ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้าผ่า.! กุฏิเจ้าอาวาสวัดพนมพริก จ.ตราด..ไฟลุกวอด พระพุทธรูปโบราณเสียหาย  (อ่าน 2366 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ฟ้าผ่า..!! กุฏิเจ้าอาวาสวัดพนมพริก จ.ตราด
ไฟลุกวอด พระพุทธรูปโบราณเสียหายประเมินค่าไม่ได้

     เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” รายงานว่า พ.ต.ท.วิเชียร ปั้นสุข พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด รับแจ้งเหตุจากนายอเนก นิลชาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านพนมพริก ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ว่าเกิดเหตุไฟไหม้กุฏิพระครูสุวรรณ วรประสาสน์ เจ้าอาวาสวัดพนมพริก และเจ้าคณะตำบลเทพนิมิต หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าดับเพลิงของเทศบาลตำบลแสนตุ้งให้เดินทางไประงับเหตุไปไหม้ทันที

 ในที่เกิดเหตุเป็นกุฏิไม้ 2 ชั้น พบไฟกำลังลุกไหม้ชั้นสองของกุฏิ ขณะที่มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกำลังทุบประตูชั้นล่างเข้าไปด้านใน เนื่องจากระหว่างเกิดเหตุพระทั้งหมดได้ออกไปทำกิจนิมนต์ที่วัดทางควายและได้ล็อกประตูกุฏิไว้ เมื่อทุบประตูสำเร็จชาวบ้านได้ช่วยขนทรัพย์สินมีค่าออกมาจากกุฏิ

โดยเฉพาะพระเก่าแก่ที่อยู่ในกุฏิ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมสกัดไฟไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้ ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุนั้นฝนก็ยังตกลงมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้การควบคุมเพลิงไม่ยากลำบากมากนั้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงก็สงบลง





     ต่อมาในเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ณัฐวัช ทองใบ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุตัวตนเอง โดยได้สอบถามสาเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้จากพระครูสุวรรณ วรประสาสน์ ทราบว่า สาเหตุที่เกิดไฟไหม้กุฏิมาจากฟ้าผ่า เนื่องจากเกิดเหตุได้มีฟ้าร้องตลอดเวลา จากนั้นชาวบ้านเห็นฟ้าผ่าลงมาที่กุฏิทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นดังกล่าว

     พ.ต.อ.ณัฐวัช กล่าวว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ตนเองได้ตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็น คือเกิดฟ้าผ่าลงมาที่กุฎิทำให้เกิดไฟไหม้ และเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร  แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งจะให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป ส่วนเรื่องการวางเพลิงคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 



     ด้านพระครูสุวรรณ กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ จึงรีบกลับมาที่กุฎิทันที และได้เข้าไปช่วยขนพระและทรัพย์สินออกมาจากกุฎิ ขณะที่ตนเองได้รับบาดเจ็บจากการถูกน้ำตาเทียนที่ละลายจากไฟไหม้ลวกใส่แขนทั้ง 2 ข้าง
     ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยนำพระพุทธรูปออกมาได้เพียง 4 องค์ เท่านั้น
     เป็นพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร 2 องค์
     และพระพุทธรูป ทั้ง 3 องค์ทำขึ้นเมื่อปี 2497 ถูกไฟไหม้จนเกือบละลาย


     ส่วนพระพุทธรูปอีก 1 องค์ เป็นพระประธานสมัยอยุธยามีอายุกว่า 300 ปี
     ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อไม้ ถูกไหม้ดำเป็นตอตะโก แต่ยังเหลือเป็นรูปร่างขององค์พระอยู่
     นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ที่เก็บไว้ภายในกุฏิที่เกิดเหตุอีกจำนวนมากที่ถูกไฟไหม้และละลายไป ซึ่งประเมินค่าความเสียหายไม่ได้เลย


     ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียใจกับเหตุการณ์เกิดเหตุ
    และเสียดายที่พระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่ ถูกไฟไหม้จนเสียหายไปหลายองค์



ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME1qZzJNRE0zTlE9PQ==&subcatid=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2012, 10:14:47 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ