พิมพ์

[raponsan]

สำนักพุทธฯรุดสอบ 'หลวงพ่อโต' ยันไม่ได้ร้องไห้ ชี้รอยมูลนก

สำนักพุทธฯ รุดสอบ ยัน "หลวงพ่อโต" ไม่ได้ร้องไห้ตามที่เป็นข่าว เนื่องจากไม่พบร่องรอยน้ำไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง หรือส่วนใดของเศียรพระ คาดอาจเป็นรอยมูลนก ขณะที่รองเจ้าอาวาส ผู้แลวิหารหลวงพ่อโต ก็ยืนยันรอยดังกล่าวมีมาหลายปีแล้ว...

ภายหลังที่มีข่าว พระมหาพุทธพิมพ์ หรือ "หลวงพ่อโต" พระพุทธรูปเก่าแก่ พระประธานภายในวัดไชโยวรวิหาร ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ร้องไห้ มีน้ำตาไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง จนชาวบ้านหวาดผวาและหวั่นวิตกว่า จะเป็นลางบอกเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

ทำให้เจ้าคุณพระสิทธิพัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง และเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร รวมทั้ง พระปลัดฟัก อภินันโท รองเจ้าอาวาส ที่เป็นผู้ดูแลวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ออกมาโต้และตักเตือนญาติโยมให้มีเหตุผล อย่าเชื่ออย่างงมงายนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. นางศศิพร ผึ้งเผือก หน.กลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังวัดไชโยวรวิหาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้เข้านมัสการพระสิทธิพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส และพระปลัดฟัก อภินันโท รองเจ้าอาวาส ผู้แลวิหารหลวงพ่อโต รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณวัด

จากนั้นจึงได้ทำการสำรวจบริเวณพระพักตร์และพระเนตรของหลวงพ่อโต เพื่อตรวจดูร่องรอยว่ามีน้ำไหลออกมาจริงหรือไม่ ก่อนจะตรวจหลังคาวิหารตรงเศียรพระโดยรอบ แต่ไม่พบรอยรั่วจนทำให้น้ำสามารถหยดลงมาได้

ด้านนายสมศักดิ์ เยี่ยมสวัสดิ์ ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า จากการที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชำนาญการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าหากมีน้ำไหลเข้าไปในองค์พระ ซึ่งก่ออิฐถือปูนมานาน อาจจะทำให้องค์พระเกิดความเสียหายได้

หลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รายงานว่า หลวงพ่อโตไม่ได้ร้องไห้อย่างที่เป็นข่าว เนื่องจากไม่พบร่องรอยน้ำไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้าง หรือส่วนใดของเศียรพระ ส่วนรอยคราบที่พบ คาดว่าอาจจะเป็นรอยมูลนกที่ถ่ายแล้วไหลย้อยลงมาเป็นทาง หรืออาจจะเป็นรอยคราบน้ำฝนที่ไหลลงมาในช่วงที่มีการซ่อมแซมวิหารเมื่อปีก่อน

นอกจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่นมัสการสอบถามพระปลัดฟัก ที่ดูแลใกล้ชิดอยู่ทุกวัน และพระสิทธิพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส รวมทั้งบรรดาผู้ค้าขายลอตเตอรี่ ต่างก็ยืนยันว่าพบเห็นรอยดังกล่าวมาตั้งหลายปีแล้วด้วย.


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/229467

[komol]

ช่วงนี้เป็นช่วง การปั่นกระแส วิบัติ มหาวิบัติ ลางร้าย ของอนาคต 2012 กันมาก ทำให้บางคนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ กัน พร้อมกับการพูด ส่งต่อในระบบ social network  กันไปเรื่อย ทำให้ต้องให้มีการท้าพิสูจน์ เพื่อสยบความตื่นเต้น ผมจำได้ว่า เมื่อปีก่อนนี้ ก็พระพุทธรูปร้องไห้ เป็นเลือด ที่ จังหวัดสิงห์บุรี บ้านผมเอง แต่ก็มีการพิสูจน์กันอย่างรวดเร็ว
   มองโดยรวม ก็เพื่อขวัญกำลังใจ กันนะครับ
                 

[สาวิตรี]

เพราะทุกคนหลงไปจ้องแต่ คราบรอบด่างทองเหลือง จนมิได้สังเกตเส้นไหนเป็น รอยน้ำตาสองข้าง
พระพุทธศาสนาเจริญมาได้ถึง  2555   ปี............................

พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์    ชี้ทางให้คน  เป็นมนุษย์ที่ดี........  เป็นสิ่งแท้จริง   พิสูจน์ได้  ไม่เหลวไหล   มีเหตุผล

พระพุทธศาสนา  เป็นศาสนาที่มีเหตุผล.....ไม่เหลวไหล


ไม่เหลวไหล  ไม่งมงาย.....เชื่อเถอะ


รายงานข่าวจากสื่อ  ทุกสำนัก  ไม่ว่าจะเป็นสื่อ  น.ส.พ.  ที่ต้องการขายข่าวกับคนที่งมงายขนาดไหนก็ตาม............สรุปเป็นดังนี้


1. พระปลัดฟัก  อภินันโท   ผู้ช่วยเจ้าอาวาส  วัดไชโยวรวิหาร   .... บอกว่า  ไม่เชื่อว่าหลวงพ่อโตร้องไห้...สาเหตุอาจจะเกิดจากมูลนก  ที่มีมากมายในโบสถ์

2. นายวิเชียร  สุขนิมิตร   ไวยาวัจกร  วัดไชโย ฯ ...   ให้สัมภาษณ์ว่า   ตนไม่เชื่อว่าหลวงพ่อโตจะร้องไห้  น่าจะเป็นเพราะขี้นกกระจอกที่บินเข้าไปอาศัยในโบสถ์มากมาย  มากกว่า   ขอร้องประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับข่าวนี้



* * *   นี่คือ  ความมีสติ   มีปัญญาของพุทธศาสนิกชนที่เจริญแล้ว   ที่มีต่อเนื่องมาแม้ภายหลังที่พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์ไปนานแล้ว


ข้าขอคาระวะ



สุดท้าย...........มีข้อคิดของเด็กยากจนที่ไม่ได้รับการศึกษาสูง ๆ   จากอ่างทอง   และจากทั่วไป.....ว่า

* หลวงพ่อโต พระพุทธรูปที่สร้างจากอิฐ  หิน  ดินปูน   จะไปร้องไห้ได้อย่างไร ? ? ?

* หากหลวงพ่อโตร้องไห้   เพราะจะเกิดเหตุร้ายในบ้านเมือง   แต่เหตุใดพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้าน  คู่เมือง  หรือที่ศักดิ์สิทธิมากมายในแผ่นดินไทย  เช่น  พระแก้วมรกต  หรือพระสยามเทวาธิราช   ฯ ลฯ    จึงไม่ร้องไห้  ไปด้วย  ? ? ? ? ? ? ? ?