ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ออกพรรษา“แห่ปราสาทผึ้ง” ประเพณีเปี่ยมศรัทธาแห่งสกลนคร  (อ่าน 1376 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

(ภาพประกอบจาก ททท.)

ออกพรรษา“แห่ปราสาทผึ้ง” ประเพณีเปี่ยมศรัทธาแห่งสกลนคร

       จังหวัดสกลนคร ร่วมกับเทศบาลนครสกลนคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัด”งานประเพณีแห่ปราสาทผึ้งและแข่งเรือยาว จังหวัดสกลนคร” ในระหว่างวันที่ 15 - 19 ตุลาคม 2556 ณ สนามมิ่งเมืองสกลนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อมุ่งปรารถนาที่จะถวายปัจจัยเป็นพุทธบูชา และอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด
       
       นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม (รับผิดชอบพื้นที่ นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร) กล่าวว่า ชาวสกลนครได้ถือปฏิบัติตามฮีตสิบสองหรือประเพณีสิบสองเดือนเหมือนชาวอีสานทั่วไป โดยเฉพาะประเพณีออกพรรษาหรือบุญออกพรรษา ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 ค่ำเดือน 11


        :welcome: :welcome: :welcome:

       นอกจากจะมีการทำบุญตักบาตรฟังเทศน์ปฏิบัติธรรมแล้ว ยังมีการจุดไต้ประทีป ปล่อยเรือไฟ แข่งเรือ และที่สำคัญคือ การแห่ปราสาทผึ้งซึ่งถือเป็นจุดเด่นของงานประเพณีออกพรรษาที่จังหวัดสกลนครประวัติความเป็นมาและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับประเพณีนั้น มีหลายสำนวนความเชื่อด้วยกัน

       ความเชื่อที่สำคัญได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับพุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันออกพรรษา ในครั้งนั้นพุทธศาสนิกชนต่างประหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก เกรงว่าพระพุทธเจ้าปลีกวิเวกครั้งนี้จะไม่กลับมา จึงพากันไปเฝ้าถามพระโมคคัลลานะและพระอนุรุทธ จึงทราบความว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับมาในวันออกพรรษาหรือวันมหาปวารณา คือ วันที่ 15 ค่ำ เดือน 11 ณ ที่ใกล้ประตูเมืองสังกัสสนคร

       
        st12 st12 st12

       พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจึงได้ตั้งใจจะรอจนกว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จลงจากเทวโลก เมื่อถึงวันออกพรรษา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้แสดงลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยมีพระอินทร์ พระพรหม และเหล่าเทวดาตามเสด็จลงมาส่งผ่านบันไดแก้ว บันไดเงินและบันไดทอง จนถึงโลกมนุษย์ ในครั้งนั้นชาวเมืองสังกัสสะและพุทธศาสนิกชนที่เฝ้ารอพระพุทธองค์มาถึงหนึ่งพรรษาต่างมาร่วมกันทำบุญใส่บาตรกันอย่างยิ่งใหญ่ และได้เห็นปราสาทต่างๆ ที่งดงามวิจิตรพิสดารอันเป็นของเทวดาบนสวรรค์

       ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พุทธศาสนิกชนชาวสกลนครเชื่อกันว่า การที่จะได้ไปอยู่ปราสาทอันสวยงามนั้นต้องสร้างบุญกุศล ประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลักศีลธรรมอันดี ทำบุญตักบาตร สร้างปราสาทกองบุญนั้นในเมืองมนุษย์เสียก่อนจึงจะได้ไป จากนั้นเป็นต้นมาจึงพากันคิดสร้างสรรค์ทำบุญปราสาทให้มีรูปร่างเหมือนวิมารบนสวรรค์ทำบุญกันในวันออกพรรษา เพื่อเป็นการสร้างกุศลให้ตนได้ไปอยู่ในปราสาทที่งดงามหลังจากที่ตนตายไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่กล่าวว่า การสร้างปราสาทผึ้งดังกล่าวเพื่อสำหรับเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมายังโลกมนุษย์ด้วยเช่นกัน


(ภาพประกอบจาก ททท.)


       เหตุที่มีการนำเอาขี้ผึ้งมาทำเป็นปราสาทนั้น ยึดโยงอยู่กับพุทธประวัติในช่วงพรรษที่ 9 ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่ดงไม้สาละใหญ่ในป่าปาลิไลยก์ ในครั้งนั้นมีช้างปาลิไลยก์กับลิงเป็นผู้อุปัฏฐากอยู่ตลอด 3 เดือน โดยช้างจัดน้ำและผลไม้มาถวาย ส่วนลิงหารวงผึ้งมาถวาย เมื่อพระองค์ทรงรับแล้วเสวย ลิงเห็นก็ดีใจมากขึ้นไปจับกิ่งไม้เขย่าด้วยคงวามดีใจ จนบังเอิญกิ่งไม้หัก ลิงนั้นตกลงมาถูกตอเสียบอกตาย จึงได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนปราสาทวิมารในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

       ครั้งต่อมาพระพุทธเจ้าตรัสลาช้างแล้วเสด็จเข้าสู่เมืองโกสัมพีในวันออกพรรษา ทำให้ช้างระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมากจนทำให้หัวใจแตกสลาย จึงได้ไปเกิดบนปราสาทวิมานบนสวรรค์ พระพุทธเจ้าทรงนึกถึงคุณความดีของช้างและลิง จึงทรงนำเอารวงผึ้งมาทำเป็นดอกประดับในโครงปราสาทตามจินตนาการเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้างและลิง ด้วยเหตุนี้ในกาลต่อมาพุทธศาสนิกชนจึงได้ถือเป็นแนวทางจัดสร้างปราสาทผึ้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสร้างกุศลสืบมา

       
       ans1 ans1 ans1

       ภายในงานมีกิจกรรมที่สำคัญในงาน ได้แก่ การประกวดปราสาทผึ้งประยุกต์ – โบราณ การตกแต่งรถปราสาทผึ้ง ขบวนอันเชิญถ้วยพระราชทานและการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน พิธีทำบุญตักบาตร พิธีบายศรีสู่ขวัญ การประกวดพานบายศรี เทศกาลของดีของแซบเมืองสกลนคร การวิ่งแข่งมินิมาราธอน “ครอบครัวผาแดง-นางไอ่” นิทรรศการปราสาทผึ้ง การจำหน่ายสินค้า OTOP สวนสนุกและการแสดงคอนเสิร์ต และในวันที่ 18 ต.ค. 2556 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

       ชมขบวนแห่ปราสาทผึ้งประยุกต์ – โบราณ การตกแต่งรถปราสาทผึ้งและขบวนวิถีชีวิต 13 ขบวน พร้อมการแสดงแสง สี เสียง ไปตามถนนเพื่อเข้าสู่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พร้อมร่วมพิธีถวายปราสาทผึ้งโบราณ ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร รูปแบบของปราสาทผึ้งแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม คือ แบบทรงพระธาตุ ทรงหอผี ทรงบุษบก และทรงจัตรมุข ซึ่งแต่ละแบบมีพัฒนาการต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยสร้างในลักษณะอาคารจำลองที่ตกแต่งด้วยลวดลายอย่างวิจิตรงดงาม


        :25: :25: :25:

       สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดสกลนคร โทร.0-4271-1763 หรือเทศบาลนครสกลนคร โทร.0-42 71-1203 ต่อ 1000-1001 หรือติดต่อได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม (รับผิดชอบพื้นที่ นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. โทร.0-4251-3490-1


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000129485
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากไป อยากไป

 :25: :c017:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ