ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลึง.!! พระนอนใหญ่วิหารวัดดัง อ่างทอง  (อ่าน 2329 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 29446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ตะลึง!!พระนอนใหญ่วิหารวัดดังอ่างทอง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ได้รับแจ้งจากนายไพฑูรย์ แย้มวจี อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/3 ม.3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่ปรึกษานายกเทศบาลตำบลศาลาแดง ว่าทางวัดท้ายย่านได้ประชุมและให้เปิดวิหารภายในวัดที่ปิดตัวมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.2537 แล้ว เพื่อเปิดให้ประชาชนที่ศรัทธาได้มากราบไหว้บูชาและจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่ไปกับวัดร้างสังกระต่ายของตำบลศาลาแดงหลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว

เมื่อถึงวัดท้ายย่าน ม.3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้พบกับนายสนอง ชื่นชมพุทธ อายุ 74 ปี ไวยาวัจกรวัดท้ายย่าน ได้รับมอบหมายจาก พระปลัดปิยะพนัธ์ บูระกะโร เจ้าอาวาสวัดท้ายย่าน ให้ดำเนินการเปิดวิหารอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนที่ศรัทธากราบไหว้บูชาและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของตำบลศาลาแดงควบคู่ไปกับวัดร้างสังกระต่ายที่มีรากต้นโพธิ์ยึดติดอยู่

โดยนายสนองพร้อมคณะได้เปิดวิหารที่ปิดตัวเองมาตั้งแต่ปี 2537 โดยไม่มีใครรู้เลยว่าวิหารมีอะไรบ้าง เมื่อเปิดเข้าไปในวิหารต้องตะลึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบพระพุทธไสยาสน์ปุนญญาภา ซึ่งมีความยาว 18 วา 9 นิ้ว ความสูง 9 เมตรห่อหุ้มด้วยผ้าไหมทองสวยงามมาก และเป็นพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่อันดับ 2 รองจากพระไสยาสน์ขุนอินทประมูลและใหญ่กว่าพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกอีกด้วย





ประชาชนทั้งจังหวัดอ่างทองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าวัดท้ายย่านมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ นอกจากประชาชนในหมู่บ้านนี้เท่านั้น จากนั้นจึงได้ตรวจสอบประวัติพบว่าสร้างเมื่อปี 2531 หลังจากสร้างเสร็จปี 2537 ก็ปิดตายโดยไม่เปิดให้สักการะบูชาเลย

หลังจากนั้นได้ตรวจสอบภายในวิหารก็เจอกับรูปหล่อหลวงพ่อรอดที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นรูปหล่อโบราณ ลงรักดำทั้งองค์เนื้อปูนเก่าและรูปหล่อหลวงพ่อลาภคู่กันเป็นเนื้อปูนแต่มีรอยแตกอยู่บ้าง ซึ่งประชาชนชาวอ่างทองเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเกจิดังอันดับต้นๆของจังหวัดอ่างทอง โดยเครื่องรางของขลังดังทั่วประเทศ ซึ่งจะเปิดวิหารเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลสาลาแดงควบคู่กับวัดร้างสังกระต่ายต่อไป

 :25: :25: :25:

นายสนอง กล่าวว่า วัดท้ายย่านได้ปิดวิหารหลังจากหลวงพ่อบุญได้สร้างพระพุทธไสยาสน์เสร็จในปี 2537 โดยไม่เปิดให้สักการะบูชาและไม่มีใครรู้เลยว่าวัดท้ายย่านมีพระพุทธไสยาสน์ใหญ่เป็นอันดับ2ของจังหวัดอ่างทองนอกจากจะมีประชาชนในหมู่บ้านขนาดในตำบลบางคนก็ยังไม่รู้เลยว่า มีพระนอนซ้อนอยู่ในวิหารแห่งนี้ทางจังหวัดอ่างทองก็ไม่รู้

ทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลศาลาแดงได้ประสานทางวัดท้ายย่านเพื่อเปิดให้ประชาชนมาบูชาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลศาลาแดงควบคู่ไปกับวัดร้างสังกระต่ายเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้มาชื่นชมและสักการะบูชาเพราะวัดท้ายย่านมีเกจิดังและชื่อเป็นมงคลทั้ง4 องค์ คือ หลวงปู่รอด หลวงพ่อลาภ หลวงพ่อบุญและหลวงพ่อทาน ทั้ง 4 องค์ จะประดิษฐานที่วิหารวัดท้ายย่านเพื่อเปิดให้ประชาชนสักการระบูชาและเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป





นายไพฑูรย์ที่ปรึกษานายกเทศบาลตำบลศาลาแดง กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลศาลาแดงกำลังปรับปรุงภูมิทัศน์ที่วัดร้างสังกระต่ายเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอ่างทองอีก1 แห่ง จึงได้ประสานกับวัดท้ายย่านเพราะอยู่ตำบลศาลาแดงเพื่อให้เปิดวิหารเป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่ไปกับวัดร้างสังกระต่ายวัดท้ายย่านได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวรวมอีก 1 แห่งของตำบลศาลาแดง และสร้างฤาษีดัดตนจำวนวน 35 ท่า เพื่อให้เป็นที่ออกกำลังกายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากทำการสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่เปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้ตั้งแต่ตอนสร้างเสร็จก็ได้รับคำตอบจากนายสนองว่า ตนก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน ซึ่งหลังจากหลวงพ่อบุญสร้างเสร็จก็ปิดไม่เคยเปิดจนกระทั่งท่านได้มรณภาพไปในปีเดียวกัน ต่อมามีเจ้าอาวาสองค์ใหม่มาทำหน้าที่แทนก็ไม่มีการเปิดวิหารดังกล่าวจนท่านก็มรณภาพไปอีก แต่ล่าสุดตอนนี้คณะกรรมการวัดและทางเทศบาลตำบลศาลาแดงจึงได้ตกลงกันว่าจะเปิดวิหารเพื่อบูรณะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อหารายได้เข้าวัด



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056YzFNalUyTVE9PQ==&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ