ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดินก้อนเดียว..ก็เป็นพระพุทธรูป  (อ่าน 2984 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ดินก้อนเดียว..ก็เป็นพระพุทธรูป
« เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2012, 02:42:04 pm »
0


ดินก้อนเดียว..ก็เป็นพระพุทธรูป

    เจ้าประคุณสมเด็จฯ ทรงคุณธรรม อีกอย่างหนึ่งคือ ท่านมีสัมมาคารวะ อ่อนน้อม ว่ากันว่า เมื่อท่านเดินทางไปไหนมาไหน พบพระพุทธรูป ท่านจะถอยห่างหลีกออกไปราว ๔ ศอก แล้วจะนั่งกราบ แม้แต่จะไปพบหุ่นแบบสำหรับสร้างพระพุทธรูป ท่านก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน เคยมีคนถามท่านว่า หุ่นแบบสร้างพระนั้น ต้องนับถือด้วยหรือ

ท่านบอกว่า “ดินก้อนแรกที่หยิบขึ้นมาปั้นหุ่น ก็นับเป็นองค์พระแล้ว เพราะผู้ทำตั้งใจมาแต่ต้นที่จะทำพระพุทธรูป”

    อีกคราวหนึ่งไปสวดมนต์ที่บ้านช่างหล่อ ฝั่งธนบุรี ที่บ้านนั้น เขาเอาหุ่นพระพุทธรูปตั้งผึ่งแดดไว้ ห่างจากทางเดินราว ๒ ศอก เมื่อท่านเดินผ่านมาในระยะใกล้ชิด ท่านก้มกายยกมือขึ้นประนมเหนือศีรษะ กระทำคารวะ พระและศิษย์ที่ไปด้วย เห็นท่านทำอย่างนั้นก็ทำตาม

    เมื่อขึ้นบ้านงานและนั่งลงบนอาสนะเรียบร้อยแล้ว นายเทศผู้ช่วยเจ้าภาพซึ่งคุ้นเคยกับสมเด็จฯได้กราบเรียนถามว่า
    “กระผมสงสัยจริง เพราะไม่เคยเห็นเจ้าคุณสมเด็จฯ กระอย่างนี้”
     ท่านจึงตอบว่า “แต่ก่อนไม่เคยเห็นจริงจ๊ะ แต่วันนี้เป็นเหตุบังเอิญจ๊ะ เพราะฉันเดินผ่านมาในเขตอุปจารของท่าน ไม่เกิน ๔ ศอก จึงต้องทำดังนี้”


     นายเทศจึงเรียนว่า “ยังไม่ยกขึ้นตั้ง และยังไม่เบิกเนตร จะเป็นพระหรือขอรับ”
     ท่านตอบว่า “เป็นจ๊ะ เป็นตั้งแต่ผู้ทำหุ่นยกดินก้อนแรกวางบนกระดานแล้วจ๊ะ เพราะผู้ทำตั้งใจให้เป็นองค์พระอยู่แล้วเรียก อุทเทสิกเจดีย์ยังไงล่ะจ๊ะ
    เมื่อสวดมนต์จบแล้ว ขากลับผ่านมาท่านก็กระทำอย่างนั้นอีก



    รุ่งขึ้นท่านไปฉัน ตอนนี้ท่านเห็นพระตั้งอยู่ไกลออกไปราว ๖ ศอก ห่างออกไปจากทางที่ท่านเดินผ่านไปเมื่อวาน เพราะเจ้าภาพเกรงว่า จะทำให้พระที่มากิจนิมนต์เดินเข้าออกไม่สะดวก ท่านไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพระแล้วประนมมือนมัสการ พระที่ติดตามไปด้วยก็กระทำตาม ประมาณสัก ๑ นาทีแล้วจึงขึ้นไปบนเรือน

    เมื่อฉันเสร็จแล้ว เจ้าภาพถวายเครื่องสักการะ และท่านยถาสัพพีเสร็จแล้ว ก็นำเอาธูปเทียนดอกไม้ที่เจ้าภาพถวายไปสักการบูชาพระที่ปั้นหุ่นขึ้นไว้นั้น พระที่ติดตามก็ทำตามอีก แล้วก็กลับวัด

    เล่ากันว่า เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ ไปพบพระเณรแบกหนังสือคัมภีร์ไปเรียน ท่านจะต้องต้องนั่งประนมมือ หรือก้มกายลงแสดงความคารวะพระธรรม  หรือแม้แต่ใครจะถ่ายรูปของท่านในอิริยาบถใดก็ตาม ถ้าในที่นั้นมีหนังสือเทศน์ ท่านจะต้องหยิบขึ้นมาถือ เหมือนหนึ่งว่ากำลังเทศน์อยู่เสมอ และเพื่อแสดงว่าในที่นั้นมีพระธรรมเป็นประธานอยู่



    อีกอย่างหนึ่ง ถ้าท่านไปพบพระเณรกำลังเทศน์อยู่ ท่านจะต้องหยุดฟังจนจบ แล้วจึงไปในที่อื่น ทราบว่าที่ท่านทำอย่างนี้ด้วยประสงค์จะประสงค์ตามเยี่ยงพระพุทธเจ้า ที่ทรงฟังธรรมที่พระอนุรุทธแสดงอยู่

    ตามพุทธประวัติมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปจะเข้าวิหาร ขณะถึงซุ้มประตูก็พบว่า พระอนุรุทธกำลังแสดงธรรมอยู่ ครั้นจะเสด็จเข้าไปก็จะเป็นการไม่เคารพ จึงประทับยืนจนจบ
   เมื่อพระอนุรุทธทราบ จึงทูลขออภัยทีทำให้ประทับยืนนาน
   พระองค์ตรัสว่า แม้จะนานกว่านี้สักเท่าไรก็จะประทับยืน เพราะพระองค์ทรงเคารพในพระธรรม


    ในหมู่พระสงฆ์ก็เหมือนกัน พระภิกษุจะมีพรรษาอายุมากหรือน้อยก็ตาม เมื่อไปกราบท่าน ท่านก็กราบคืนบ้าง กราบท่านกี่ครั้ง ท่านก็กราบคืนตอบเท่านั้นครั้ง
    บางท่านสงสัยว่า ทำไมเจ้าประคุณสมเด็จฯ ต้องทำอย่างนั้น
    ท่านตอบว่า “อ้าว..ฉันทำตามพระพุทธภาษิตที่ว่า
    วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ  ผู้ไหว้ ย่อมได้รับการไหว้ตอบ ยังไงล่ะจ๊ะ”



อ้างอิง
หนังสือ ไขปริศนา ชาติภูมิ พระคาถา ไสยศาสตร์ อารมณ์ขัน
เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) โดย ม.สุปุตฺติโก
ขอบคุณภาพ http://www.bloggang.com/,http://board.palungjit.com/,http://www.visalo.org/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ