พิมพ์

[raponsan]

อธิกรณ์ปรับอาบัติ 'ปู่เณรคำ' ขาดความเป็นพระสงฆ์แล้ว

คณะทำงานพิจารณา อธิกรณ์ปรับอาบัติหลวงปู่เณรคำ ลงมติให้ หลวงปู่เณรคำขาดจากการเป็นพระ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...

เวลา 10.30 น.วันที่ 13 ก.ค.2556 ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีการประชุมคณะทำงานพิจารณาอธิกรณ์ปรับอาบัติหลวงปู่เณรคำ ซึ่งคณะกรรมการหรือคณะทำงานประกอบไปด้วย พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต พระครูกิตติวรโสภณ รักษาการเจ้าคณะอำเภอกันทรารมย์ และคณะรวม 5 รูป ซึ่งในการประชุมคณะทำงานไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังการประชุมแต่อย่างใด การประชุมใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงแล้วเสร็จ

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมคณะทำงานพิจารณาอธิกรณ์ปรับอาบัติหลวงปู่เณรคำโดยจากการที่ได้รับข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ DSI ในเรื่องต่างๆ พร้อมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาได้มามอบให้ และจากการที่มี น.ส.เอ (นามสมมติ) ได้ออกมาเปิดเผยกับทาง DSI และผู้สื่อข่าวว่าเคยมีความสัมพันธ์กับหลวงปู่เณรคำ ทำให้ทางคณะทำงานได้มีมติปรับอาบัติหลวงปู่เณรคำ คือให้พระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ต้องปาราชิก ขาดจากความเป็นพระตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ในส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้น พระครูวัชรสิทธิคุณ กล่าวว่า การที่หลวงปู่เณรคำ ขาดจากการเป็นพระสงฆ์แล้วนั้นก็ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่มีสำนักแล้วซึ่งในส่วนของบ้านเมืองก็สามารถดำเนินการในด้านกฎหมายของบ้านเมืองไปได้ส่วนการวินิจฉัยบัติ วินิจฉัยพระธรรมวินัยที่ทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้นั้นใน ฝ่ายสงฆ์ก็ถือว่าจบลงแล้ว

ส่วนบรรยากาศภายในที่พักสงฆ์ขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ วันนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ได้มีประชาชนจากต่างจังหวัดได้พากันมาเที่ยวชมและไหว้พระแก้วมรกตจำลองกัน จำนวนประมาณ 60 คนทยอยกันมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่เคยมาที่นี่และมาเป็นครั้งแรก เนื่องจากไม่เคยรู้จักหรือเคยได้ยินมาก่อน แต่พอเป็นข่าวจึงทำให้รู้ว่ามีอะไรอยู่ที่นี้จึงได้พากันมาเที่ยวชม.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/356960

[raponsan]

เจ้าคณะจังหวัดอุบลฯ ลงนามขับพระเณรคำ
พร้อมตรวจสอบทรัพย์สิน-พระในสังกัด

เมื่อ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือสั่งขับพระเณรคำออกจากสังกัด พร้อมให้พระอุปัชฌาย์ตัดขาดความเป็นศิษย์-อาจารย์ มีผลให้เณรคำต้องสิ้นสภาพการเป็นพระ ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งตรวจสอบสมบัติที่พักสงฆ์ และเรียกพระในสังกัดเณรคำมารายงานตัว

ที่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบและเป็นพระเลขาคณะสงฆ์จังหวัด นำหนังสือคำสั่งที่ 1/2556 ให้พระวิรพล ฉัตติโก หรือพระเณรคำพ้นจากการเป็นพระในปกครองของวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ และการปกครองของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตจังหวัดอุบลราชธานี ให้พระราชธรรมโกศลเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อลงนาม

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค.คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือสั่งให้พระวิรพลเข้ามารายตัวชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาละเมิดพระธรรมวินัย เสพเมถุนกับสีกา ฟอกเงิน และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่พระวิรพลไม่มารายงานตัวตามคำสั่งภายในวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงถือว่าพระวิรพลไม่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าอาวาสและไม่มีความประสงค์อยู่ในสังกัดของคณะสงฆ์จังหวัดแล้ว จึงให้ขับออกจากวัดและพ้นจากการปกครองของคณะสงฆ์ด้วย

ขณะเดียวกันพระราชธรรมโกศล ยังลงนามในคำสั่งให้มีการตรวจสอบที่พักสงฆ์สาขาของพระเณรคำที่ตั้งอยู่ในจังหวัดรวม 3 แห่ง คือ ที่ อ.วารินชำราบ อำเภอพิบูลมังสาหาร และอำเภอสิรินธร เพื่อตรวจสอบสภาพที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยให้กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งสอบถามเจ้าของที่ดินที่บริจาคยังมีความประสงค์ จะให้ใช้ตั้งเป็นวัดต่อไปหรือไม่ หากต้องการให้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขออนุญาตมายังสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดอย่างถูกต้องตามระเบียบด้วย

ส่วนพระสงฆ์ที่อยู่ในสังกัดของพระเณรคำ ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 10 รูป ให้เข้ามารายตัวต่อเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแสดงความประสงค์อยู่ในการปกครองของคณะสงฆ์จังหวัดต่อไปด้วย โดยหนังสือคำสั่งที่ขับพระเณรคำออกจากการปกครอง คณะสงฆ์จังหวัดจะส่งไปให้เจ้าคณะจังหวัดทั้งมหานิกายและธรรมยุต ทั้ง 77 จังหวัดรับทราบ รวมทั้งรายงานให้มหาเถรสมาคมทราบด้วย

ขณะเดียวกันพระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ ได้นำหนังสือการตัดขาดจากการเป็นศิษย์กับอาจารย์ให้พระสุนาถมุนี เจ้าอาวาสวัดศรีนวล และเป็นเจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งเป็นพระอุปัชาฌาย์ของพระเณรคำลงนามขับในวันเดียวกัน ซึ่งจะมีผลให้พระเณรคำต้องหาพระอุปัชฌาย์ใหม่ภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นก็จะสิ้นสภาพการเป็นพระโดยปริยาย

ซึ่งพระราชธรรมโกศลกล่าวถึงการบวชใหม่หลังถูกขับของพระเณรคำ ตามธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อมีพระถูกขับจากการปกครองและตัดขาดจากการเป็นลูกศิษย์-อาจารย์ จะไม่มีพระรูปใดรับเป็นพระอุปัชฌาย์ เนื่องจากขัดธรรมเนียมปฏิบัติของมหาเถรสมาคม ส่วนพระเณรคำจะไปบวชกับนิกายอื่นที่ไม่อยู่ในสังกัดของพระไทยหรือไม่ตอบไม่ได้ และเมื่อคืนพระเณรคำก็ได้ไม่ติดต่อมา จึงได้มีหนังสือคำสั่งขับให้พ้นจากปกครองในวันนี้เป็นต้นไป

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM016WTRPVGsxTlE9PQ==&subcatid=