พิมพ์

[raponsan]

ตื่น!พญานาคโผล่พระพุทธบาทเวินปลา

ตื่น!พญานาคโผล่ข้างรอยพระพุทธบาทเวินปลา โขดหินในตำนานกลางลำน้ำโขงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาว ไทย-ลาว ให้ความเคารพนับถือมากว่า 2 พันปี แห่กราบไหว้แน่นขนัด

13 ก.ย.55 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังนครพนมว่า ที่วัดพระบาทเวินปลา บ้านเวินพระบาท ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม  ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ริมฝั่งน้ำโขงทั้งชาวไทย-ลาวให้การเคารพนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 2 พันปี เพราะบริเวณกลางลำน้ำโขงท่าน้ำของวัดห่างฝั่งประมาณ 30 เมตร จะมีโขดหินขนาดใหญ่มีบันทึกในใบลานตำนานพระอุรังคธาตุสร้างพระธาตุพนมรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ.8 หรือกว่า 2,500 ปีระบุไว้ว่า

       พระพุทธเจ้าได้พระทับรอยพระบาทบนโขดหินแห่งนี้  ตามคำร้องขอของเหล่าพญานาคในเมืองบาดาลใต้ลำน้ำโขงไหว้เคารพบูชา  โดยในช่วงหน้าฝนน้ำหลากจะจมใต้น้ำโขงให้เหล่าพญานาคภูติใต้ลำน้ำโขงบูชาและในช่วงหน้าแล้งก็จะโผล่ขึ้นมาให้โลกมนุษย์กราบไหว้ โดยในวันสงกรานต์ทุกปีชาวไทยและชาวลาวก็จะจัดพิธีบรวงสรวงสรงน้ำรอยพระพุทธบาทเวินปลาแห่งนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณและในทุกปีก็จะเกิดปรากฏการณ์พญานาคเป็นที่ฮือฮาชาวบ้าน   

       ทั้งนี้ โดยในปีนี้เหตุการณ์ประหลาดพญานาคโผล่เกิดขึ้นมาเหนือน้ำข้างรอยพระพุทธบาทเวินปลาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.55 ตอนเช้าตรู่ ได้มีหญิงชราในหมู่บ้านมาเดินที่ท่าน้ำ
       พบงูใหญ่ตัวเท่าต้นตาลหงอนสีแดงลอยอยู่ริมน้ำให้เห็น ก่อนมุดลงน้ำหายไป
       พร้อมกับข่าวแพร่ออกไปปากต่อปาก จนแตกตื่นแก่ชาวบ้านหลังรู้ข่าวก็เดินทางมาชมและกราบไหว้เป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน และในวันนี้ก็มีประชาชนหลั่งไหลมาที่วัดจนแน่นขนัดเต็มริมฝั่งแม่น้ำโขงของท่าน้ำรอเฝ้าชมพญานาคโผล่ขึ้นมาให้เห็น

        พร้อมส่งเสียงร้องตลอดเวลาเมื่อเกิดน้ำหมุนคลื่นขนาดใหญ่เหนือรอยพระบาทผิวน้ำ
        เชื่อว่าพญานาคแสดงให้เห็น และบริเวณบันไดท่าน้ำโขงขึ้นมาวัดมีการทำกระทงพญานาคให้ชาวบ้านที่มาชมมาจุดธูปเทียนบูชาขอโชคลาภเป็นศิริมงคลตลอดทั้งวัน     

        นายกิตติ  ศรีวรขาน เลขที่ 35/1 อายุ 50 ปี ชาวบ้านเวินพระบาท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 วัน ที่จุดนี้ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในช่วงเช้าหลังชาวประมงหาปลาในลำน้ำโขงมาจอดเรือกีบบริเวณท่าน้ำขึ้นฝั่งพอเดินขึ้นบันไดพบรอยโคลนประหลาดคล้ายงูใหญ่เลื้อยในขั้นบันไดปูนท่าน้ำและมีกลิ่นที่คาวแรงมาก

         และชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าพญานาคขึ้นมาปรากฏให้เห็นแต่ไม่เป็นที่ฮือฮามากนักจนกระทั่งเช้าวันที่ 12 กันยายน ได้มีหญิงคนชราบอกว่า พบพญานาคงูขนาดใหญ่หงอนสีแดงตัวเท่าต้นตาลปรากฏให้เห็นและหายลงใต้น้ำพอข่าวสะพัดออกไปก็มีประชาชนจำนวนมากที่รู้ข่าวหลั่งไหลมาชมกราบไหว้และคอยชมพญานาคโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง และจะเกิดคลื่นหมุนปรากฏตลอดเวลาเหนือโขดหินรอยพระบาทเวินปลาทำให้ชาวบ้านดีใจเชื่อว่าเป็นพญานาคแสดงให้เห็น และเป็นที่โด่งไปทั่วประเทศ

          เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายนปี 55 ก่อนจะถึงวันสงกรานต์ที่ชาวบ้านเตรียมพิธีบรวงสรวงสงน้ำรอยพระพุทธบาทในวันที่ 13 วันสงกรานต์ได้มีช่างภาพผู้สื่อข่าวถ่ายภาพงูใหญ่ยาวหลายเมตรคอสีทองเลื้อยบนโขดหินรอยพระพุทธบาทเวินปลา ซึ่งชาวบ้านที่นี่เชื่อพญานาคปรากฏให้เห็นและทุกปีจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ท่านแสดงให้เห็นเป็นบางคนเท่านั้น

          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังที่มีชาวบ้านจำนวนมากเฉลี่ยวันละนับพันเดินทางมาชมพญานาคจนรถแน่นวัดทำให้เศรษฐกิจค้าขายคึกคักมากตลอดจนการบริจาคปัจจัยบำรุงวัดมีแม่ค้าพ่อค้าทั้งขายลูกชิ้นขนมไอติมเต็มไปหมดขายดีมากโดยเฉพาะแม่ค้าพ่อค้าขายล๊อตเตอรี่”นางวัน จันทร์ลุน” อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 121 บ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ อ.เมือง แม่ค้าขายล๊อตเตอรี่รายหนึ่งกล่าวว่า

          พอรู้ข่าวพญานาคขึ้นที่นี่พวกตนก็รีบมาที่นี่ทันทีเพราะจะขายดีมากปกติพวกตนเดินขายในเทศบาลวันหนึ่งขายได้ 20 ใบ มาขายที่นี่ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงขายได้แล้ว 60 ใบ บางคนมาก่อนขายได้ 100 กว่าใบ”คือทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์พญานาคที่ไหนพวกตนแม่ค้าล๊อตเตอรี่จะเดินทางไปปักหลักขายทุกที่เพราะจะขายดีมากจริง”  นอกจากนี้เหตุการณ์พญานาคโผล่ยังเข้าทางโปรโมทท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมจังอีด้วย        

http://www.youtube.com/watch?v=8Wz0p_3JOtc

          ด้านนายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ทางจังหวัดได้กำหนดจัดงานเปิดปีท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร  ในวันที่ 14 กันยายน 2555 เวลา 17.29 น. เป็นต้นไป ณ ลานตะวันเบิกฟ้า ถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดนครพนม เริ่มเปิดงานด้วย พิธีบูชาบวงสรวง และวางพวงมาลาสักการะ 

          พร้อมกับ มีการรำบวงสรวง เพื่อสื่อถึงความศรัทธา ที่มีต่อองค์พญานาค มีการเปิดตลาดโบราณ วันวานบ้านโคโลเนียล (ชม ชิม ช้อป) การแสดงของวงโปงลาง การสาธิตซุ้มอาหารของกลุ่มจังหวัดสนุก การแสดงนาฏลีลา”สู่อารยธรรม 3 ดินแดน ถิ่นนาคา”  พร้อมกับการเปิดตัวพิธีกร “ปุ้ย พิมลวรรณ    หุ่นทองคำ”และขบวนแห่ของดี 3 จังหวัด มุกดาหาร สกลนคร และนครพนม   

          โดยมีผู้ว่าราชการการจังหวัด 3 จังหวัด   ร่วมวางดวงตราประจำจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด ในฐานดวงตา ที่มีพญานาคคอยปกป้องคุ้มครองตามความเชื่อและศรัทธาของชาวอีสานลุ่มน้ำโขง  มีการแสดงรำพญา รำมวยโบราณ  การรำภูไท พร้อมกับมีการแจกรางวัลอีกมากมาย

          นอกจากนี้ยังมี มินิคอนเสิร์ต ต่าย  อรทัย เปิด ตัวด้วยเพลง “เบิ่งนครพนม”ซึ่งถือว่าเป็นศิลปินผู้สืบสานและถ่ายความเป็นความเป็นวัฒนธรรมอีสานได้ดีที่สุดคนหนึ่งในวงการศิลปิน งานจะไปสิ้นสุดในเวลาประมาณ 22.15 น. จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมงานท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ในครั้งนี้ ตาม เวลา ดังกล่าว โดยทั่วกัน


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20120913/139941/ตื่น!พญานาคโผล่พระพุทธบาทเวินปลา.html#.UFFz9aDvolg
http://www.sawasdeenakhonphanom.com/

[raponsan]

ไหว้รอยพระพุทธบาทกลางลำน้ำโขง ครั้งเดียวในรอบปี 13-15 เมษายนนี้

ลำน้ำโขงมักจะมีเรื่องราวลี้ลับเล่าขานกันอยู่เสมอ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นเพียงตำนาน หรือความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน

     แต่สำหรับ "รอยพระพุทธบาท" ซึ่งปรากฏอยู่ใจกลางโขดหินขนาดใหญ่ ติดริมวัดบ้านเวินพระบาทหมู่ 1 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ฝั่งตรงข้ามเมืองท่าแขก ส.ป.ป.ลาว กลับปรากฏหลักฐานชัดว่า พระพุทธศาสนาได้หยั่งรากลึก ณ ที่แห่งนี้มาตั้งแต่พุทธกาลแล้ว

     เชื่อกันว่า โบราณวัตถุชิ้นนี้เป็นรอยพระบาทพระพุทธเจ้ากลางน้ำแห่งเดียวในประเทศไทย หรืออาจเป็นแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ ซ้ำยังสามารถเดินทางมาสักการะได้ในเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่น้ำโขงลดระดับลงจนเกือบจะแห้งขอดเท่านั้น !!

      รอยพระพุทธบาทกลางลำน้ำโขงดังกล่าว ชาวบ้านแถบนี้เรียกกันติดปากว่า ”รอยพระพุทธบาทเวินปลา” โดยตั้งอยู่เยื้องจุดสร้างสะพานข้ามโขงขึ้นมาทางเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร วัฒนา นิลสาขา ปลัด อบต.เวินพระบาท เล่าตำนานของรอยพระพุทธบาทกลางลำน้ำโขงเพิ่มเติมว่า จากบันทึกใบลาน ซึ่งจารึกตำนานพระอุรังธาตุยุคสร้างองค์พระธาตุพนมรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.8 ระบุไว้อย่างโลดโผนพิสดารว่า

      โขดหินกลางลำน้ำโขงเป็นรอยพระพุทธบาทในสมัย "พระกัสปสัมมาสัมพุทธเจ้า"
      มีพระภิกษูรูปหนึ่งล่องเรือมาตามลำน้ำโขง แต่พอมาถึงโขดหินดังกล่าวเกิดอยากฉันน้ำ แต่ไม่มีขัน
      จึงเด็ดเอาใบไค้มาทำเป็นจอกน้ำตักน้ำขึ้นมาฉัน แต่ไม่ได้ปลงอาบัติตามพระวินัย
      ครั้นพระรูปนั้นมรณภาพ ด้วยผลกรรมจึงมาเกิดเป็น "พญาปลาปากคำ (ปลาตะเพียนทอง)"
      มีบริวาร 500 ตัว เพื่อชดใช้กรรม

      มีตำนานเล่าขานอีกว่า พญาปลาปากคำตัวนี้ จะมีอายุยืนยาวไปถึงยุคที่พระศรีอาริยเมตไตรย
      จะลงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใหม่เลยทีเดียว

      ตำนานพระอุรังคธาตุจารึกว่า ครั้งสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าเสด็จมาเผยแพร่พระธรรมในสุวรรณภูมิผ่านภูกำพร้า อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นจุดที่สร้างองค์ธาตุพนม ทรงพักที่ใต้ต้นฮัง เมืองท่าแขก ส.ป.ป.ลาว จุดที่สร้างองค์พระธาตุอิงฮัง

       กระทั่งเมื่อเสด็จมายังโขดหินแห่งนี้ จึงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์สงสัยจึงถามว่า
       เหตุใดพระองค์จึงแย้มพระโอษฐ์ จึงตรัสว่า
       มีพญาปากคำใต้ลำน้ำนี้ อยากได้ของที่ระลึกไว้สำหรับกราบไหว้บูชา
       พระพุทธองค์จึงประทับรอยพระบาทไว้บนโขดหินนี้ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของพญาปากคำ
       ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั้งสองฝั่งโขงมาจนถึงทุกวันนี้

       มีตำนานเล่าขานกันมาช้านานว่า ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง
       มักพบเห็นรัศมีใกล้รอยพระพุทธบาทแห่งนี้อยู่เป็นประจำ
       จนทำให้ไม่มีใครกล้ามาจับสัตว์น้ำในบริเวณนี้

       พอถึงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี โขดหินนี้จะโผล่พ้นน้ำให้เห็นปีละครั้ง
       และจะมีปลาจำนวนมากมาอาศัยอยู่รอบโขดหิน ซึ่งเชื่อกันว่า สัตว์น้ำก็มาบูชารอยพระบาท
       ทำให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขงก็เดินทางมาประกอบพิธีเพื่อถวายเป็น "พุทธบูชา" ด้วยเช่นกัน

      ปิยะชัย โชติวุฒิมนตรี นายก อบต.เวินพระบาท บอกว่า รอยพระพุทธบาทเวินปลาแห่งนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะจนกลายเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ รวมทั้งคนลาวจากอีกฝั่งโขงที่จะมาร่วมสักการะรอยพระพุทธบาทในช่วงสงกรานต์เป็นประจำทุกปี

      ดังนั้น อบต.เวินพระบาท จึงเกิดแนวคิดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วย โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วยประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
      นายก อบต.เวินพระบาทระบุว่า งานประเพณีไหว้รอยพระพุทธบาทจัดขึ้นในวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี และปีนี้ อบต.ก็จะจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

      โดยในปีนี้จะมีการสร้าง "สะพานไม้" ลงไปที่โขดหินเพื่อให้ประชาชนลงไปกราบไหว้ และสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล ขณะที่บนฝั่งก็มีการจัดมหรสพสมโภชอย่างครับครันทั้งวันทั้งคืน

      นี่คืองานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเวินพระบาท หากนักท่องเที่ยวท่านใดอยากสักการะรอยพระพุทธบาทเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และสัมผัสวัฒนธรรมไทย-ลาว (มีญวนผสมด้วย) ริมสองฝั่งโขง รับรองว่ามาไหว้รอยพระพุทธบาทกลางน้ำที่นครพนมไม่ผิดหวังแน่นอน

      "ชาญยุทธ โคตรธรรม"


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20090403/7970/ไหว้รอยพระพุทธบาทกลางลำน้ำโขงครั้งเดียวในรอบปี1315เมษายนนี้.html#.UFF7pKDvolh