กรณีที่รู้สึกว่าผู้ตายยังวนเวียนอยู่...
เราควรทำอย่างไร เพื่อการสงเคราะห์ที่ถูกต้อง (๑)
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส
ปุจฉา กราบอาราธนาพระอาจารย์
เนื่องด้วยเมื่อไม่นานมานี้ มารดาของข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลง ซึ่งถ้านับถึงปัจจุบันก็ ๓ เดือนแล้ว แต่ทว่าข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนว่าท่านอยู่ใกล้ๆ บางครั้งได้ยินเสียงเหมือนท่านเรียก ซึ่งได้ยินชัดมาก ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรดี ปัจจุบันได้แต่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ข้าพเจ้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงอยากเรียนถามท่านพระอาจารย์
สาธุ ๑๓ ม.ค. ๒๕๕๕
วิสัชนา : ขอเจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก่อนอื่นอาตมาต้องขออภัยที่เพิ่งนำปุจฉาดังกล่าวมาวิสัชนา เพราะมีเรื่องสำคัญๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนาเข้ามาหลายเรื่อง ที่จะต้องนำมาตีพิมพ์ให้ทันเหตุการณ์
ดังเช่นกรณีภิกษุณีฯ จนเข้าสู่เรื่องการสร้างพระธาตุเจดีย์เขาขุนน้ำคีรีวงที่ผ่านไป ทั้งมีเรื่องมาฆบูชาในอินเดีย การจัดทำพระไตรปิฎกเป็นภาษาท้องถิ่น (มาราตีฮินดี) ในชมพูทวีป (อินเดีย) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากกับการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในแผ่นดินเกิด ซึ่งฉบับต่อไปคงจะนำความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟัง
เพื่อให้สอดคล้องกับเทศกาลทำบุญกุศล ระลึกถึงบรรพชน จึงนำเรื่องที่ถามเข้ามาว่า ...จะทำอย่างไรดีกับกรณีที่มีความรู้สึกว่าพ่อแม่ของเราหรือญาติผู้ใหญ่ที่ตายไปแล้ว แต่ยังมีความรู้สึกว่าเหมือนอยู่ใกล้ หรือยังวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน ทั้งๆ ที่เราได้ทำบุญกุศลให้ไปแล้ว จึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ อยากจะเรียนถามว่าควรทำอย่างไรดี!?
จากปุจฉาดังกล่าว อาตมาขอยกเอาความแปลจากพระคาถา ติโรกุฑฺฑกณฺฑสุตฺต โดยย่อ มาประกอบการพิจารณา เพื่อนำไปสู่ความควรต่อการกระทำของบุคคลผู้มีชีวิตอยู่ ในกรณีเมื่อมีญาติพี่น้อง พ่อ แม่ เพื่อนฝูง ละจากโลกนี้ไปแล้ว ดังความว่า
บุคคลมาระลึกถึงอุปการะ อันท่านได้ทำแก่ตนในกาลก่อนว่า ผู้นี้ได้ให้สิ่งนี้แก่เรา ผู้นี้ได้ทำกิจนี้แก่เรา ผู้นี้เป็นญาติ เป็นมิตร เป็นเพื่อนของเรา ดังนี้
ก็ควรให้ทักษิณาทานเพื่อผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้ว
การร้องไห้ก็ดี การเศร้าโศกก็ดี หรือการร่ำไรรำพันอย่างอื่นก็ดี บุคคลไม่ควรทำทีเดียว
เพราะว่า การร้องไห้ เป็นต้นนั้น ไม่เป็นประโยชน์แก่ญาติทั้งหลายผู้ละโลกนี้ไปแล้ว
ญาติทั้งหลายย่อมตั้งอยู่อย่างนั้น...
ก็ทักษิณาทานนี้แล้วอันท่านให้แล้ว ประดิษฐานไว้ดีแล้วในสงฆ์
ย่อมสำเร็จเกื้อกูลแก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วตลอดกาลนานตามฐานะ...
ญาติธรรมนี้นั้น ท่านได้แสดงให้ปรากฏแล้ว และบูชาอันยิ่งท่านก็ได้ทำแล้วแก่ญาติทั้งหลายผู้ละโลกนี้ไปแล้ว
กำลังแห่งภิกษุทั้งหลายชื่อว่าท่านเพิ่มให้แล้ว บุญไม่น้อยท่านได้ขวนขวายแล้ว ดังนี้
จากพระภาษิตดังกล่าว จะเห็นชัดต่อสิ่งที่ควรกระทำและไม่ควรกระทำ เพื่อประโยชน์ของตนและต่อผู้ล่วงลับไปแล้ว ทั้งนี้ได้สั่งสอนให้รู้จักประกอบทักษิณาทาน เพื่อญาติพี่น้องที่ตายจากไปแล้ว
ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ การประกอบทักษิณาทานอย่างถูกต้อง กับคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา โดยเน้นการถวายทานแด่สงฆ์ ดังพระบาลีที่ว่า
อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินนา สงฺฆมฺหิ สุปติฏฺฐิตา
แปลว่า ก็ทักษิณาทานนี้ แลอันท่านให้แล้ว ประดิษฐานไว้ดีแล้วในสงฆ์
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส ทานโส อุปกปฺปติ
แปลว่า ย่อมสำเร็จประโยชน์ เกื้อกูลแก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้ว ตลอดกาลนาน ตามฐานะ
เรื่องดังกล่าวน่าศึกษายิ่งต่อการทำบุญอุทิศแก่ญาติสายโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งญาติผู้มีความระลึกถึงผู้จากไป จะต้องเข้าใจในบุญกิริยาวัตถุ ทั้งทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย เป็นต้น
และจะต้องมีความศรัทธาในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในองค์คุณของพระรัตนตรัย จึงกระทำประกอบการกุศลด้วยความศรัทธา และเข้าใจในศาสนกิจอันควรทำ ถูกต้องตามศาสนธรรม
ดังเช่น กรณีการถวายทานอันถึงสงฆ์
เพื่อทักษิณาทานที่ประดิษฐานไว้ดีแล้วในสงฆ์
จะต้องเข้าใจว่าทำทานอย่างไร เป็นทานอันถึงสงฆ์
มีกระบวนการดำเนินการอย่างไร ทั้งภายนอกและภายใน
เพื่อให้สัมฤทธิผลในทักษิณาทานที่เป็น ทานอันถึงสงฆ์ หรือที่เราชอบเรียกว่าสังฆทานนั้น!!
ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ควรพิจารณาว่า เราได้ประกอบการกุศลอันถูกต้องชอบธรรมแล้วจริงหรือ
เพื่อให้ได้ผลบุญตามมุ่งหมาย ด้วยศรัทธาปสาทะในพระศาสนา
หากจะกล่าวว่า มีคนจำนวนไม่น้อยทำบุญกุศลแต่ไม่ได้ถึงผลอันควร
มิหนำซ้ำอาจจะเป็นอกุศลกรรมต่อการกระทำนั้นๆ
ด้วยไม่รู้ความเหมาะควร .. ไม่รู้ความถูกต้อง .. ไม่รู้ข้อธรรมอันควรปฏิบัติ
โดยเฉพาะได้พบกับผู้ที่อ้างตนว่าเป็นภิกษุในพระศาสนา แต่ไม่รู้พระธรรมวินัย
มุ่งหวังเข้ามาเพื่อแสวงหาลาภสักการะ ประพฤติตนทุศีล จึงสงเคราะห์กันไปในทางมิจฉาปฏิบัติ
เช่น กรณีโยมถวายเงินก็รับ ถวายถังเหลืองถังแดงที่เรียกว่าถังสังฆทาน มีข้าวสารอาหารแห้ง นมเนย แถมรองเท้า
โดยเฉพาะการถวายผิดกาลอันควรในวัตถุเหล่านั้น จึงเป็นโทษต่อกันและกันทั้งผู้ถวายและผู้รับที่ไม่รู้ในพุทธบัญญัติ
(อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้)ที่มา
http://www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/149353/กรณีที่รู้สึกว่าผู้ตายยังวนเวียนอยู่-เราควรทำอย่างไรเพื่อการสงเคราะห์ที่ถูกต้อง-๑-ขอบคุณภาพจาก
http://www.dmc.tv/,http://www.koratforum.net/