ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูกายเห็นจิต ดูความคิดเห็นธรรม  (อ่าน 2471 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29346
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ดูกายเห็นจิต ดูความคิดเห็นธรรม
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2013, 08:29:16 pm »
0



ดูกายเห็นจิต ดูความคิดเห็นธรรม

ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ชื่อ ธัมมจักกัปป์ปวัตนสูตรอันเป็นปฐมเทศนาแก่ปัญจวคีย์ทั้ง ๕ ในเวลาจบพระธรรมเทศนา ท่านโกณฑัญญะเกิดธรรมจักษุ คือ ดวงตาเห็นธรรมว่า
    สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา
    (ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาสุดท้ายต้องดับไป)
    ท่านได้บรรลุโสดาปัตติผล เพราะเกิดธรรมจักษุนี้
    พระพุทธองค์ทรงทราบ จึงทรงเปล่งอุทานว่า โกณฑัญญะรู้แล้วหนอ ๆ
    ท่านจึงได้ชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ เพราะรู้ธรรมก่อนใคร ๆ


 ans1 ans1 ans1

เคล็ดวิชาดูจิต

เฝ้าดูลงไปในกายนี้ มีแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ในจิตนี้ก็มีแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ถ้าเราดูได้ ใจยอมรับความจริงได้เมื่อใด
ก็เรียกว่าเราได้ดวงตาเห็นธรรม
คือ เรารู้ความจริงว่าทุกอย่างในชีวิตเราชั่วคราวไปหมด
ถ้ายอมรับได้ว่าทุกอย่างในชีวิตเราชั่วคราว
ความทุกข์จะหายไปเยอะเลย พระโสดาบันไม่ได้เห็นอะไรมาก


พระโสดาบันท่านเห็นแค่ว่า ทุกอย่างมันชั่วคราว
สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นก็ดับไป แล้วหลังจากนั้นก็ภาวนาให้มากขึ้นๆ ไป
จนปัญญามันมากขึ้นไปอีก มันจะเห็นว่า
กายนี้ จิตใจนี้ มีแต่ทุกข์ล้วนๆ ไม่ใช่ของดีของวิเศษ


.......โอวาทธรรมหลวงพ่อปราโมทย์

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://slalomist.blogspot.com/
Posted 7th July by brightenmyday
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ดูกายเห็นจิต ดูความคิดเห็นธรรม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2013, 09:10:23 am »
0
 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ