ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวบ้านในขอนแก่นผวา "ปอบอาละวาด"  (อ่าน 3683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29309
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ชาวบ้านในขอนแก่นผวา "ปอบอาละวาด"
« เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 12:36:04 pm »
0


ชาวบ้านในขอนแก่นผวา "ปอบอาละวาด"

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายประเด็จ เคนดา อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 นายบุญทัน โนนศรี อายุ 62 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 นายไพจิต วงษ์หนองแล้ง อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 22 บ้านโนนรัง  ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น  พร้อมกับชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ประมาณ 500 – 600 คน ได้ออกมารวมตัวกันที่ศาลากลางบ้านโนนรัง หมู่ 11  เพื่อทำพิธีขับไล่ผีปอบทั้งสามหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาเพศ จนคนในหมู่บ้านโดยเฉพาะคนสูงอายุเกิดอาการเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีแล้วกว่า 11  ราย 

ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านทุกคนได้มีการเรียกร้องให้ผู้นำชุมชน ช่วยหาหมอผีมาช่วยปราบล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้าน และทำพิธีเรียกขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านทั้งสามหมู่บ้านกลับคืนมาโดยเร็ว โดยชาวบ้านได้มอบหมายให้นายประเด็จ เป็นตัวแทนชาวบ้านทำประชาคมหมู่บ้าน และขอชาวบ้านช่วยลงขันทุกหลังคาเรือนๆละ 60 บาท ได้เงินจำนวน 26,000 บาท 

นำเงินจำนวนดังกล่าวเดินทางไปว่าจ้างนายมานะ บุญสวา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 10 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.หนองคาย ซึ่งเป็นหมอเทพ “พ่อลิขิต ประกาศิต” หมอแก้ไสยศาสตร์ คุณไสย เพื่อมาช่วยทำพิธีขับไล่ผีปอบที่หมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้าน

ซึ่งเมื่อเวลา 09.30 น. นายไพจิตได้ทำพิธีขับไล่ผีปอบโดยสวมชุดขาวเรียกวิญญาณเทพ”พ่อลิขิต ประกาศิต” ทำพิธีเรียกวิญญาณผีปอบ เข้าไปในโหลแก้วที่มีหุ่นขี้ผึ้งขนาดเล็ก จำนวน 6 ตัวอยู่ในโหล พร้อมกับบอกว่าได้มีผีปอบ จำนวน 6 ตัว เข้าไปอยู่ในโหลแก้วแล้ว ต่อไปจะต้องไปทำพิธีนำโหลแก้วที่มีผีปอบไปฝังที่ป่าช้าในวัดของหมู่บ้านโนนรังหมู่ 11



นายประเด็จ เปิดเผยว่า เมื่อตั้งแต่ต้นปี 2555 ถึงปัจจุบัน หมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านมีคนสูงอายุตายไม่ทราบสาเหตุมากกว่า 11 ราย ทำให้ ชาวบ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านมีความเชื่อว่ามีการเกิดอาเพศขึ้นในหมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้าน 

บางรายจะมีอาการอยู่ดีๆ ที่บ้าน ก็มีอาการเหม่อลอย พูดคุยอยู่กับญาติดีๆก็เดินออกจากบ้าน ว่ามีคนเรียกให้ไปพบ เดินออกจากบ้านไปและเดินกลับมาก็อาเจียนออกเป็นเลือด ล้มป่วยพานำส่งเข้าโรงพยาบาลก็เสียชีวิต ทั้งๆที่ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยและมีสุขภาพแข็งแรงดี ซึ่งมีการล้มป่วยลักษณะเดียวกันมาต่อเนื่องหลายราย  ชาวบ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านได้มาทำประชาคมให้มีการจับปอบดังกล่าว

นายมานะ หรือเทพพ่อลิขิต ประกาศิต เปิดเผยว่า  ตนได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านหมู่บ้านดังกล่าวเกิดอาเพศหลายรูปแบบ มีคนสูงอายุตายไม่ทราบสาเหตุจำนวนมาก สงสัยว่าในหมู่บ้านดังกล่าวจะมีผีปอบมาอาละวาดเอาวิญญาณคนในหมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้าน โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาในหมู่บ้านโนนรังหมู่ 11 มีคนสูงอายุตายไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 5 ราย   

จึงได้มาทำพิธีฆ่าผีปอบ จับผีปอบ ลงโหลแก้ว โดยใช้วิชาไสยศาสตร์ พร้อมกับเชิญเทพพ่อลิขิต ประกาศิตมาเข้าสิง ตนไล่ฆ่าไล่จับผีปอบในรูปแบบคาถาอาคมในหมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านมาเข้าโหลแก้ว  ซึ่งเป็นผีปอบชาย 2 หญิง 4 ที่ตายมาแล้วมากกว่า 200 ปี วิญญาณปอบของมันเร่ร่อนในหมู่บ้านโนนรังทั้งสามหมู่บ้านเพื่อมาเอาชีวิตของคนในหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ขณะนี้ผีปอบในหมู่บ้านทั้งสามหมู่บ้านตายหมดแล้วก็ต้องทำพิธีฝังในป่าช้า ต่อไป.



ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/137654
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29309
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ชาวบ้านในขอนแก่นผวา "ปอบอาละวาด"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 12:49:01 pm »
0


'ผีปอบ' ขึ้นชั้น 'ภูตร้ายอมตะ'

"หนุ่มสาวป่วย ทยอยตายปริศนากว่า 30 ศพ ช่วงแค่ 4 เดือน เชื่อฝีมือผีปอบอาละวาด...” ...นี่เป็นส่วนหนึ่งจากคำบรรยายภาพข่าวเหตุการณ์การทำพิธีจับ “ผีปอบ” โดยพระสงฆ์ร่วมกับหมอผี โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “เซียงข้อง” โดยพิธีครั้งนี้มีการทำกันใน 4 หมู่บ้านของจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน

นี่เป็นอีกเหตุการณ์-อีกครั้งที่บ่งชี้ว่า “ผีปอบยังมีอยู่ ?”

อย่างน้อยก็ “ในความเชื่อ” ของคนไทยจำนวนไม่น้อย

ในบรรดา “ผี” ต่าง ๆ ที่มีชื่อ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่คนในประเทศไทยเชื่อกันมาแต่โบราณ และจนวันนี้ก็ยังมีความเชื่อกันอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก ที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดในพื้นที่ภาคกลาง น่าจะเป็น “ผีกระสือ” ส่วนในภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องยกให้ “ผีปอบ”

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวสำหรับ “ผีปอบ” นั้น แม้จะเชื่อกัน มากในบางภาค แต่ความป๊อปปูลาร์เกี่ยวเนื่องก็กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งในจุดนี้ยืนยันได้ทั้งจากเรื่องเล่าขานกันปากต่อปาก จากหนังสือเกี่ยวกับผีปอบที่มีการพิมพ์ขาย จากละครทีวีเกี่ยวกับผีปอบ และโดยเฉพาะจากภาพยนตร์เกี่ยวกับผีปอบที่เคยมีการสร้างเป็นสิบ ๆ ภาค และทำเงินได้ดีพอสมควรทุกภาค จนคาแรกเตอร์ “ปอบหยิบ” ติดอยู่ในความทรงจำคนไทยทั่วไป

และแม้แต่ในโลกไซเบอร์ก็มีเรื่องราวของ “ผีปอบ”

เหล่านี้ยืนยันว่า “ผีปอบ” ถือว่าป๊อปปูลาร์ไม่น้อย !!





ทั้งนี้ ลองค้นเรื่องราว “ผีปอบ” ในโลกไซเบอร์-ในอินเทอร์เน็ต ก็มีเนื้อหาอยู่พอสมควร เช่นเนื้อหาประกอบการประชาสัมพันธ์หนังสือเกี่ยวกับผีปอบที่ว่า... “...ผีปอบเป็นผีที่จัดอยู่ในประเภทผีดุร้าย โผล่ขึ้นมาที่ไหนจะมีคนตายศพแล้วศพเล่า และเป็นการตายอย่างไร้เหตุผลหาสาเหตุไม่เจอ ผู้ที่เชื่อว่าผีปอบมีจริงบอกว่า ผีปอบได้แอบเข้าสิงร่าง กินตับ ไต ไส้ พุง จนร่างที่ถูกสิงซีดผอม หมดแรงลงอย่างรวดเร็ว และตายในที่สุด ผีปอบเป็นผีที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องรูปร่าง ไม่เหมือนกับผีกระสือที่มีหัวกับไส้ลอยไปแล้วมีไฟกะพริบวาบ ๆ แต่ผีปอบจะปรากฏตัวด้วยการเข้าสิงใช้ร่างกายผู้อื่นเป็นสื่อ...”

นอกจากนี้ยังมีบทความ “ตำนานผีปอบ” สรุปได้ว่า... ผีปอบ มีต้นกำเนิดมาจากผู้ที่มีวิชาไสยศาสตร์มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้ อำนาจอันเข้มขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลายชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำเสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอย เสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณภูตผีไปเข้าสิง

วิชาไสยศาสตร์เหล่านี้มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วย ผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงระบุว่าเป็น “เดียรัจฉาน วิชา” จะต้องระวังไม่ให้ละเมิดข้อห้าม ข้อปฏิบัติเด็ดขาด หากกระทำผิดข้อห้าม ซึ่งชาวอีสานเรียกว่า “คะลำ” ก็จะเกิดโทษหนักในข้อ “ผิดครู” วิญญาณบรมครูจะลงโทษให้ กลายเป็นปอบ

หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่กลายเป็นปอบก็คือ เล่นคาถาอาคม อย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชามนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัวบาปกลัวกรรม กระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย้อนกลับมาเข้าตัวเอง กลายเป็น “ปอบ” ไปในที่สุด





ในบทความดังกล่าวนี้ยังว่าไว้อีกว่า... ผีปอบแบ่งออกเป็นหลายประเภทคือ... “ปอบธรรมดา” หมายถึงคนที่มีปอบสิงอยู่ในร่าง คือตนเองเป็นปอบ เมื่อคนประเภทนี้ตายไป ปอบที่สิงสู่อยู่ก็จะตายตามไปด้วย, “ปอบเชื้อ” หมายถึงครอบครัวใดพ่อแม่เป็นปอบ เมื่อพ่อแม่ตายไป ลูกหลานจะสืบทอด เป็นปอบต่อไป อีกประการหนึ่งคือ เป็นกรรมพันธุ์ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม เรียกว่าเป็นปอบต่อเนื่องกันไปไม่รู้จบ

“ปอบแลกหน้า” หมายถึงปอบเจ้าเล่ห์ เอาความผิดโยนให้ผู้อื่น เวลาไปเข้าสิงใคร เมื่อถูกสอบถามว่ามีผู้ใดเลี้ยงหรือบังคับ ปอบจะไม่บอกความจริง แต่ไปกล่าวโทษว่าเป็นคนนั้นคนนี้โดยที่ผู้ถูกระบุชื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย, “ปอบกักกึก” (กึก แปลว่า ใบ้) หมายถึงปอบที่ไม่ยอมพูดอะไรเวลามีคนถาม จนกว่าญาติพี่น้องจะไปตามหมอผีมาขับไล่ จึงจะยอมเปิดปากพูดว่าตนเป็นปอบของใคร มีใครใช้ให้มาเข้าสิง

ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิง หรือที่เรียกว่า “ปอบเข้า” จะมีอาการแตกต่างกันไป บางคน “แสดงกิริยาอาการดุร้าย” บางคนจะ “นอนซมซึมคล้ายกับป่วยไข้อย่างหนัก” บางคนจะ “ร่ำไห้รำพันไปต่าง ๆ นานา” แต่ไม่ว่าจะมีทีท่าอาการอย่างไร ลักษณะผู้ที่ถูกปอบเข้าสิงจะเรียกร้องให้นำ “อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ” มาให้กิน เวลากินก็จะแสดง ความตะกละ มูมมาม และกินได้จุผิดปกติ

ทั้งนี้ เรื่องราวของผีปอบยังมีต่อเนื่องไปถึงวิธีไล่-วิธีปราบของหมอผี รวมถึงการ “เกิดคดีทำร้ายผู้อื่นเพราะเข้าใจผิดคิดว่าปอบเข้า !!” ซึ่งในเนื้อหานั้น ณ ที่นี้ขอละไว้ และก็จะไม่ก้าวล่วงในความเชื่อเรื่อง “ผีปอบ” แต่จะสรุปด้วยคำกล่าวของจิตแพทย์ นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ที่เคยสะท้อนความเชื่อเรื่อง “ผี” ไว้ว่า...

“หากเชื่อมากไป ก็ย่อมจะไม่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิต” “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ถูกหรือไม่ถูก แต่อยู่ที่จะสามารถปรับทิศทางความเชื่อให้อยู่ในด้านบวกได้หรือไม่ ??


ที่มา http://www.udclick.com/home1/index.php?option=com_content&task=view&id=74877&Itemid=111051
ขอบคุณภาพจาก http://images.udclick.com/,http://new.goosiam.com/,http://movie.mthai.com/




อัปโหลดโดย HUMPYAI เมื่อ 8 ต.ค. 2008
เพลงประกอบละครปอบผีฟ้ารุ่นเก่า
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ