ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบความเห็นว่า ปฏิบัติกรรมฐาน รวม กับ เดี่ยว อันไหนได้ผล มากกว่ากันครับ  (อ่าน 6599 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากทราบความเห็นว่า ปฏิบัติกรรมฐาน รวม กับ เดี่ยว อันไหนได้ผล มากกว่ากันครับ
 คือ เห็นหลายท่าน ชอบไปปฏิบัติที่วัดกันเป็นหมู่คณะ
    บางท่านก็ชอบจะอยุ่คนเดียว

  แท้ที่จริงแล้ว แบบไหน จะดีกว่า ครับ

  :c017:
บันทึกการเข้า

teepung

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 52
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เราชอบไปปฏิบัติ รวมกับ เพื่อน ๆ คะ รู้สึกว่า จะทำได้คะ แต่ถ้ามาทำคนเดียวแล้ว ไม่ค่อยจะทำได้ เพราะเหมือนให้สังคมบังคับเราไปกลาย ๆ คะ

  :25:
บันทึกการเข้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าถามว่า อันไหนได้ผลมาก กว่ากัน
   ก็คงจะยืนยันเลยทีเดียวก็ไม่ได้
    เพราะต่างกันที่จริต(ธาตุ)
     บางคนชอบแบบนี้ บางคนไม่ชอบแบบนี้
     บางคนชอบแบบนั้น บางคนก็ไม่ชอบแบบนั้น
       จริตบางคนชอบพูดคุย จริตบางคนไม่ชอบพูดคุย
       
         แต่ความสําเร็จจะมีได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ไม่ใช่ส่วนนอก
     ความศรัทธา ความมีสัจจะ ความระลึกในพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ และไม่ลืมเป้าหมาย ปณิธานที่ตั้งไว้ หรืออธิฐานไว้ ..
      ธรรมภายใน ไม่ขาดภาวนา ไม่หลงไม่ลืมภาวนา
      และถ้าเป็นศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา ก็ไม่ลืม นิมิตทั้งสามประการ
       เพราะนิมิตสามประการทําให้เข้าถึง พุทธานุสสติ
       
      ขอให้เจริญในธรรม และอยากให้ทุกท่านอย่าลืม

      เป้าหมาย ศรัทธา ปณิธาน
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่า ผู้ฝึกใหม่ ๆ น่าจะต้องปฏิบัติกันเป็นกลุ่ม มีเพื่อนกันก่อนนะครับ เพราะให้เพื่อนช่วยดึงและบังคับกันไปในตัว แต่เมื่อมีความชำนาญแล้ว ก็ควรจะต้อง ภาวนาคนเดียวครับ

  ผมเองเวลาเดินจงกรม มีเพื่อนเดินด้วย ก็เดินได้หลายชั่วโมงครับ แต่ครั้นพอมาเดินคนเดียว ก็เดินสัก 30 นาทีครับก็เลิกแล้ว เป็นเพราะใจยังไม่แข็งพอครับ ตรงนี้ต้องอาศัยมานะ มาช่วยบ้างใช้กิเลสให้เป็นประโยชน์ครับ

  :49:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7263
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อุปปนิสัย ของมนุษย์ นั้นส่วนมากชอบมีเพื่อน
   
  แต่การเป็นพระอริยะบุคคล แท้ ๆ นั้น ต้องละจากเพื่อน
  เปรียบเหมือนบุรุษที่กำลังแหวกว่าย กระเสือก กระสน ข้ามน้ำอันเชี่ยวกราก  เพื่อไปสู่อีกฟากฝั่งหนึ่งนั้น ถ้ายังมัวแต่ห่วงคนนั้น คนนี้ต้องช่วยคนนั้น  คนนี้ ก็ต้องถูกกระแสอันเชี่ยวกราก นั้นกลืนกินเช่นกัน ดังนั้น  พระอริยะบุคคลขั้นสูงนั้น ย่อมต้องตัดห่วง ละห่วง ไปแต่เพียงผู้เดียว  แต่เมื่อไปถึงแล้ว จึงค่อยหาวิธีการช่วยเหลือคนที่กำลัง กระเสือก กระสนอยู่  ที่ยังพอจะช่วยได้
   
  เข้าใจหรือไม่ ? แต่ก็ต้องตอบตามความเป็นจริง เป็นเช่นนี้
   
   หนทางนี้แล เป็นหนทางอันประเสริฐ เป็นเครื่องระังับทุกข์  หนทางนี้เรียกว่าทางสายกลาง อันประกอบด้วยองค์แปด  เป็นธรรมและหนทางของพระอริยะเจ้า เราเป็นผู้บอกทาง  ส่วนเธอนั้นต้องดำเนินในหนทางเอง
   
   เจริญธรรม / เจริญพร

 
 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็ขอเป็นกําลังใจให้กับท่าน
         สําหรับบางท่านที่ยังต้องการหมู่เพื่อน
              มีธรรมคําหนึ่งที่ว่า เพราะปีติ เป็นราก เป็นเหง้า เป็นเค้า เป็นโคลง เป็นมูล ของธรรม
           แต่คําตอบ ของพระอาจาย์ ก็คือที่สุด หรือการสิ้นสุด ในเป้าหมาย ปณิธาน
            คือการสิ้นสุดแห่งสังสารวัฏนี้ คือ ความไม่เกิด ไม่ดับ
             หรือความ ไม่ต้องมาเกิด

         ขณะที่ต้องการปฏิบัติ กับหมู่เพื่อน แล้วทํากรรมฐานได้นาน
       ....เพราะอาศัยมานะ..
              คําว่า มานะ ก็คือ ขอแยกเป็นสามอารมณ์
                    เห็นว่าเราได้ดีกว่าเขา
                     เห็นว่าเราแย่กว่าเขา
                      เห็นว่าเราได้เสมอเขา หรือเขาก็พอๆกับเรา

          ทั้งสามอารมณ์ เป็น มานะสังโยชน์  หรือเครื่องกีดขวาง การทําลายสังโยชน์
             ถ้าเราต้องการที่จะเป็น สาวกภูมิ หรือ พระอริยะบุคคล เพื่อออกจากสังสารวัฏนี้
       .............เราต้องทําอย่างไร............ก็ไม่รู้ตรงนี้ตอบแทนกันไม่ได้.....ขึ้นอยู่กับตัวของทุกท่าน

       เพราะตรงนี้ยังอยากพูดคุย ยังอยากเห็น อยากรู้

        ก็ไม่แปลกสําหรับผู้ที่กําลังรวมลมรวมธาตุ

         เมื่อถึงเวลาหนึ่งท่านก็จะรู้เอง ว่าท่านจะทิ้งเพื่อนตอนไหน...ท่านจะทิ้งของท่านเอง........
       
           จงเข้าให้ถึงอากาศ  เพราะอากาศ ไม่อยู่กับใคร

            ปัจจัตตัง เวทิตับโพ วิญญูหิติ(ของอะไรรู้ได้เฉพาะตน)

      ก็ว่าไปตามปีติ     เพราะปีติ เป็นราก เป็นเหง้า เป็นเค้า เป็นโคลงเป็นมูล ของธรรม
     
   ขอให้เข้าถึงธรรม

                   
                   
                 
   
         
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การภาวนา เป็นของเฉพาะตน ไม่ใช่ของส่วนรวม ผู้ภาวนาย่อมเห็นธรรมของตนเอง ครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
ปฏิบัติ เดี่ยว ครับ ดีที่สุด แต่ ขอให้มีครูอาจารย์ ปรึกษากรรมฐาน อยู่ใกล้ ๆ ก็เพียงพอครับ ผมว่าทุกวันนี้ผมขาดครูอาจารย์ ที่ปรึกษาแจ้งกรรมฐาน ครับ .....

    :s_hi: :49:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา