« เมื่อ: กันยายน 22, 2012, 09:24:15 am »
0
iPhone 5 กับ 4G LTE
iPhone 5 เปิดตัวมาได้หนึ่งสัปดาห์พอดี เนื่องจากรอบคอลัมน์นี้พลาดข่าวเปิดตัว iPhone 5 ไปเพียงคืนเดียว ผมจะมาเขียนถึงในวันนี้คงช้าและล้าสมัยไปสักหน่อย (อ่านบทวิเคราะห์ iPhone 5 ได้ที่ http://www.blognone.com/node/35994 เขียนไว้แล้วคงไม่ขอเล่าซ้ำนะครับ)
คอลัมน์วันนี้ เลยอยากพูดถึงประเด็นเล็กๆ เพียงประเด็นเดียวของ iPhone 5 แทน หลายคนอ่านชื่อหัวคอลัมน์คงรู้จักมันแล้ว แต่ผมเชื่อว่ามีคนอีกเยอะที่ยังงงๆ อยู่ว่าคืออะไร ก็ขอใช้พื้นที่ตรงนี้มาอธิบายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครับ
ฟีเจอร์อย่างหนึ่งที่สำคัญของ iPhone 5 คือมันรองรับเครือข่ายโทรศัพท์แบบ 4G หรือชื่อเทคนิคที่เราเรียกว่า LTE (ภาษาอังกฤษมาจากคำว่า Long-term Evolution ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก)
เทคโนโลยี LTE ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในต่างประเทศมีใช้กันมาสองสามปีแล้ว (เช่น สหรัฐและเกาหลีใต้) อธิบายง่ายๆ ว่ามันเป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลที่ให้ความเร็วเหนือกว่า 3G ในปัจจุบันอีกหลายเท่าตัว มาถึงตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า เราจะเอาเครือข่ายที่เร็วกว่า 3G มาทำไมกัน ในเมื่อ 3G ก็เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันแล้ว
คำตอบก็คือผมอยากให้ลองมองว่า 4G คือ ไฮสปีดอินเทอร์เน็ตแบบที่โฆษณากันในโทรทัศน์ (และหลายๆ ท่านคงใช้งานอยู่แล้ว) แต่เปลี่ยนจากแบบมีสายเป็นไร้สายแทนครับ อะไรที่เราเคยทำได้กับอินเทอร์เน็ตไฮสปีดหรือ ADSL สามารถทำได้บนเครือข่าย 4G ทั้งหมด เพียงแค่ขยายพื้นที่จากในบ้าน-ที่ทำงาน มาเป็นใต้ต้นไม้ ริมถนน บนรถเมล์ ฯลฯ ได้ด้วย
เครือข่าย 4G ไม่จำเป็นต้องใช้งานกับมือถือเพียงอย่างเดียว เราสามารถใช้กับแท็บเล็ตก็ได้ หรือจะใช้กับโน้ตบุ๊กผ่านแอร์การ์ดก็ได้อีกเหมือนกัน
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเรามีเครือข่ายไร้สายที่เร็วมากๆ จนสามารถดูวิดีโอ YouTube HD แบบไม่ต้องรอโหลดก่อน ความฝันที่เราจะนอนดูทีวีออนไลน์ในรีสอร์ตบนภูเขา คงไม่ห่างไกลจนเกินไปนัก (จริงๆ มันทำได้มากกว่านี้อีกเยอะครับ ขึ้นกับจินตนาการเลยล่ะ)
ข่าวร้ายที่น่าเสียใจก็คือ เมืองไทยยังไม่มี 4G ในวันนี้ เนื่องจากยังไม่มีเครือข่ายที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ให้ทำระบบ 4G
เรื่องอุปกรณ์ที่ใช้เครือข่าย 4G คงไม่มีปัญหา ปัจจุบันมือถือหลายๆ ตัวของ Samsung, LG, HTC ที่ขายในต่างประเทศก็รองรับ 4G เรียบร้อยแล้ว (ก่อน iPhone 5 เป็นปีๆ) เพียงแต่เวลานำมาขายในเมืองไทยไม่ได้นำรุ่น 4G มาขายเท่านั้นเอง ดังนั้น ขอเพียงเมืองไทยเริ่มให้บริการ 4G เมื่อไร มือถือเหล่านี้สามารถนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ทันที
ข่าวดีก็คือ เมืองไทยกำลังจะมี 4G ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยคลื่น 1800MHz ที่ปัจจุบันเป็นของ True Move (ไม่ใช่ True Move H) และ GSM1800 กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายน 2556 และทาง กสทช. ก็แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะนำคลื่นนี้มาให้บริการ 4G แทน ซึ่งคงใช้เวลาอีกไม่นานจนเกินไป
คำถามที่ผมพบบ่อยในเรื่อง 3G/4G ก็คือ มือถือของเราใช้งานได้แค่ไหน จำเป็นต้องข้ามจาก 3G ไปเป็น 4G เลยหรือไม่
คำตอบก็คือไม่จำเป็นครับ
ถึงแม้ชื่อเทคโนโลยีฟังดูเชื่อมต่อกันเป็นรุ่น จาก 2G ไป 3G แล้วเป็น 4G แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราใช้งาน 2G/3G/4G ควบคู่กันได้ในมือถือเครื่องเดียว
มือถือที่ทุกวันนี้ใช้งาน 3G ได้ แปลว่ามันสามารถทำงานได้ทั้งโหมด 2G และ 3G ในเวลาเดียวกัน มือถือเครื่องเดียวรับคลื่นได้สองระบบพร้อมกัน ถ้าปิดการใช้งาน 3G เพราะไม่อยากเปลืองค่าเน็ต เราก็ยังใช้โทร.ออกด้วยระบบ 2G ได้
มาเป็นยุคของมือถือ 4G ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน นั่นคือมือถือเครื่องเดียวต่อเชื่อมได้ทั้งสามระบบ ต่อให้ผมหิ้วมือถืออย่าง iPhone 5 ที่รองรับ 4G ได้จากต่างประเทศมาใช้งานในประเทศไทย มันก็สามารถทำงานโหมด 2G และ 3G ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรนั่นเอง.
มาร์ค Blognone ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/tech/292443http://i7.in.th/,http://blog.lnw.co.th/