พิมพ์

[raponsan]

เทคนิค "ฝึกจิตพิชิตใจ..ถวายองค์ราชันย์"

"การดูจิตของคนเราคือดูจิตให้มีความสุขอยู่เสมอ เมื่อเรามีความสุขแล้ว ก็ควรมอบความสุขที่มีให้คนอื่นด้วย เพื่อที่ทุกคนจะได้มีความสุขเสมอกัน" คำสอนดังกล่าว เป็นหนึ่งในการบรรยายของ "พระอาจารย์ธวัชชัย ธัมมทีโป" จากศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ บ้านวังเมือง จ.พังงา ที่มาบรรยายธรรมหัวข้อ "ฝึกจิตพิชิตใจถวายองค์ราชันย์" ในโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" จัดขึ้นโดยซีพี ออลล์

     "เวลาเถียงพ่อแม่หรือเวลาโกรธเรามีสติหรือไม่"
     คือ คำถามแรกที่ "พระอาจารย์ธวัชชัย" ถามผู้ฟัง ซึ่งส่วนใหญ่ตอบว่า มีสติทั้งสิ้น

พระอาจารย์ธวัชชัยจึงได้กล่าวต่อไปว่า "เรารู้ตัวว่าเราทำอะไร เพราะเรามีสติ แต่ที่ยังเถียงพ่อแม่ ยังโกรธและโมโหอยู่แสดงให้เห็นว่า
    เรามีสติแต่ยังขาดสัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัวความยับยั้งชั่งใจที่เกิดจากจิตใต้สำนึก
    ถ้าขาดการฝึกจิตก็จะมีแค่สติ ไม่มีสัมปชัญญะ
    แนะนำวิธีฝึกจิตตามแนวทางมหาสติปัฏฐาน 4 อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาไว้ดังนี้

ขั้นที่หนึ่ง ผู้ฝึกนั่งตัวตรง กำหนดลมหายใจเข้าออกไปที่ปลายนิ้ว
ขั้นที่สอง กำหนดลมหายใจเข้าออกย้ายไปที่หน้าอกตรงกลางลิ้นปี่และนึกคำว่า "ความสุข"
ขั้นที่สาม กำหนดลมหายใจเข้าออกไปที่หน้าอกตรงกลางลิ้นปี่ ยกฝ่ามือขึ้นตั้งฉากกับตัว และขยับฝ่ามือเข้าหาตัวอย่างช้าๆ คล้ายๆ กำลังจะปรบมือ
ขั้นที่สี่ หันไปจับคู่กับคนข้างๆ แล้วกำหนดลมหายใจเข้าออกไปที่หน้าอกตรงกลางลิ้นปี่ หงายฝ่ามือเข้าหาคู่ตนเอง ในขณะที่คู่ของเราคว่ำฝ่ามือเข้าหา เสร็จแล้วค่อยๆ ขยับฝ่ามือขึ้นลงอย่างช้าๆ พร้อมกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ ทำสลับกันแล้วถามคู่ของเราว่า มีความรู้สึกเป็นอย่างไรเมื่อเราเผยแผ่จิตไป

วิธีการฝึกจิตทั้ง 4 ขั้นของพระอาจารย์นั้น เมื่อผู้ฝึกปฏิบัติได้แล้ว จะสร้างความสุขให้แก่ตนเองและเผยแผ่ให้กับผู้อื่น การแผ่ความสุขให้แก่ผู้อื่นนั้นในที่สุดความสุขก็จะกลับมาหาตนเอง

เมื่อสอนวิธีฝึกจิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์ธวัชชัย ได้นำฝึกจิตเพื่อเผยแผ่ความสุขไปยังคนในห้อง ญาติพี่น้องของผู้ฟังทั้งหลาย และร่วมกันฝึกจิตเพื่อเผยแผ่ความสุขถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้อานิสงส์ผลบุญที่ได้ทำในครั้งนี้เผยแผ่ไปทุกสารทิศทั่วไทย และเกิดความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป

หลังจากนั้นได้อธิบายถึงขั้นตอนการทำสมาธิที่สามารถแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

๑. เป็นไปเพื่อความสงบ คือ การทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ แต่หากจิตยังวกวนอยู่กับสิ่งรอบๆ กายที่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลาที่กำลังทำสมาธิทำให้ไม่สามารถพ้นจากทุกข์ไปได้เพราะจิตยังไม่สงบ

๒. เป็นไปเพื่อญาณทัศนะ คือ การทำสมาธิเพ่งจิตจนสามารถเห็นภาพนรกและสวรรค์ โดยอาการดังกล่าวเมื่ออยู่ในยานแห่งสมาธิก็จะสามารถเห็นได้ แต่ไม่สามารถพ้นทุกข์ได้ เมื่อทำสมาธิเสร็จแล้วก็ต้องกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนเดิม

๓. เป็นไปเพื่อสติ สัมปชัญญะ คือ การทำสมาธิและสามารถรับรู้ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของความคิดและอารมณ์ต่างๆ สามารถรู้ได้ว่าสิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา

๔. เป็นไปเพื่อละอาสวกิเลส คือ การทำสมาธิเพื่อละกิเลสต่างๆ ที่เข้ามาในจิตใจ จนทำให้เห็นการเกิดดับของจิต บุคคลใดเห็นจิตเกิดดับตลอดทั้งกลางวันกลางคืน บุคคลดังกล่าวสามารถสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "จิตตํ ทนฺตํ สุขาวหํ" แปลว่า "จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้" เมื่อบุคคลใดได้ฝึกจิตดีแล้วย่อมได้ที่พึ่งอันเกษม ได้ที่พึ่งอันแท้จริง เพราะบุคคลทั้งหลายเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วย่อมมีสุขเกษมเป็นที่ไป

หลักธรรมและข้อคิดดีๆ ที่นำมาเสนอนั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ปีที่ 17 โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม จัดขึ้นโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น
     ผู้ที่สนใจฟังการบรรยายธรรมเพิ่มเติมสามารถเข้ามารับฟังการบรรยายได้ที่
     อาคาร ซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น.
     โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNekExTVRJMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB3TlE9PQ==