ท้าพิสูจน์! กุมารทองเฮี้ยน 'กฤษณ์ คอนเฟิร์ม' ผงะเสียงทุบโต๊ะไม่พอใจ (ชมคลิป)
กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไม่หยุด หลังจากเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งย่านเยาวราช และจับกุมตัวชาวไต้หวันพร้อมของกลางซากทารกผ่านการปลุกเสกเป็นกุมารทองจำนวน 6 ตน...
จนนำไปสู่เรื่องราวสยองพองขนมากมาย ตั้งแต่พนักงานสอบสวนและข้าราชการตำรวจหลายนาย บน สน.พลับพลาไชย 2 ได้ยินเสียงเด็กร้องดังมาจากจุดเก็บซากทารกของกลางช่วงกลางดึกและสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเป็นที่ที่ศพเด็กถูกเอาไปพิสูจน์หาดีเอ็นเอ ก็ได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นกัน สร้างความหวาดกลัวให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ที่อาศัยอย่างมากมาย
ไทยรัฐออนไลน์จัดทีมทำข่าวและช่างภาพไปตั้งกล้องวิดีโอท้าพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามีวิญญาณเด็กอยู่ “จริง” หรือแค่ “อุปทาน”....?
และเพื่อเพิ่มดีกรีความตื่นเต้นไปอีกระดับ ครั้งนี้เราได้เชิญ หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ที่ระยะหลังหันมามีจิตสาธารณะใช้ความพิเศษในการสื่อสารกับวิญญาณช่วยเหลือผู้อื่นเดินทางไปร่วมพิสูจน์วิญญาณทารกเฮี้ยนที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดยตกลงกันแบบมีเงื่อนไขว่า ขอให้พูดตามความเป็นจริง ซึ่งหากมีวิญญาณจริงสมคำร่ำลือแล้ว พวกน้องๆ เหล่านี้ต้องการอะไร จึงออกมาหลอกหลอนจนคนกระจัดกระจาย พร้อมกับแนะนำวิธีแก้ไขมาด้วย เมื่อข้อตกลงบรรลุก็ถึงเวลาการเดินทาง
ไทยรัฐออนไลน์และกฤษณ์เดินทางไปถึงสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลา 18.00 น. เป็นเวลาเรียกว่าทั้งบรรยากาศ ความเงียบของเวลาที่คลี่ตัวปกคลุมนั้น ได้อารมณ์หวั่นไหวกับสิ่งที่มองไม่เห็นเลยทีเดียว
เมื่อเซ็ตกล้องและทำความเข้าใจกันว่าเจออะไรห้ามวิ่งหนี ห้ามทักเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ ที่สำคัญที่นี่เป็นสถานที่ราชการ ห้ามเสียงดังเสร็จสรรพทั้งหมดก็ขึ้นลิฟต์ขนาดเล็กไปยังชั้น 3 ของสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเดินเข้าไปหาต้นต่อข่าวลือความน่ากลัว
ทันทีที่ลิฟต์ตัวเล็กเปิดออก ทีมงานต้อง “ผงะ” มองหน้ากันเลิกลั่ก เพราะว่ามีเสียงกึกๆ กักๆ เหมือนมีใครเลื่อนโต๊ะ หรือเก้าอี้ออกมาจากห้องกระจกที่ด้านหน้า คิดแบบปลอบใจก็น่าจะเป็นเสียงก้องจากห้องชั้นอื่นๆ ที่ก้องมา
ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรกัน…! หมอกฤษณ์ก็โพล่งเสียงดังตามสไตล์ออกมาว่า น้องเขาอยู่ในห้องนี้แน่นอน คอนเฟิร์ม เป็นการคอนเฟิร์มที่เพิ่มระดับความน่ากลัวชนิดเสียวสันหลังเมื่อต้องเดินอยู่คนเดียว!!!
ระหว่างแยกทีมเป็น 2 ชุด ทีมแรกติดตั้งกล้องวิดีโอจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง อีกทีมก็ตามไปฟังสิ่งที่เขาสื่อสารกับวิญญาณ พร้อมกำชับว่า ถ้าเห็นอะไรอย่าเพิ่งพูดโพล่งขึ้นมาในห้องนี้ เพราะหลายคนไม่ได้นิมนต์พระเครื่องมา กลัวกันว่าจะทำให้จิตตกไปกันใหญ่ เมื่อทีมกล้องวิดีโอแช่ทิ้งเอาไว้ในห้องเพื่อจับภาพเคลื่อนไหวผิดแปลกเรียบร้อย หมอกฤกษ์ก็ขอเวลาเดินสำรวจ 30 นาที โดยจุดที่เขามักจะเดินผ่านก็คือบริเวณหลังห้อง
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้กล้องวิดีโอทำงานของมันไป ส่วนหมอกฤษณ์ก็ออกมาเล่าสิ่งที่สัมผัสได้ในห้องประชุมในมุมมองของเขาว่า ในห้องนี้มีวิญญาณเด็กผู้ชายอยู่ 2 ตน (ส่วนอีก 4 ตนที่เหลือมองไม่เห็นในห้องนี้) อยู่เดินอยู่บริเวณหลังห้อง วิญญาณเด็กตนหนึ่ง ตนเห็นว่ามีคนขุดเขาขึ้นมาจากการฝั่งในดิน อีกตนหนึ่งถูกยัดใส่ถุง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นศพที่มาจากการทำแท้งแล้วคนก็เอาเขามาทำกุมาร
“ผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนไทย แล้วตอนนี้เชื่อว่าแม่เขายังอยู่ และไม่น่าใช่คนไทย แต่ยังเด็กมาก ลองไปสืบหาก็จะเจอ”
ส่วนสาเหตุที่เขามาหลอกหลอนคนที่แห่งนี้ หมอกฤษณ์ บอกว่า พวกเขาตามใครสักคนมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยเห็นตัวกุมารแล้วนายตำรวจคนนี้ก็อยากได้ลูก หรือมีเกณฑ์ว่าจะทำคนท้อง เขาก็เลยเกาะคนคนนั้นเพื่อไปเกิด แต่เนื่องจากนายตำรวจคนนี้แขวนพระดี เขาจึงอยู่ที่นี่เพื่อรอคอยจังหวะไปเกิด
“จริงๆ กุมาร 2 ตนนี้เป็นเด็กที่มีบุญญาธิการ แต่อาจจะถูกทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร หลังจากนั้นก็ถูกคนใช้มนต์คาถาสะกดแล้วเอาไปทำกุมารทอง เพราะเด็กพวกนี้มีพลังเรียกโภคทรัพย์เพื่อการพนันใช้ในบ่อนการพนันมากกว่า ไม่ใช่วิญญาณร้าย แต่ไม่ใช่พระปลุกเสกแน่นอน”
จากนั้นขอให้เขาทำพิธีสื่อสารกับเด็กว่าต้องการอะไร หมอกฤษณ์ไม่ปฏิเสธ แต่ไม่อยากให้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ โดยให้เราฝ่ามือแตะที่ท้องแขนเขา และเรื่องที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น เพราะแขนของกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ปรากฎตัวอักษรคล้ายคำว่า “แม่” ขึ้นมา
“ชัดเจน แสดงว่าเขาต้องการ เขาอยากไปเกิดหรือว่าอยากเจอแม่เขามาก ตอนนี้เขาก็ยังอยู่ วิธีที่ทำให้เขาไปเกิดและไม่มาหลอกหลอนได้ก็คือต้องเอาศพที่ยังอยู่ไปเผา พร้อมกับประกบอบพิธีทางศาสนา ศาสนาพุทธก็ได้ แล้วให้คนทำพิธีให้ เท่านี้เรื่องแปลกๆ ก็จะหมดไป” จอมคอนเฟิร์ม กล่าว
อย่างไรก็ดีมาถึงในมุมมองของวิทยาศาสตร์ ในวันรุ่งขึ้นหลังจาก น.ส. ชนิกานต์ พวงเงิน หนึ่งในทีมงานตัดต่อคลิปวิดีโอเพื่อออนไลน์ในวันนี้ (29 พ.ค. 55) ว่า มีสิ่งเสียงแปลกปลอมปรากฏขึ้นมาหลายจุดด้วยกัน โดยเฉพาะเสียงดังคล้ายกับคนทุบ เตะ หรือเลื่อนโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยความรุนแรงคล้ายไม่พอใจ
"ไม่ใช่เสียงภายนอกชัดเจนเพราะเมื่อแปลงคลื่นเสียงออกมาเป็นกราฟแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีความผิดปกติ โดยกราฟเสียงจะวิ่งขึ้นสูงจากเสียงปกติ"
เช่น ในวินาทีที่ 00:00:39 มีเสียงดังคล้ายเสียงเตะโต๊ะดังขึ้น (แนะนำให้ใส่หูฟังเพราะจะได้ยินเสียงละเอียดกว่า) อีกครั้งคือวินาทีที่ 00:00:56 มีเสียงดังคล้ายเสียงเคาะโต๊ะถึง 2 ครั้งซ้อนๆ ทั้งที่ ทีมงานที่เฝ้าอยู่ด้านนอกยืนยันว่าในบริเวณห้องนั้นไม่มีใครเข้าไปได้อย่างแน่นอน แต่เมื่อลองสำรวจดูจากภาพเคลื่อนไหวทีละช็อตกลับไม่พบอะไรผิดปกติเลย
ทั้งหมดนี้ แม้จะรู้สึกถึงความน่ากลัว อึดอัด ขนลุก แต่ทว่า ในมุมของวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถจับภาพวิญญาณได้เช่นเคย. ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/life/264018
เผยแพร่เมื่อ 28 พ.ค. 2012 โดย thairathonline