พิมพ์

[raponsan]

พบโครงกระดูกอายุพันปี กลางทุ่งนาอุทัยธานี

พบโครงกระดูกมนุษย์ เครื่องปั้นดินเผา จำนวนมากกลางทุ่งนาในอุทัยธานี อายุกว่าพันปี พระภิกษุทายาทเจ้าของที่ดิน เผยเคยนิมิตเห็นภาพ ตั้งแต่ 9 ขวบ แต่ไม่กล้าบอกใคร

วันนี้( 4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีการค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์และเครื่องปั้นภาชนะดินเผาโบราณในหลุมฝังศพ จำนวนมากบริเวณที่นาของ นายธีระศักดิ์ มูลพฤกษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านวังบุญ ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัญธานี 

จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในที่นาขนาด 1 ไร่  พบพระครูสมุห์สมชาย จิตตธโม อายุ 45 ปี เจ้าอาวาสวัดวังบุญ ต.ไผ่เขียว กำลังนำกลุ่มชาวบ้าน จำนวนหนึ่งขุดแซะดินพร้อมทั้งใช้พู่กันปัดฝุ่นที่โครงกระดูกของมนุษย์และเครื่องปั้นภาชนะดินเผาโบราณ ที่ขุดพบลึกจากพื้นผิวดินประมาณ 2 เมตร

โดยพระครูสมุห์สมชาย กล่าวว่า  สมัยที่อาตมาอายุ 9 ขวบ ได้นิมิตรไปว่าบริเวณพื้นที่นาดังกล่าว ซึ่งเป็นของพ่อแม่ของอาตมาเองซึ่งปัจจุบันเป็นของนายธีระศักดิ์ มูลพฤกษ์ น้องชายของอาตมา มีโครงกระดูกและเครื่องปั้นภาชนะดินเผารวมทั้งทรัพย์สมบัติของ เจ้าเมือง ทหาร และชาวบ้านถูกฝังอยู่จำนวนมาก

แต่เคยเล่าให้ใครฟังเพราะกลัวคนจะไม่เชื่อ และเกรงว่าหากรู้ถึงผู้ที่โลภก็จะพากันมาขุดทรัพย์สมบัติดังกล่าวไปขาย กระทั่งเมื่ออายุ 35 ปีได้บวชเป็นพระและได้ศึกษาจนจนนักธรรมเอก และได้ปฏิบัติกรรมฐาน และออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกไปหลายแห่ง จนมีสัมผัสที่ 6 จึงกลับมาเพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่เคยนิมิตไว้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งก็พบกระดูกที่ถูกน้ำฝนชะล้างโผล่ออกมาจากชั้นดินจริงๆ

พระครูสมุห์สมชาย กล่าวต่อว่า หลังพบร่องรอยดังกล่าว อาตมาจึงทำพิธีบรวงสรวงและนำชาวบ้านลงมือขุดตั้งแต่วันที่ 11  มี.ค. นีเป็นต้นมา โดยอาตมาเป็นผู้ชี้จุดว่าศพหรือโครงกระดูกอยู่บริเวณใด โดยหลุมแรกพบโครงการดูกและภาชนะเครื่องปั้นดินเผา ถูกฝังอยู่ใกล้กับศพบริเวณที่ปลายเท้าและข้างลำตัว เป็นเป็นโครงกระดูกของเจ้าเมืองและทหาร 3 ศพ

นอกจากนี้ในนิมิตรยังมีมีดดาบและแหวนของเจ้าเมืองฝังอยู่ด้วย แต่ยังขุดไม่พบ จุดที่ 2 เป็นหลุมขนาดใหญ่ถูกมุงด้วยหลังคามุง ภายในหลุมมีหลุมฝังศพเด็กมีโครงกระดูกวางทับถมไม่เป็นระเบียบ 4  ศพ ใกล้กันยังพบโครงกระดูกผู้ใหญ่ อีก 4 ศพ มีเครื่องปั้นภาชนะดินเผาฝังอยู่โดยรอบโครงกระดูก

สันนิษฐานว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเสียชีวิตจากโรคระบาด ทำให้มีคนล้มตายจำนวนมากจนต้องนำมาฝังรวมกัน โครงกระดูกที่พบมีหลายร้อยศพแต่บางส่วนถูกรถไถไถที่ดินกลบหลายไปนับเป็นจำนวนนับพันชิ้นด้วยกัน

    อย่างไรก็ตามคาดว่าเป็นโครงกระดูกและเครื่องปั้นภาชนะดินเผาที่พบอยู่ในสมัยทวารวดีซึ่งมีอายุระหว่าง1,200-1,500ปี สำหรับอาณาบริเวณที่พบจะมีเนื้อที่ 4 ตารางกิโลเมตร
     อย่างไรก็ตาม อาตมาได้ทำหนังสือส่งไปที่กรมศิลปากรเพื่อแจ้งให้ทราบแล้ว ส่วนทางอำเภอ มีเจ้าหน้าที่บางส่วนได้มาดูแล้วก็กลับไป

    หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปมีประชาชนทยอยเดินทางมาดูตลอดทั้งวัน โดยอาตมามีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ให้เป็นสมบัติของชุมชน จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่หรือใครเอาไปแม้แต่ชิ้นเดียว.


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/20720