ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วัดสุนันทาราม จากเมล์คะ  (อ่าน 4662 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
วัดสุนันทาราม จากเมล์คะ
« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2010, 12:31:36 pm »
0

เจริญสติ @ วัดสุนันทวนาราม : 2
เขียนโดย violet_ladybird 18.4.09

จิ้ม ย้อนหลัง เจริญสติ @ วัดสุนันทวราราม :


บล็อกที่แล้ว เกริ่นไปเยอะแล้ว ... ถึงเวลาเจาะลึกแล้วค่ะ ว่า 9 วัน ในวัด อยู่ยังไง ทำอะไรบ้าง


เริ่ม จากสถานที่ ... วัดป่าสุนันท์ฯ มีพื้นที่ 1,500 ไร่ ต้นไม้เยอะ ร่มครึ้ม ทำให้อุณหภูมิกลางเดือนเมษา ในจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ร้อนอย่างที่คิด ... แถมยังเจอฝนเป็นระยะเกือบทุกวัน ตกลงมามากบ้างน้อยบ้าง แต่ช่วงกลางวันแดดแรง ก็เหงื่อซกเหมือนกันค่ะ


ตั้งแต่ ปากทางเข้า ไปจนด้านใน มองเห็นต้นไม้เขียวตลอดค่ะ ... เราสองคนเพิ่งมาครั้งแรก ก็งงๆ งมเข้าไปหาที่จอดรถ แล้วไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ลงทะเบียนค่ะ ... พอได้ห้องพักก็มีเจ้าหน้าที่เดินพาไปส่ง


ได้ ห้องเบอร์ 7 ที่อาคารวิริยะ ... อาคารแต่ละหลังมีห้องพักประมาณ 10 ห้อง ขนาดของแต่ละห้องก็ราวๆ 2 เมตร คูณ 2 เมตร ... ภายในเป็นห้องโล่ง มีราวแขวนผ้าเล็กๆ พร้อมเสื่อ หมอน ผ้าห่ม ไม่มีไฟ ไม่มีปลั๊กค่ะ


นอก จากอาคารแบบมีห้องย่อยแบบนี้แล้ว ก็มีอาคารแบบหลังใหญ่ ที่นอนรวมกันด้วยค่ะ ... อุบาสิกาจะได้นอนห้องย่อยค่ะ ห้องละ 2-3 คน แต่ถ้ามากันหนาแน่น ห้องย่อยเต็ม ก็ต้องไปนอนอาคารนอนรวมค่ะ ... ส่วนอุบาสก ได้ห้องนอนรวมแน่นอนค่ะ



เก็บของเปลี่ยนเสื้อแล้วก็รีบเดินไปที่ ธรรมศาลา ค่ะ ไปปฐมนิเทศ ฟังกำหนดการ และรับศีล 8 ... ที่นี่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมหลักค่ะ ทำวัตรเช้า เดินจงกรม นั่งสมาธิ ฟังธรรม รับพร เหมือนศาลาการเปรียญของวัดหล่ะค่ะ ... เป็นศาลาไม้หลังใหญ่ ที่มีลานด้านหน้า และทางเดินรอบๆ ศาลา ไว้ให้เดินจงกรมค่ะ



ที่ นี่เลยมีป้ายเตือนเพื่อ งดใช้เสียง และใช้เครื่องมือสื่อสารต่างๆ เพื่อความสงบค่ะ ... ถ้าจะกระซิบนิดๆ เบาๆ ก็พอได้ค่ะ แต่ก็มีบางคนที่ไม่สนใจคนรอบข้างและคำเตือนใดๆ คุยเสียงดัง เปิดมือถือ รับสาย คุยโฉ่งฉ่าง


แล้ว อีกเรื่องที่ต้องระวังเวลาขึ้นธรรมศาลา คือ การเดิน ค่ะ ... เป็นศาลาไม้ เดินลงส้น จะดัง และสะเทือนไปทั่ว รบกวนคนอื่นที่นั่งอยู่ คุณเจ้าหน้าที่เตือนว่า ให้เดินเหมือนแมวย่อง ค่ะ ... น้ำหนักการเดิน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนนักตัวนะคะ เพราะผู้ชายตัวโตๆ บางคนเดินเบา เดินเงียบ กว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ บางๆ อีกค่ะ


มา เข้าสู่กิจวัตรประจำวันกันต่อค่ะ ... 2.45 เสียงระฆังปลุก ให้ลุกมาล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมตัวไปทำวัตรเช้าค่ะ ... บางคนก็ลุกไปอาบน้ำเลยนะคะ เก่งจริงๆ ค่ะ อากาศเย็นฉ่ำ น้ำเย็นเฉียบ


คืน แรกไม่ได้ยินเสียงระฆังปลุกเลยค่ะ ได้ยินเสียงคนเปิดประตู และเดินไปมา ก็ลืมตาตื่นมาคิดว่า เค้าตื่นก่อนระฆัง หรือ ระฆังตีไปแล้ว ... พอคว้ามือถือมาดูเวลาก็ตาลุกเลยค่ะ จะตีสามครึ่งแล้ว รีบตาเหลือกเลยค่ะ ... แต่คืนต่อๆ มา ได้ยินเสียงระฆังก็ตื่นทันที หลังๆ ตื่นก่อนระฆังอีกค่ะ


3-4 วันแรก ไปถึงก็นั่งสมาธิเลยค่ะ แล้วเริ่มต้นทำวัตรเช้าตอน 4.00 น. แล้ว 5.00 ก็ฟังธรรมจากพระอาจารย์ค่ะ ... แต่ 4-5 วันหลัง สลับกันค่ะ เริ่มทำวัตรเช้าตอน 3.15 แล้วต่อด้วยนั่งสมาธิ และฟังธรรมรับอรุณ


6.00 น. ก็เดินจงกรมค่ะ ... บางวันมีเดินจงกรมรอบพิเศษ ที่พระอาจารย์จะเดินนำชมรอบๆ วัดค่ะ ... แต่ก่อนจะไปเดินจงกรม ส่วนใหญ่ก็จะแวะพักดื่มกาแฟ ชา โอวัลติน สักหน่อยก่อนค่ะ


ช่วงนี้พอจะมีเวลาว่าง บางคนก็เลือกที่จะไปอาบน้ำ แต่เราสองคนกลับเข้าห้องไปงีบค่ะ ... เพราะอากาศยังเย็น รออาบสายๆ หน่อยดีกว่า


8.00 น. ก็ไปธรรมศาลา สมาธิภาวณา ฟังธรรม รับพร ... 9.00 น. ก็ไปถวายภัตตาหาร และเข้าแถวรอรับประทานอาหารค่ะ จัดเป็นเวลาโปรดของวันเลยค่ะ เพราะกินได้มื้อเดียว ไม่มีใครพลาดแน่นอน


อาหาร ที่นี่มีทั้งอาหารที่พระท่านรับบิณฑบาตรมา และอาหารที่ทางโรงครัวทำใหม่ค่ะ ... มีทั้งแบบมังสวิรัติ และแบบที่มีเนื้อสัตว์ค่ะ ผลไม้ ขนมหวานพร้อม ... เจ้าหน้าที่จะจัดวางบนโต๊ะ ให้เลือกตักเองแบบบุฟเฟ่ต์เลยค่ะ แต่ไม่ได้ตักใส่จานนะคะ แต่เป็นกะละมังใบโต เลือกตักได้มากน้อยตามชอบใจค่ะ


อาหารแต่ละวันก็จะเปลี่ยนไปนะคะ ทางโรงครัวทำเมนูใหม่ๆ มาเปลี่ยนค่ะ อร่อยทั้งนั้น ... อิ่มแล้ว ก็ต้องเอากะละมังไปล้างเองนะคะ
อิ่ม แล้วก็มีเวลาพักผ่อนอีกสักหน่อย จะไปงีบ ไปอาบน้ำ หรือ ช่วยงานในวัดก็ได้ค่ะ ... กวาดพื้น ถูศาลา จัดหนังสือ ขัดห้องน้ำ หรือช่วยงานอื่นๆ ค่ะ


11.00 น. ได้เวลาธรรมบรรยาย จะมีพระอาจารย์ ทั้งพระ และแม่ชี มาบรรยายธรรม นำเจริญสติ ... อานาปานสติ คือ การใช้ลมหายใจในการฝึกสติค่ะ คำประจำคือ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ... ซึ่งการเจริญสตินี้ ทำได้ ทั้ง นั่ง ยืน เดิน นอน ค่ะ


ปฏิบัติ 1 ชั่วโมง ก็ได้พัก 1 ชั่วโมงค่ะ ... 13.00 น. กลับมาปฏิบัติกันต่อค่ะ จะนั่งสมาธิ เดินจงกรม หรือ ยืนเจริญสติ ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ เลือกได้ตามชอบใจ และตามถนัด ... หรือจะอ่านหนังสือ ศึกษาพระธรรมคำสอนก็ได้ค่ะ


15.00 น. ธรรมปุจฉา-วิสัชนา กับ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก (อ่านว่า คะ-เว-สะ-โก) ท่านเจ้าอาวาส ... พระอาจารย์เป็นคนญี่ปุ่น แต่พูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดีค่ะ แต่ยังติดสำเนียงญี่ปุ่นอยู่บ้างค่ะ ... ช่วงนี้จัดเป็นช่วงเวลาโปรดเลยค่ะ เพราะพระอาจารย์จะตอบคำถามที่ผู้ปฏิบัติเขียนคำถามไว้ค่ะ และบางทีพระอาจารย์ก็เล่าเรื่องอื่นๆ ให้ฟังด้วย สนุกค่ะ ... เป็นช่วงที่เราสองคนจะต้องหาที่นั่งที่มองเห็นพระอาจารย์ค่ะ เพราะหน้าตา ท่าทางเวลาท่านเล่า ช่วยให้เรื่องสนุกขึ้นค่ะ


16.00 น. เป็นอีกช่วงที่โปรด เพราะได้พักดื่มน้ำปานะ ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงครัวจะเตรียมใส่กระติกมาวางไว้ให้ ... ได้ลุ้นทุกทีว่าวันนี้จะได้ดื่มน้ำอะไร น้ำมะตูม น้ำขิง น้ำใบเตย น้ำลำไย น้ำมะขาม+ชา น้ำเก็กฮวย+หล่อฮังก้วย น้ำกระเจี๊ยบ

ใน รูปใหญ่เป็นศูนย์รวมค่ะ พระอาจารย์มิตซูโอะ จะนั่งรับญาติโยมที่มาเยี่ยมตรงนี้ ... ด้านหลังท่านเป็นโรงฉัน ที่พระท่านจะนั่งฉันช่วงเช้าค่ะ ... ส่วนรูปเล็ก เป็นโรงดื่มน้ำปานะ และ หนังอ่านหนังสือค่ะ


ดื่ม น้ำปานะแล้ว ก็ได้พักค่ะ จะทำงานเล็กๆ น้อยๆ อ่านหนังสือ สนทนาธรรมเพิ่มเติมกับพระอาจารย์ก็ได้ค่ะ ... แล้วก็ไปจัดการอาบน้ำ ทำความสะอาดห้องพัก เตรียมตัวสำหรับกิจกรรมรอบเย็นค่ะ




ห้อง น้ำที่นี่ก็จะคล้ายกับห้องพักค่ะ คือเป็นอาคารแยกต่างหาก และมีห้องน้ำแยกย่อยเป็นห้องเล็กๆ ... ข้างในมีทั้งส่วนอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์ค่ะ ซึ่งมีทั้งแบบนั่งราบ และนั่งยอง เลือกได้ตามถนัดค่ะ ... ข้อแม้ของการใช้ห้องน้ำที่นี่ ซึ่งเป็นข้อตกลงกันคือ ตอนออก สะอาดกว่า ตอนเข้า


17.45 น. เสียงระฆังเตือนสำหรับกิจกรรมช่วงเย็นค่ะ ... 3-4 วันแรก ใช้ที่ ศูนย์เยาวชน ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไปราวๆ 1 กิโลเมตร ก็ค่อยเดินกันไป เดินเจริญสติไป ชมธรรมชาติข้างทางไปค่ะ ... 4-5 วันหลัง กลับมาใช้ที่ ธรรมศาลาเหมือนเดิม เพราะผู้ปฏิบัติทยอยกลับไปบ้าง สมาชิกน้อยลง


ทาง เดินร่มครึ้ม ต้นไม้เยอะ ถนนลาดยาง เดินสบายค่ะ ... วันแรกคนดียังนุ่งผ้านุ่งค่ะ แต่พอเห็นว่าที่นี่ให้ใส่กางเกงได้ ก็หันมาใส่กางเกงทุกวันเพราะเดินสะดวกกว่า


ใกล้ๆ กับศูนย์เยาวชน ก็มี เจดีย์ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างค่ะ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปลายปีหน้า ... ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ก็ยังน่ามองค่ะ แล้วมีวันนึงที่พิเศษ ที่ทางวัดจัดให้วางเทียนประดับเจดีย์ แสงเทียนสว่าง มองเพลินเลยค่ะ

18.00 น. เริ่มเดินจงกรม ... ทั้งรอบธรรมศาลา และ ศูนย์เยาวชน จะมีทางเดินที่ทำไว้ให้เดินจงกรมค่ะ ... แต่ก็มีรอบพิเศษ ที่พระอาจารย์พาเดินชมรอบวัดค่ะ


19.00 น. ทำวัตรเย็น ... มีหนังสือคู่มือให้ท่องตามค่ะ จะเริ่มจากบททำวัตรเย็นก่อน แล้วก็จะมีบทเสริม ซึ่งสลับสับเปลี่ยนกันไปตามแต่ท่านจะเลือกค่ะ

20.00 น. พระอาจารย์มิตซูโอะ มาบรรยายธรรมค่ะ จะนั่งสมาธิเจริญสติไปด้วย หรือ นั่งฟังอย่าเดียวก็ได้ค่ะ ... คืนแรกที่ฟัง มึน งง เพราะเคยแต่นั่งสมาธิแบบเงียบๆ หรือ มีเสียงเพลงคลอเบาๆ ... แต่นี่พระอาจารย์มิตซูโอะ บรรยายยาว แล้วยังเป็นภาษาไทยที่ไม่ชัดเจน ปนสำเนียงญี่ปุ่นอีก แล้วท่านจะพูดซ้ำๆ กว่าจะต่อประโยคได้ เพราะท่านต้องใช้เวลาเรียบเรียง และนึกคำ ... หูย ทำเอาสมาธิกระเจิง

แต่สัก 2 วันก็ปรับตัว ปรับหูได้ค่ะ ... ชินกับวิธีการพูด การเล่าเรื่องของท่านมากขึ้น ทีนี้ก็สนุกเลยค่ะ ฟังเพลิน

ซึ่ง ท่านพระอาจารย์มิตซูโอะก็เล่าเพลินค่ะ ... กำหนดการบอกว่าเข้านอนพักผ่อนตอน 21.00 น. แต่ก็เลยเป็น 21.30-21.45 เกือบทุกวัน ... แล้วก็ต้องเดินลุยทางมืดๆ กลับไปอาคารที่พักค่ะ

เรา สองคน อาบน้ำรอบเย็น พร้อมแปรงฟันเรียบร้อย แล้วพอถึงห้องก็เข้านอนเลย ... คืนแรกก็กระสับกระส่ายอยู่พักกว่าจะหลับได้ แต่คืนต่อๆ มา แป๊บเดียวหลับปุ๋ยค่ะ

นอกจากกิจวัตรประจำวันตามกำหนดการแล้ว ... บางวันก็มีกิจกรรมพิเศษเพิ่มมานิดๆ หน่อยๆ ขอต่อบล็อกหน้านะคะ บล็อกจะได้ไม่ยาวเกินไปค่ะ
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน