พิมพ์

[raponsan]

แห่ไปดู.! พระนอนอ่างทอง-หนุนเปลี่ยนใหม่คำขวัญประจำจังหวัด

ชาวพุทธแห่สักการะพระนอนองค์ใหม่เมืองอ่างทอง ทั้งปทุมฯ นนท์ สุพรรณสระบุรี ขนาดชาวอ่างทองเองยังอึ้ง ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีพระนอนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน เทศบาลเตรียมเสนอให้เปลี่ยนส่วนหนึ่งของคำขวัญจังหวัด จาก "เมืองสองพระนอน" เป็น "เมืองสามพระนอน" ผอ.พศ.อ่างทอง เผยเคยบอกเจ้าอาวาสรูปก่อนให้เปิดวิหารเพื่อชาวบ้านได้สักการะ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร ทำให้มีแต่คนในละแวกใกล้เคียงเท่านั้นที่รู้

จากกรณีวัดท้ายย่าน อ.เมือง จ.อ่างทอง เปิดวิหารที่ปิดมานานเกือบ 20 ปี พบพระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ปุนญญาภา ความยาว 18 วา 9 นิ้ว ความสูง 9 เมตร ประดิษฐานอยู่ในวิหาร องค์พระห่อหุ้มด้วยผ้าไหมทอง นับว่าเป็นพระนอนซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของ จ.อ่างทอง ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

 

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ส.ค. มีชาวบ้านจำนวนมากไปชมและสักการะ พระพุทธไสยาสน์ปุนญญาภา ที่วัดท้ายย่าน ซึ่งมีทั้งผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง และมาจากต่างจังหวัด นายสนอง ชื่นชมพุทธ อายุ 74 ปี ไวยาวัจกรวัดท้ายย่าน เผยว่า หลังจากสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวออกไป ปรากฏว่า มีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาสักการะพระพุทธไสยาสน์ปุนญญาภา ตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมาจากหลายจังหวัด ทั้งปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี รวมถึงชาวอ่างทองด้วย

นางลัดดา จำนงเวช อายุ 46 ปี ชาวบ้านในจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากได้ดูข่าวแล้วเพิ่งทราบว่า วัดท้ายย่านแห่งนี้มีพระนอนองค์ใหญ่อยู่ จึงรีบมาดูให้เห็นกับตา เพราะอยู่ไม่ไกลจากวัด แต่ไม่เคยทราบเลยว่ามีพระนอนใหญ่ขนาดนี้ประดิษฐานอยู่ เมื่อมากราบไหว้บูชาแล้ว รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ด้านนายสหัส เสมอเหมือน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศาลาแดง กล่าวว่า พระนอนที่เห็นองค์นี้เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์และมักจะแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นด้วย เช่น เมื่อช่วงที่สร้างพระใหม่ก่อนที่จะทำพิธีนำเศียรพระมาลองใส่ว่าจะเข้าได้พอดี หรือต้องแก้ไขนั้น ขณะที่ช่างกำลังจะสวมลงไป ปรากฏว่าเศียรพระคล้ายถูกดูดเข้าไปติดกับองค์พระ ดึงอย่างไรก็ไม่ออก และหลังจากสร้างเสร็จมีวัยรุ่นที่มักขี่รถจักรยานยนต์ซิ่งเสียงดังผ่านวิหารดังกล่าว ต่างบอกว่ามักเห็นพระบาทของพระพุทธไสยาสน์ปุนญญาภายื่นออกมานอกวิหารบ่อยครั้ง

นายสหัสกล่าวอีกว่า หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวสารออกไปว่าที่วัดแห่งนี้ได้มีพระนอนอีกองค์ของจังหวัด สมาชิกเทศบาลและชาวบ้านต่างคิดกันว่า จะทำเรื่องเสนอไปทางจังหวัดอ่างทอง เพื่อปรับเปลี่ยนคำขวัญของจังหวัดใหม่ จากพระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน มาเป็น ′พระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสามพระนอน′ แต่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนได้หรือไม่

 

วันเดียวกันนายเดชา ก่อเกิด ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง เผยว่า ทำงานคลุกคลีกับทางวัดใน จ.อ่างทอง เกือบทุกแห่ง และวัดท้ายย่านเป็นวัดที่มีเกจิอาจารย์ที่ดังมาก คือหลวงปู่รอดและหลวงปู่ลาภ สำหรับพระนอนองค์นี้สร้างมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ยังเคยบอกกับเจ้าอาวาสรูปก่อนคือ พระครูมงคล สุทธิกิจ หรือหลวงพ่อทาน ว่าทำไมไม่เปิดอย่างจริงจังให้ประชาชนทั่วไปรู้ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จะรู้เฉพาะคนในละแวกนี้ และผู้ที่เคยเข้าไปในวิหารแห่งนี้เท่านั้น

ด้านพระไพโรจน์ สันตกาโย อายุ 57 ปี พระลูกวัดท้ายย่าน กล่าวว่า บวชพระที่นี่มากว่า 10 ปี วัดแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์มากพระที่ทำตัวไม่ดีจะอยู่ไม่ได้ มีอยู่วันหนึ่งมีพวกขโมยมาลักตู้บริจาคในวัดโดนฟ้าผ่าตายคาวัด สำหรับพระองค์ใหญ่นี้แต่ก่อนตัววิหารจะเป็นหน้าต่างทึบจะปิดอยู่ตลอดเวลา แต่ใครมาจะเข้ากราบไหว้รูปหล่อหลวงปู่รอดหลวงปู่ลาภ จึงจะเปิดให้เข้า หรือแม้มีงานสำคัญที่จะต้องใช้วิหารแห่งนี้ก็เปิดไปใช้ ส่วนใหญ่ที่ไม่เปิดก็คงเพราะกลัวขโมยและกลัวนกเข้าไปทำความสกปรก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056a3lPRFl4TkE9PQ==&sectionid=