ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง! โจ๋ไทยจำวัน 'วาเลนไทน์' ได้มากกว่า 'มาฆบูชา'  (อ่าน 1319 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29305
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 


อึ้ง! โจ๋ไทยจำวัน 'วาเลนไทน์' ได้มากกว่า 'มาฆบูชา'

ดุสิตโพลเผยเยาวชนไทยจดจำวันวาเลนไทน์ ได้มากกว่าวันมาฆบูชา เพราะตรงกับวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปี แต่ยังดีรู้ประวัติความเป็นมาและทำกิจกรรมของวันมาฆบูชามากกว่า ทั้งเวียนเทียน ทำบุญตักบาตร และฟังเทศน์...

     เมื่อวันที่ 6 มี.ค. มีรายงานว่า สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 1,384 คน ในหัวข้อเยาวชนไทยกับวันมาฆบูชา ระหว่างวันที่ 2-6 มี.ค. 2555 พบว่า

     ภาพรวมเยาวชนชายหญิงร้อยละ 49.20 จดจำวันวาเลนไทน์ได้มาก กว่าวันมาฆบูชา
     เพราะตรงกับวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปี เป็นวันแห่งความรักที่วัยรุ่นให้ความสำคัญและสนใจเป็นพิเศษ เป็นวันที่สามารถแสดงความรักให้กับคนที่เรารักได้รับรู้ ฯลฯ

    นอกจากนี้ ขณะที่ร้อยละ 44.79 รู้เรื่องประวัติความเป็นมาของวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ เพราะเป็นวันสำคัญของชาวพุทธ มีสอนในชั้นเรียนเกือบทุกระดับชั้นการศึกษา ต้องท่องจำเพื่อนำไปสอบ

      เมื่อถามว่า ระหว่างวันมาฆบูชากับวันวาเลนไทน์เยาวชนทำกิจกรรมในวันไหนมากกว่ากัน
      พบว่า ร้อยละ 41.10 เห็นว่า ทำกิจกรรมวันมาฆบูชามากกว่า เพราะที่โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เข้าร่วมทุกปี เป็นประเพณีของชาวพุทธที่ต้องปฏิบัติ เช่น เวียนเทียน ทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ไปทำบุญกับครอบครัวทุกปี ฯลฯ

      ขณะที่ร้อยละ 31.60 เห็นว่า ทำกิจกรรมวันวาเลนไทน์มากกว่า เพราะที่โรงเรียนมีนิทรรศการให้เด็กๆ ได้ช่วยกันจัดบอร์ด หรือตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม, ห้างร้านต่างๆ มีการจัดกิจกรรมที่สนุกสนานให้เด็กๆ ได้เข้าร่วม เป็นกระแสนิยมในกลุ่มวัยรุ่น มีการมอบดอกไม้ ซื้อของขวัญให้ ฯลฯ

      อย่างไรก็ตาม เยาวชนร้อยละ 47.09 ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์
      เพราะเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน มีความสุขกับการทำบุญ รู้สึกสบายใจ ฯลฯ

      โดยการที่จะทำให้เยาวชนเห็นความสำคัญของมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์นั้น
      ร้อยละ 30.73 เห็นว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญ และส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา/เมื่อมีวันสำคัญทางศาสนาเมื่อใด ควรจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมทุกครั้ง


      ร้อยละ 28.65 เห็นว่า ควรมีหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาให้กับเด็กนักเรียนได้เรียน ในทุกระดับชั้นและจัดกิจกรรมเกี่ยวกับพุทธศาสนาในโรงเรียน

      และร้อยละ 27.65 เห็นว่าควรเริ่มจากการปลูกฝังภายในครอบครัว พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก เช่น พาเด็กเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ปล่อยนกปล่อยปลา ฯลฯ.



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/243488
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ