พระไสยาสน์ วัดภูค่าว กับ 'ปริศนาคำกลอน'
พระไสยาสน์ วัดภูค่าว กับปริศนาคำกลอน : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม : เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์
มา กาฬสินธุ์ ทั้งที ไม่แวะมาที่วัดภูค่าว ก็เหมือนขาดอะไรไป เพราะความพิเศษที่วัดนี้มีทั้งพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระพุทธเจ้า และยังมีพระไสยาสน์ปางตะแคงซ้าย แถมวันอากาศดีๆ มองเห็นไปถึงสันเขื่อนลำปาว
ถ้าไปจากกาฬสินธุ์ ก็ยึดเส้นทางไป อ.สหัสขันธ์ และ อ.สมเด็จ ถึงสามแยกสหัสขันธ์ ก็เลี้ยวขวาผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอสหัสขันธ์ไปทาง อ.สมเด็จ ราวๆ 5-6 กม. วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ บอกทางซะละเอียดอย่างนี้ ก็เพราะไม่มีป้ายบอกทางเหมือนกับไปพิพิธภัณฑ์สิรินธร (อุทยานไดโนเสาร์) เขื่อนลำปาว หรือสะพานเทพสุดา
วัดภูค่าว หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ วัดพุทธนิมิต(ภูค่าว) อยู่ในเขตบ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ เพียงแค่แยกถนนเข้าวัด ก็ต้องชะลอรถถ่ายรูปเจดีย์ ที่ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งดูยิ่งใหญ่
นมัสการถามเจ้าอาวาส พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงฺคโล ได้ความว่า คำว่า ค่าว เป็นภาษาอีสานหมายถึงเชือกเส้นใหญ่ๆ ซึ่งก็คงหมายถึงรูปร่างภูเขาและด้วยความที่วัดนี้อยู่เนินเขา ชาวบ้านก็เลยเรียกกันว่า วัดภูค่าว
เข้าเขตวัดมา นอกจากทึ่งกับแท่งหินแกะสลักขนาดใหญ่หน้าทางเข้าออก ยังทึ่งกับ อุโบสถไม้ ที่สวยงาม ผสมผสานระหว่างศิลปะภาคกลางและล้านนา เสาแต่ละต้นต้องเรียกว่า "ซุง" มีเขียนกำกับไว้ว่าเป็นไม้ใต้เขื่อนลำปาว (มีเอกสารกำกับอย่างถูกต้อง) และที่ทึ่งมาแต่ไกล ก็คือ องค์พระมหาธาตุเจดีย์ ที่สร้างด้วยหินแกะสลักทั้งองค์
ฐานเจดีย์แกะสลักเป็นรูปลิงแบกฐานพระพุทธรูป ตัวมหาธาตุเจดีย์ที่สูง 80 เมตร
ความกว้างของมหาธาตุเจดีย์ ขนาด 45x45 เมตร ประตูแต่ละด้านสูง 7 เมตร
ภายในประกอบด้วยเสาใหญ่ 32 ต้น ด้านผนังมีระเบียงด้านบนประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณต่างยุคต่างสมัย ส่วนด้านล่างประดิษฐานพระพุทธรูปหินสลัก 129 องค์
ยอดมหาธาตุเจดีย์ ทำด้วยทองคำหนัก 30 กก. และยังบรรจุอัญมณีมูลค่ามหาศาลจากผู้มีจิตศรัทธา
และที่สำคัญไปกว่านั้น บริเวณกลางเจดีย์ด้านในมีมณฑปไม้โลงเลง เป็นไม้เนื้อหอมชนิดหนึ่งจาก ส.ป.ป.ลาว ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และพระอริยสงฆธาตุ
เดินพินิจพิจารณาด้านนอก ด้านในพระมหาธาตุเจดีย์แล้ว ยังไม่เห็นพระไสยาสน์ตะแคงซ้าย ยังไงก็ไม่กลับ ลองขับรถเลยเข้าไปด้านในที่เป็นทางวนรถออกได้ ถึงได้ความว่า พระไสยาสน์อยู่ในถ้ำด้านในนี่เอง
ตามทางเดินไปไหว้พระไสยาสน์ จะผ่านหอกลอง ศาลาปฏิบัติธรรม ลานฤาษี ศาลบูชาพระบรมรูป ร.5 รวมถึงศาลบูชาเง็กเซียนฮ่องเต้ ที่มีนกยูงเป็นสิบป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่าง ส่วนที่ลานยังมีฝูงกวาง กระรอก กระแต ที่อยู่รวมกันอย่างสงบ
ระหว่างทางผ่านป้ายไม้ เขียนข้อความไว้
"พระหลงหมู่ อยู่ภูถ้ำบก
แสงตาตก พบเงินหกแสน คำหกแสน
ไผหาได้ ดินทานหาแหน่
ที่เหลือจากนั้น กินเสี่ยงบ่หลอ"
ปริศนาธรรมนี้ มีมาแต่โบราณ (ชยมงฺคโล นิมิต) ข้อความนี่เอง เหมือนบอกใบ้ว่าบริเวณแถว "พระหลงหมู่" ในถ้ำบก มีสมบัติซุกซ่อนอยู่
และว่ากันว่าน่าจะหมายถึงพระไสยาสน์ตะแคงซ้ายในถ้ำภูค่าวนี่เอง เพราะมีเรื่องราวที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีโคตรบูรณ์ ที่จัดงานสมโภชน์พระธาตุพนม ที่อัญเชิญพระอุรังคธาตุ(กระดูกหน้าอก)ของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ และแจ้งสารไปยังหัวเมืองขอมด้านเขมรต่ำที่เป็นเมืองขึ้น ให้รวบรวมทรัพย์สมบัติมาร่วมสมโภช
แต่การเดินทางแสนลำบากเลยไปไม่ทัน มาได้แค่บ่อน้ำซับคำม่วง (บ่อคำม่วง) ไม่ไกลจากภูค่าว จึงตกลงจะฝังสมบัติที่ขนมา และแกะสลักรูปพระอรหันต์ "พระมหาโมคคัลลา" อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ในอิริยาบถไสยาสน์ตะแคงซ้ายหันเศียรไปทางด้านที่ตั้งของพระธาตุพนม พร้อมกับฝากปริศนาไว้
จนคนรุ่นต่อมาเข้าใจว่าเป็นลายแทงสมบัติ และมีคนไปขุดหาจำนวนมากแต่ก็มีอันเป็นไปทุกราย
จนชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างเลื่อมใสศรัทธา พากันมากราบไหว้
ปัจจุบันมีการจัดงานมนัสการปิดทองในวันที่ 19 เมษายนของทุกปี
พระไสยาสน์พระศิลาจำหลัก มีความยาว 2.25 เมตร อายุกว่า 2,500 ปี
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นปูชนียวัตถุโบราณ โดยกรมศิลปากร เมื่อปี 2484
แม้จะยังไม่มีใครแก้ปริศนาคำกลอนโบราณนี้ได้ แต่คำสอนที่สอดแทรกอยู่ทั่วไปในบริเวณวัดนี่แหละ ล้ำค่าของจริงโดยไม่ต้องขุดหา (พระไสยาสน์ วัดภูค่าว กับปริศนาคำกลอน : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม : เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)
ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20121125/145563/พระไสยาสน์วัดภูค่าวกับปริศนาคำกลอน.html#.ULLfumfvolh