อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากให้เขาไปสัมผัสสักครั้ง
หากมีโอกาสได้ไปเยือนประจวบคีรีขันธ์ที่ "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ"
"พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" มหัศจรรย์ความงดงามคู่ประจวบฯ
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์ของประเทศไทยมีอยู่มากมายกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งน่าเสียดายที่ในบางจังหวัดนักเดินทางเลือกที่จะท่องเที่ยวเพียงสถานที่ยอดฮิตจนมองข้ามสถานที่ดีๆแห่งอื่นไป วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จะพาไปแนะนำอีกหนึ่งความอัศจรรย์ด้านการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดที่มีดีมากกว่าทะเลและแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างหัวหิน
ในสถานที่ที่ถือเป็นความมหัศจรรย์แห่งเลข 5 และเลข 9 "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ"
ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า บนยอดเขาธงชัย บริเวณวัดทางสาย บ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จัดสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ซึ่งได้รับการออกแบบจาก ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกประจำราชสำนัก และศิลปินแห่งชาติ ด้วยความพิถีพิถันและทุ่มเทออกแบบอย่างสุดฝีมือ
จนถูกยกเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง โดยพระมหาธาตุเจดีย์เป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 9 มีความงดงามและโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น คล้ายกับวิมานที่ลอยฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ”พระประธานปรางค์ลีลา
ด้วยความสวยงามและโดดเด่นในทุกด้านของ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ สถานที่นี้จึงถูกยกมาเป็นอีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ยกให้เป็นหนึ่งในแคมเปญ "10 สิ่งมหัศจรรย์ ประจวบคีรีขันธ์ เที่ยวได้ทุกวัน เที่ยวได้ทุกวัย" การออกแบบพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศเป็นความตั้งใจของผู้สร้างให้ได้ใช้ประโยชน์ในทุกสัดส่วนให้มากที่สุดในการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
โดยเจดีย์เป็นทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานไพที รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 50 เมตร สูง 50 เมตร
โดดเด่นด้วยหมู่พระเจดีย์ 9 องค์ เพียงแค่เห็นด้านนอกในระยะไกลระหว่างเดินทางเข้าไปชมด้านในก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ตระการตา เป็นพระมหาธาตุที่งดงามอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนภาพจิตกรรมฝาผนังชั้นที่ 3 - ชั้นที่ 4
จิตกรรมที่วาดผ่านกระจกที่งดงาม
จิตกรรมที่วาดผ่านกระจกที่งดงาม
ภายในประกอบด้วยชั้นต่างๆ 5 ชั้น
ชั้นล่างสุดชั้นที่ 1 ใช้เป็นที่เก็บกักน้ำฝนไว้ใช้งาน โดยพระมหาธาตุฯถูกออกแบบให้มีร่องระบายน้ำฝนจากด้านบนลงสู่ชั้นที่ 1 ได้หลายช่องทาง
ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงอเนกประสงค์ เป็นสถานที่ไว้ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวใช้สำหรับประกอบกิจกรรมทางธรรมในวันสำคัญต่างๆทางศาสนา
ชั้นที่ 3 เป็นวิหารที่มีความกว้างขวาง โอ่โถง ไว้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญอย่างการรับผ้ากฐิน ผ้าป่า และฟังธรรมเทศนา แต่งเติมสีสันด้วยภาพจิตกรรมฝาผนังที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยด้วยภาพ ประเพณี การละเล่น ของแต่ละภาคที่รังสสรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม
ชั้น 4 เป็นชั้นของอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานปรางค์ลีลา ไว้เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้เข้ามากราบไหว้สักการะ ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม เช่น ภาพพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่อยู่ด้านหลังขององค์พระประธาน ฯลฯ ซึ่งในชั้นนี้จะมีส่วนของระเบียงด้านนอกที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลได้อย่างสวยงาม
สำหรับชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในบุษบก และประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางประจำพระชนมวาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
จิตรกรรมฝาหนังที่แสดงความจงรักภักดี
ระเบียงสำหรับชมความงดงามของทิวทัศน์ทะเล
โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 9 ปี 8 เดือน 12 วัน (ระหว่าง13 พค.2538-25 มค.2548) ใช้งบประมาณการก่อสร้างที่ได้รับจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ที่ร่วมกันบริจาคมากกว่า 2 ร้อยล้านบาท
ซึ่งในส่วนของชั้นที่ 5 จะเปิดให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยว ได้สักการะเฉพาะเทศกาลวันวิสาขบูชา จำนวน 3 วัน คือ ขึ้น 14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี
แต่ในส่วนของชั้นที่ 1 - 4 เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 17.00 น.
และในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะมีการเปิดแสงไฟรอบพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยลความงดงามยามค่ำคืนอีกด้วยพระพุทธกิติสิริชัย
ไม่เพียงความงดงามของพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศเท่านั้นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ บริเวณลานกว้างด้านล่างก่อนที่จะถึงทางขั้นไปยังพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ยังประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ
โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า “พระพุทธกิติสิริชัย”
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ ลักษณะนั่งขัดสมาธิเพชรบนดอกบัวมีริ้วจีวรเป็นผ้าทิพย์พระนามาภิไธย มีพระพักตร์ที่งดงามมาก องค์พระก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 5 วา มีความสูงพร้อมฐาน 9 วา หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล คอยปกป้องดูแลชาวบ้านทั้งที่อยู่ในบริเวณและยามออกไปทำมาหากินในท้องทะเล
ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.dailynews.co.th/article/821/185670