ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บทกวีนิพนธ์จากท่านว.วชิรเมธี  (อ่าน 2329 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บทกวีนิพนธ์จากท่านว.วชิรเมธี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 06:52:08 pm »
0


“พินัยกรรม” 

"โลงศพของฉันคือประโยชน์ที่โปรดโลก...”
เชิญชะโงกพินิจดูให้รู้เห็น
“อยู่อย่างต่ำทำอย่างสูงมุ่งบำเพ็ญ”
นั่นแหละเป็นอนุสรณ์ก่อนวางวาย


“ธรรมโฆษณ์” คือคัมภีร์รุจีรัตน์
“คู่มือมนุษย์” ตัดกิเลสหาย
“ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม” ร่ำระบาย
“ตายก่อนตาย” ปริญญาเอกดิเรกคุณ
“อริยสัจจากพระโอฐ” โปรดพินิจ
“อิทัปปัจจยตา” มิ่งมิตรมหาสุนทร์
“กรรมเหนือกรรม” ล้ำค่าน่าลงทุน
“เหนือทั้งบุญทั้งบาป” ตราบนิพพาน
“สิ่งใดดีฉันล้วนมีเตรียมไว้ให้...”
จงช่วงใช้ส่องทางสร้างสุขศานต์
ธรรมใดใดก็ไร้ค่าถ้ารำคาญ
เอาแต่อ่าน-อ่าน-อ่านดู-ไม่รู้ทำ !


“ตะแกรงร่อนทอง” 

ย้อนรอยย้อนทางย้อนย่างก้าว
ค่อยค่อยสาวค่อยสืบอนุสนธิ์
ตามเยี่ยงตามอย่างต่างตามตน
มาดั้นด้นแสวงธรรมพระสัมมา
เพชรพราวพริ้งพรายประกายเก็จ
มาหมกเม็ดหม่นมัวมืดโมหา
พุทธธรรมพระสัมพุทธวิสุทธา
ถูกขื่อคาไสยศาสตร์เข้าคราสครอง
สมณะหนึ่งนามพุทธทาส
เปรื่องปราดเป็นเมธีไม่มีสอง
มีตะแกรงอยู่ในมือถือร่อนทอง
จึงเพชรผ่องผุดพราวอีกคราวครั้ง
พุทธทาสพุทธธรรมนามสมมุติ
สุวิสุทธิ์สงฆ์ไทยในหนหลัง
เบญจขันธ์แตกดับไปไม่จีรัง
แต่ชื่อยังยรรยงอยู่ไม่รู้ตาย.



“ไม่สูญ” 

“พุทธทาส” นามท่านเพี้ยง ภูผา
โพธิยิ่งอย่างอา- กาศกว้าง
ตัวตายแต่ชื่อปรา- กฎเกริก ไกรพ่อ
หายแผ่นดินฟ้าไหม้ ห่อนม้วยมลายสูญ.


“พุทธทาสธรรม” 

เรไรหริ่งหรีดร้อง ระงม
พุทธทาสธรรมชม ชื่นล้ำ
กลางพฤกษ์พนาพรม ธรรมแผ่ว
เย็นจิตเย็นกายน้ำ ทิพย์เนื้อธรรมสรง
.


“ลานหินโค้ง” 

ลานหินโค้งก่อตำนานลานหินโค้ง
กิเลสโง้งเชิญมาง้างอย่างสร้างสรรค์
ลานหินโค้งธรรมไม่โค้งโสรจสรงพลัน
ธรรมย่อมบันดาลให้ได้สุขตรง
เชิญมาชิมรสพระธรรมท่ามแมกไม้
จิตจะไกลอวิชชาไม่มาหลง
กินเกียรติกามกาลีที่หยัดยง
ย่อมปล่อยปลงเปลืองเปล่าเถ้าธุลี
ทุกเม็ดทรายมีประกายมณีรัตน์
ผ่องประภัสรผุดพราววาวรังสี
ตามีแววแพรวพรายย่อมได้ดี
กรวดทรายมีปรัชญาวิชชาการ
“จงอยู่อย่างเรียบง่ายไม่วายวุ่น
จงเจือจุนมวลมนุษย์สุดไพศาล
จงปล่อยวางอย่างสบายก่อนวายปราณ
จงนิพพานทุกนาทีของชีวิต”


“อนัตตา” 

ไม่มีตัวของตัวมาแต่ต้น
แต่ชอบด้นให้มีตัวให้มัวหมอง
พอมีตัวก็ยึดตัวมัวแต่พอง
สิ่งทั้งผองเป็นของตัวชั่วนิรันดร์
ชีพของตัวกายของตัวทั่วทั้งนั้น
ลูกเมียพลันเป็นของตัวมั่วโมหันธ์
บ้านของตัวรถของตัวชั่วชีวัน
เงินของตัวนี่อีกอันไม่ปล่อยวาง
สรรพสิ่งที่เกี่ยวข้องล้วนของตัว
ไม่เห็นหัวคนอื่นที่ยืนขวาง
อัตตาคับบ้านเมืองเรืองรางชาง
จักรวาลเวิ้งว้างก็ของตัว
“สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา”
ศาสดาตรัสไว้ไม่น่าหวัว
ทุกทุกสิ่งที่เห็นว่าเป็นตัว
คือ “หมอกมัว” ความหลงผิดอวิชชา !


ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=33271
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ