ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘หงส์เหิน’ เข้าพรรษา‘วาระแห่งบุญ’ขุนเขาสุวรรณบรรพต  (อ่าน 1758 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

‘หงส์เหิน’ เข้าพรรษา‘วาระแห่งบุญ’ขุนเขาสุวรรณบรรพต

“ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะใช้ ดอกเข้าพรรษา ที่เก็บได้จากตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท นำมาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ ใน พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง สถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา”

...นี่เป็นการระบุของ ชนัตถ์ นันทปัญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี ขจรศักดิ์ นันทปัญญา เป็นหัวเรือใหญ่ในฐานะนายกเทศมนตรี เป็นการระบุเกี่ยวกับพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาที่ทางจังหวัดสระบุรีจัดขึ้นทุกปี ซึ่งทางเทศบาลเมืองพระพุทธบาทก็สนับสนุนเต็มที่มาโดยตลอด


 :welcome: :welcome: :welcome:

พิธีนี้ก็มีเรื่องราวแห่งบุญที่น่าสนใจ...

ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อครั้งพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ก็เคยมีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาใช้ดอกไม้ คือดอกมะลิ ถวายแด่พระพุทธองค์ในระหว่างที่เสด็จบิณฑบาต ขณะที่ชาวอำเภอพระพุทธบาทก็มีประเพณี มีพิธีที่ใช้ดอกไม้ตักบาตรถวายพระสงฆ์ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาของทุกปี คือ ’พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา“ ซึ่งปี 2556 พิธีนี้มีการจัดขึ้นในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. วันละ 2 รอบ ช่วงเช้าและบ่าย

ดอกไม้ที่ใช้ในพิธีตักบาตรของที่นี่ถูกเรียกขานว่า “ดอกเข้าพรรษา”ซึ่งในทางข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ นี่คือ ’ดอกหงส์เหิน (Globba winiti)“ เป็นดอกของพืชในวงศ์ขิง ไม้ดอกเมืองร้อนที่เกิดในป่าร้อนชื้นสามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย, พม่า, เวียดนาม มักเกิดภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่หรือตามชายป่า โดยจะมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแต่ท้องถิ่น เช่น แถบจังหวัดตากเรียกว่า กล้วยจ๊ะก่า, แถบจังหวัดลำพูนเรียกว่า กล้วยจ๊ะก่าหลวง, แถบจังหวัดเชียงใหม่เรียกว่า กล้วยเครือคำ, แถบจังหวัดพิษณุโลกเรียกว่า ก้ามปู, แถบจังหวัดเลยเรียกว่า ว่านดอกเหลือง แถบภาคกลางเรียกว่า ขมิ้นผี หรือกระทือลิง ส่วนที่จังหวัดสระบุรีคือ “ดอกเข้าพรรษา”

ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวประเภทเหง้าแบบมีรากสะสมอาหาร ส่วนของลำต้นเหนือดินคือกาบใบที่เรียงตัวกันแน่นทำหน้าที่เป็นต้นเทียม มักจะขึ้นเป็นกลุ่มกอ และสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ส่วนดอกออกเป็นช่อแทงออกมาจากยอดของลำต้นเทียม



ดอกไม้ชนิดนี้มีคติความเชื่อไม่ธรรมดา...

ดอกหงส์เหิน หรือดอกเข้าพรรษา ช่อดอกจะมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงาม ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีก้านดอกย่อยเรียงอยู่โดยรอบ ประกอบด้วยดอกจริง 1-3 ดอก มีสีเหลืองสดใส คล้ายรูปตัวหงส์กำลังเหินบิน มีกลีบประดับขนาดใหญ่ตามช่อโดยรอบจากโคนถึงปลาย ซึ่งดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหินนี้แต่ละปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีนั้น พบว่ามี 2 สกุลคือ สกุลกระเจียว ซึ่งจะมีดอกเป็นสีขาวหรือสีขาวอมชมพู และสกุลหงส์เหิน ที่มีสีเหลืองสดใส

กับประเพณี และพิธี “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” ของชาวอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีนั้น ก็ มีคติความเชื่อที่ว่า...ดอกหงส์เหินหรือดอกเข้าพรรษานี้ เมื่อนำมาใช้ตักบาตรถวายพระจะได้บุญกุศลแรง และจากสีของกลีบประดับที่มีได้หลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีม่วง แต่ละสีก็จะมีความเชื่อที่แตกย่อยออกไปอีก กล่าวคือ...กลีบประดับที่มีสีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งก็จะนิยมใช้ในพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษามาก ขณะที่กลีบประดับสีเหลือง จะหมายถึงพระสงฆ์หรือสีแห่งพระสงฆ์ ส่วนกลีบประดับที่มีสีม่วง ด้วยความที่หาได้ยากที่สุด จึงเชื่อว่าเมื่อใช้ในพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาจะได้บุญกุศลมากที่สุด



แต่ไม่เท่านั้น...พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษานี้ เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำดอกไม้นี้ไป ’สักการะรอยพระพุทธบาท“ ซึ่งก็เชื่อว่าจะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ซึ่งมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่าพระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระบาทไว้ 5 แห่ง โดยรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯแห่งนี้เป็น 1 ใน 5 แห่ง ซึ่งตามประวัติว่าไว้ว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยามีคณะพระสงฆ์ไทยเดินทางไปยังลังกาทวีปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท และทางพระสงฆ์ลังกาได้ระบุว่าในประเทศไทยเองก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่แล้วที่เขาสุวรรณบรรพต จึงได้มีการพยายามสืบค้นหา ซึ่งก็มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทนี้ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม

ทั้งนี้การ “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” ที่จังหวัดสระบุรี ถือเป็นประเพณีระดับประเทศ และหนึ่งเดียวในโลก ที่แฝงไว้ด้วยความเชื่อเกี่ยวกับบุญ เกี่ยวกับพระพุทธองค์ เป็นอีกหนึ่งงานบุญใหญ่ในช่วงวัน อาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา

ช่วงวาระสำคัญทางพุทธศาสนาจะเวียนมาอีกครั้ง
จะที่ไหน-จะแบบใด ที่สำคัญคือเป็น ’โอกาสบุญ“
มี ’โอกาสสำคัญ“ ชาวพุทธก็อย่าได้หลงลืม...!!!.


ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/article/223/220107
http://www.khaosod.co.th/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2013, 09:09:06 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ