ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์โดยแท้" Z พระญาณสังวร Z  (อ่าน 3049 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ในสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระเชตวัน ใกล้กรุงสาวัตถีในโกศลรัฐ
ได้มีบุคคลผู้หนึ่งในชนบทสู่ขอธิดาของตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถีให้แก่บุตรของตน
ตกลงกันกำหนดวันประกอบพิธีมงคลเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาเขาได้ถามอาชีวก (นักบวชจำพวกหนึ่ง) ผู้เป็นที่นับถือของตนว่า
วันนั้นฤกษ์ดีหรือไม่

อาชีวกโกรธว่าไม่ถามตนเสียก่อน กำหนดวันกันแล้วมาถามภายหลัง
จึงหล่าวว่า วันนั้นฤกษ์ไม่ดี อย่าทำมงคล ถ้าทำจะเกิดมหาวินาศ
พวกเขาก็พากันเชื่อ เมื่อถึงวันนัดก็ไม่ไปเพราะกลัวจะเกิดมหาวินาศ

ส่วนทางฝ่ายหญิงซึ่งได้เตรียมการมงคลทั้งปวงไว้แล้ว
รออยู่ไม่เห็นฝ่ายชายมาก็พากันโกรธเพราะได้ตกลงวันกันไว้
ได้ตระเตรียมสิ่งทั้งปวงสิ้นเปลืองไปเป็นอันมาก ทั้งเป็นการเสียหน้าแก่ฝ่ายหญิง
จึงได้ยกธิดาให้แก่ชายในตระกูลอื่นซึ่งเป็นผู้ขอรับแทน
ได้ประกอบพิธีมงคลตามที่เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยไปในวันนั้นเอง

ครั้นวันรุ่งขึ้น พวกฝ่ายชายที่สู่ขอไว้ก่อนจึงพากันไป
ก็ถูกพวกฝ่ายหญิงด่าว่าขับไล่ให้กลับ พวกฝ่ายชายก็โต้ตอบ
เกิดวิวาทกันขึ้นแต่ก็ไมไ่ด้หญิงเพราะเขายกให้คนอื่นไปแล้ว ต้องพากันกลับ

ข่าวเรื่องอาชีวกนั้นทำการทำนายทายทักเป็นอันตรายแก่การมงคล
ปรากฏไปทั่วนครจนทราบถึงหมู่ภิกษุ

พระพุทธเจ้าได้ทรงทราบจากหมู่ภิกษุ
ก็ได้ตรัสเล่าเรื่องทำนองเดียวกันที่เกิด
เพราะถือฤกษ์ยามผิดๆ ในอดีตกาลแก่ภิกษุทั้งหลาย
แล้วตรัสประทานโอวาทแปลความว่า
"ประโยชน์ล่วงเลยคนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดาวทั้งหลายจะทำอะไรได้"

ตามพระพุทธโอวาทนี้แสดงว่า
อันฤกษ์งามยามดีนั้น ก็คือ ประโยชน์ที่จะพึงได้
ถ้าเสียประโยชน์ก็ชื่อว่า เสียฤกษ์
ฉะนั้นโดยที่แท้ ประโยชน์จึงเป็นฤกษ์ของประโยชน์ มิใช่ดวงดาวที่ไหน
ส่วนการที่เชื่อดวงดาวไปอย่างหลงๆ จนถึงพากันเสียประโยชน์ต่างๆ
บางทีผู้ทำนายทายทักเองก็ถูกจับตัวไปลงโทษ
นี่แหล่ะเรียกว่า ฤกษ์ไม่ดีหรือว่าฤกษ์มหาวินาศ

พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในที่อื่นอีก
โดยความว่า
"ทำดีเวลาเช้า เป็นฤกษ์ดีเวลาเช้า
ทำดีเวลากลางวัน เวลาเย็น
เป็นฤกษ์ดีเวลากลางวัน เวลาเย็น" เป็นต้น

รวมความว่า ทางพระพุทธศาสนาถือว่า
"ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์โดยแท้"

--------
คัดลอกจากหนังสือ...
เรื่อง วิธีการของพระพุทธเจ้า (หัวข้อ วิธีล้างบาปของพระพุทธเจ้า)
นิพนธ์ในเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร (สุวฑฺฒนมหาเถระ)
พิมพ์น้อมถวายเป็นวิทยาทานโดยมหามงกุฏราชวิทยาลัย
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒ หน้า ๘๐ - ๘๑



บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

dam_black

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 17
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ สาธุ สาธุ

 
บันทึกการเข้า