท้าย ก่อนจะจบด้วยการยิงพลุอลังการขึ้นสู่ท้องฟ้า
ครั้งนี้ก็จะยังมีอยู่...พร้อมด้วยขบวนที่ยาวกว่า แสงไฟตระการตากว่า และจะแสดงทุกวัน เวลา 19.00 น. ณ ลานราชพฤกษ์ และลานราษฎร์เฉลิม พระเกียรติหน้าหอคำหลวงที่เดิม
แต่เพื่อให้งานภาคกลางคืนอยู่ในความทรงจำเพิ่มขึ้น คณะผู้จัดแจ้งว่า จะมีการแสดงพิเศษอีกหลายประเภทตามเทศกาลต่างๆ ณ ริมสระน้ำ ซึ่ง จะมีการฉายภาพบนม่านน้ำ รวมทั้งการใช้เทคนิคที่ทำให้ผู้แสดงเสมือนเดินบนผืนน้ำได้มาอวดผู้ชม ตลอดงาน
อีกจุดหนึ่งที่จัดเพิ่มขึ้นก็คือ “สวนแสงแห่งจินตนาการ” ที่มีการตกแต่งสวนด้วยไฟฟ้า ดอกไม้อร่ามเรืองที่จะคลี่บานหรือกะพริบไปตามเสียงเพลงที่บรรเลงประกอบ...แม้เมื่อตอนที่ทีมงานซอกแซกไปเยี่ยมจะยังไม่แล้วเสร็จดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าตื่นตา ตื่นใจ น่าจะเป็นของใหม่ที่อยู่ในความทรงจำอีกประการหนึ่ง
สำหรับของใหม่อื่นๆที่จัดเสริมขึ้นก็มี “นิทรรศการโลกแมลง” จำลองระบบนิเวศและวงจรชีวิตแมลงมาให้เรียนรู้อย่างครบถ้วน...“อุโมงค์กล้วยไม้หรรษา” นิทรรศการกล้วยไม้ในอุโมงค์ที่ตระการตามาก...และยังมีอุโมงค์พิเศษยาวประมาณ 400 เมตร คลุมด้วยเถาและใบของฟักแฟงแตงต่างๆตลอดทางเดินลอดอุโมงค์พืชริมรั้วที่ว่านี้จะพบกับน้ำเต้า, บวบ, ฟักทองลูกเบ้อเริ่มเทิ่ม ลองไปนับกันดูว่าทั้งหมดจะมีมากน้อยเท่าใด
อีกหนึ่งของใหม่ ที่ขอแนะนำก็คือ “สวนเยาวชนรักษ์โลก” ที่จัดทำในรูปแบบของนิทรรศการและกิจกรรมเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กๆเพื่อปลูกฝังความรักธรรมชาติให้กับเยาวชนรุ่นใหม่
ส่วนของใหม่ที่หัวหน้าทีมเขียนถึงไปแล้ว อันได้แก่ “กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า” หรือ “ชิงช้าสวรรค์” ขนาดสูงกว่า 40 เมตร ที่ขึ้นไปแล้วจะมองเห็นภูมิทัศน์ของงานโดยรอบ ก็นับว่าเป็นของใหม่ที่น่าสัมผัสและเชื่อว่าจะมีประชาชนยืนต่อคิวยาวเหยียดแน่นอน
ที่บรรยายมาทั้งหมดนี้น่าจะราวๆครึ่งหนึ่งได้กระมัง ยังมีของดีๆและรายละเอียดอีกมากที่ยังไม่ได้กล่าวถึง
ใครมีโอกาสขึ้นเหนือ อย่าลืมแวะไปหาความรู้และความตื่นตาตื่นใจในงานเฉลิมพระเกียรติอันยิ่งใหญ่งานนี้ด้วยนะครับ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตไปอีกนานแสนนาน
บทความโดย“ซูม”ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/zoomzokzak/222605