บทที่ 8 พระอาจารย์องค์แรก.....เป็นพระ.......( 3 )

ดอกไม้แห่งความหวัง เริ่มปรากฏชัดขึ้นในดวงจิต กับความหวัง ที่อาตมาพยายามหาครูอาจารย์ ที่เป็น
สุปฏิปันโน มาตั้งนานตอนนั้นในใจมีความเปี่ยมหวัง และวาดจินตนาการตามอำนาจของสังขาร คิดเป็น
ประการต่าง ๆ เกี่ยวกับหลวงพ่อที่อยู่ในถ้ำท่านคง ชราภาพมากแล้ว บุคคลิกของท่านต้องเหมือนผู้ใหญ่
ร่างกายคงซูบผอม เพราะทานน้อยหรือไม่ได้ทาน ดวงตาท่านคงเปี่ยมประกายแห่งผู้มีพลังจิต ธรรมะที่
ท่านกล่าวต้องมุ่งตรงสู่ใจ อากัปกิริยาการเคลื่อนไหวท่าน ต้องสำรวมระวัง อย่างแช่มช้อย อาตมาวาด
จินตนาการไว้อย่างสวยหรู โดยเทียบเคียงกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งหลวงพ่อที่ท่านนั่งกรรมฐาน
อยู่ในถ้ำนั้น ลูกศิษย์ท่านแม้พระอุปัฏฐากดูแลท่าน ก็ยังน่าเคารพกราบไหว้ ท่านต้องเป็นพระสุปฏิปันโน
ที่น่าจะเรียบร้อย อีกองค์หนึ่งแน่ ในช่วงเช้าอาตมาก็นั่งบ้าง นอนบ้าง และวาดจินตนาการ จะฝากฝังตน
เองเป็นศิษย์จะทำอย่างไร จะพูดอย่างไร ( เฮ้อ คิดดูสิ ขนาดทำความดี คิดดี มันก็ยังฟุ้งซ่านได้เลยนะ
ไม่ใช่ว่าคนเราจะฟุ้งสร้าน ได้เฉพาะกับการคิดชั่วนะ
พระพุทธองค์ จึงทรงตรัสเรื่องการฝึกจิต เพราะจิตที่สงบนั้นจักมองเห็นตามความเป็นจริงได้ ตอนนั้น
อาตมา ก็นั่งบ้าง นอนบ้าง ในถ้ำอากาศเย็น ๆ กลิ่นควันธูป ในมุ้งอากาศดี ๆ บริสุทธิ์ ความง่วงก็เลยครอบงำ
ตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลา 16.00 น.กว่า ๆ มองเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่า ๆ รูปร่างท้วม ๆ
หน้าตาผ่องใส กำลังกวาดทำความสะอาดบริเวณหน้า องค์พระ อาตมานอนมองอยู่ตั้งนานจึงแน่ใจว่า ไม่ใช่
หลวงพี่พูนแน่ ก็คิดในใจว่า ต้องเป็นพระที่มาใหม่ในวันนี้แน่ คิดดังนั้นก็เลยลุกจากมุ้งออกไปเพื่อนมัสการท่าน
และจะสนทนากับท่าน

ก็ได้ยินเสียงทักทาย ทุ้ม ๆ ว่า
ตื่นแล้วหรือโยม อาตมาคงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนโยมตื่นขึ้นมานะ
ครับ ไม่ได้รบกวนหรอกครับ
ตาก็มองท่าน อยู่ก็คิดว่าจะเริ่มต้นถามท่านอย่างไรถึงจะเข้าใจได้ว่าท่านเป็นใคร มาตอนไหน
แต่ก่อนอื่นต้องใช้สรรพนามเรียกท่านก่อนจะเรียกว่าอย่างไรดี น้าก็เลยคิดว่าเรีบก หลวงพี่ ดีกว่าถ้าเทียบอายุ
กับเราตอนนี้ ท่านก็เป็นรุ่น ลูก
เมื่อใจคิดดังนั้น ก็เลยเริ่มการสนทนาใหม่ ทันที
หลวงพี่พึ่งมา หรือครับ ผมจึงไม่เคยเห็น
เงียบ ท่านสงบมองหน้า อาตมานิ่งสักครู่แล้ว จึงตอบว่า
อาตมา พึ่งมา เหมือนโยม ที่พึ่งมาเหมือนกัน
หลวงพี่ อยู่ที่ไหนมาก่อนครับ
อาตมาก็อยู่ที่วัดใน โคราช โน่นนะ
หลวงพี่จะมาอยู่นี่กี่ วันครับ
7 วัน เท่าที่อยู่ได้ นะ ท่านพูดเสร็จก็หัวร่อ เบา ๆ มือก็ยังกวาดพื้นต่อไปเรื่อย ๆ
เดี๋ยวโยมก็ ทำธุระส่วนตัวกันก่อนนะ เพราะอีกสักครู่จะได้สวดมนต์ทำวัตรเย็น ด้วยกัน
อาตมา ก็มองท่านตอนนั้นก็มองท่านก็ไม่เห็นจะแตกต่างอะไร จากพระอื่น ๆ ที่เคยเจอ โดยเฉพาะรูปร่าง
ท้วม ๆ ของท่าน มองเห็นปราดเดียวก็นึกได้เลยว่า ท่านคงติด นั่ง นอน สบาย ฉัน สบาย ๆ แบบพระในเมือง
ที่เคยพบ ตอนนี้คงออกมาเที่ยว เพื่อพักผ่่อน ดูแล้วไม่น่าสนใจ ที่จะสนทนากับท่าน แต่ในใจกับมีความรู้สึกอีก
อย่างหนึ่ง คือตอนที่ท่านยืนอยู่ด้วย รู้สึกว่ามีความสุข สมองคิดได้ไว พอท่านเดินจากไปที่อื่น รู้สึก คิดอะไร
ต่อไม่ค่อยออก ตอนนั้นก็นึกถึง หลวงพี่พูน ว่าตอนนี้ท่่านอยู่ที่ไหน
ตั้งใจจะสนทนากับท่าน ตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้เราเองกับนอนหลับตื่นขึ้นมา แล้วยังไม่ได้สนทนากับท่านเลย
นี่แหละน้า ที่ โบราณกล่าวว่า นานาจิตตัง คือคิดได้เป็นเรื่อง เป็นราว แต่ไม่ได้ทำสักเรื่อง
อืม.......