ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำกรรมฐานอย่าทวนจริตจักไม่ได้ผล  (อ่าน 2538 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ทำกรรมฐานอย่าทวนจริตจักไม่ได้ผล
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2013, 07:23:29 am »
0


ทำกรรมฐานอย่าทวนจริตจักไม่ได้ผล

เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ มิ.ย. ๒๕๓๖ เพื่อนผมท่านฝันว่า มีคนสั่งซื้อน้ำตาลทรายที่ร้านของท่าน ๖ กิโล เดี๋ยวจะมาเอา ท่านก็เอาน้ำตาล ๖ กิโลใส่ถุงไว้ให้เขา (แต่ ๖ กิโลใส่ถุงเดียว) พอเขากลับมาเอาน้ำตาล เขาก็บอกว่า ๖ กิโลนั้น ฉันต้องการแบ่งเป็น ๖ ถุง ถุงละ ๑ กิโล ท่านก็รู้สึกไม่พอใจ จิตไปโทษลูกค้าว่าสั่งของไม่บอกให้ละเอียด แต่ก็นิ่งไว้ เพราะการค้าขายต้องเอาใจลูกค้าเป็นธรรมดา เมื่อตื่นขึ้นมาก็เอาความฝันมาพิจารณาเป็นธรรม แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก สมเด็จองค์ปัจจุบันก็ทรงพระเมตตามาสอนให้ มีความสำคัญดังนี้

     ๑. จักทำกรรมฐานให้ได้ผลนั้น ต้องทำตามอารมณ์ของจิตและต้องแยกดูกามฉันทะ และปฏิฆะ ว่าเกิดขึ้นด้วยสาเหตุอันใดให้ละเอียด อย่าทำกรรมฐานทวนจิตจักไม่ได้ผล

     ๒. ตามที่คุณหมอกล่าวถึง ท่านสัมภะเกสีสอนว่า อย่าให้อารมณ์มันหลอกเรา เราต้องหลอกอารมณ์นั้น มันก็ถูก แต่จักให้ถูกจริงๆ แล้ว ตัวเราต้องหมั่นรู้เท่าทันอารมณ์ในขณะจิตนั้นด้วย เหมือนอุปมาธรรมชาวโลก รู้ลูกค้าต้องการซื้อสินค้าประเภทนั้นอยู่ แต่จักต้องรู้ความต้องการใช้สินค้าครั้งละเท่าไหร่ของลูกค้าไปด้วยโดยละเอียด จึงจักขายสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้า

     ๓. ทางโลก การค้าขายต้องตามใจลูกค้าผู้ชื้อฉันใด ทางธรรมการปฏิบัติก็เช่นกัน กามฉันทะและปฎิฆะเข้ามาในจิต เจ้ารู้อยู่ว่ากามฉันทะและปฏิฆะ แต่จักต้องรู้ต่อไปว่าสาเหตุที่เกิด กามฉันทะและปฎิฆะ นั้นเพราะเหตุใด เกิดขึ้นมากน้อยเท่าไหร่ก็ต้องรู้ ศึกษาแยกแยะอารมณ์ ๒ (พอใจกับไม่พอใจ) กล่าวคือศึกษาจริต ๖ ที่เกิดขึ้นกับอารมณ์จิตโดยรู้เท่าทันในแรงหรือในกำลังจริต ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น (โกรธมากหรือน้อย พอใจมากหรือน้อย) แล้วใช้กำลังกรรมฐานเข้าแก้จริต ๖ ไปตามกำลังของจริตที่เกิดขึ้นขณะนั้นจึงจักได้ผล

     ๔. ดูความต้องการของลูกค้าฉันใด ก็ดูความต้องการของจิตฉันนั้น อย่าแก้อารมณ์พร่ำเพรื่อ จักมากไปหรือน้อยไปก็ไม่ได้ผล ต้องแก้ให้พอดีกับกำลังของอารมณ์ด้วย





      ๕. อุปมาเหมือนกำลังไฟมี ๑๐๐ แรงเทียน เจ้าจักใช้หลอด ๒๐๐ แรงเทียนมาใส่ มันก็ช็อตได้ฉันใด อารมณ์จิตที่ได้รับการป้อนพระกรรมฐานไม่ตรงกำลังของจริต ก็ไม่ได้ผลฉันนั้น อารมณ์บ่นคือไม่ตรงกับความพอใจคนขายก็เกิดขึ้น ทั้งๆที่เป็นความโง่ของคนขายเอง ที่ไม่ศึกษา ไม่ซักถาม หรือใคร่ครวญถึงความต้องการของคนซื้อ รู้แต่ว่าต้องการน้ำตาล แต่ไม่ฉลาดที่รู้จักความว่า ต้องการใช้น้ำตาลอย่างไร อารมณ์จิตก็ฉันนั้น ถ้าเรารู้ไม่เท่าทันตามจริตที่เกิดขึ้นมาก เกิดขึ้นน้อยในแต่ละครั้ง แก้อย่างไรก็ไม่พอดีมากไป น้อยไป ก็ไม่ได้ผลฉันนั้น

      ๖. ศึกษาความต้องการของจิตให้ดีๆ อย่าตามใจคนขายต้องตามใจคนซื้อ ทำกรรมฐานอย่าทวนจริต จักไม่ได้ผล

     ๗. เหมือนกับหมอรักษาคนไข้ จักต้องรู้อาการของคนไข้ รู้ต้นเหตุของการเป็นไข้ รู้กำลังของการเป็นไข้นั้น จึงจักรักษาโรคตามที่คนไข้เป็นได้ การให้ยาก็ต้องตรงกับโรคที่คนไข้เป็นอยู่ ให้อย่างไรจึงจักพอดีกับกำลังโรคนั้นให้มากเกินไป คนไข้ก็อาการหนักเพราะยาเกินกำลัง ให้น้อยเกินไป อาการก็ไม่หาย เพราะได้ยาไม่เท่าที่โรคต้องการ

     ๘. การปฏิบัติพระกรรมฐานให้ได้ผลก็เช่นกัน จักต้องรู้กำลังของจริตที่เกิดขึ้นกับจิต รู้โรคอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้กำลังของจริตที่เกิดขึ้นกับอารมณ์นั้นๆ ด้วย ตถาคตอุปมาอุปมัยมาประการนี้ ขอให้พวกเจ้าสนใจนำไปปฏิบัติให้พ้นทุกข์ จากจริตที่ครอบงำอารมณ์อยู่ทั้ง ๖ประการ ตามวาระ ตามสัมผัสที่เข้ามากระทบจิตอย่างรู้เท่าทัน พวกเจ้าก็จักเห็นผลได้ตรงนั้น


ขอบคุณ : พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ผู้รวบรวม
ที่มา : http://www.tangnipparn.com/page12_b00k4.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำกรรมฐานอย่าทวนจริตจักไม่ได้ผล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2013, 03:27:44 am »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา