ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 พร้อมเปิด11/12/13 "พระเทพฯ" เป็นองค์ประธาน  (อ่าน 1932 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28530
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่4 พร้อมเปิด11/12/13
"พระเทพฯ"เป็นองค์ประธาน ภาคการค้าคาดโกยแสนล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ว่า  ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม   เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเชียงของนำคนงานเร่งทำความสะอาดและตกแต่งที่ทำการด่านเพื่อรองรับพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4  หลัง 3 ประเทศคือไทยลาวและจีน ได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะมีกำหนดพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ธันวาคม 2556(11/12/13) โดยมีสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี

นายศรชัย สร้อยพงษ์พราย นายด่านศุลกากรเชียงของ กล่าวว่าขณะนี้ในส่วนของตัวสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4  โครงสร้างพื้นฐานและสะพานสร้างเสร็จแล้ว รวมถึงที่ทำการด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวทางด่านเศรษฐกิจและให้บริการด่านศุลกากรอาทิอาคารด่านพรมแดนสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมให้บริการ ตลอดจนได้เตรียมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เรื่องอาคารสถานที่จัดเตรียมเครื่องมือต่างๆประกอบด้วย เครื่องมือสื่อสาร ระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ระบบการควบคุมทางศุลกากรเช่นCCTV เครื่องตรวจสอบสินค้า เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจสอบสัมภาระต่างๆ





นายศรชัยกล่าวด้วยว่าในปี 2555 การค้าขายผ่านด่านศุลกากรเชียงของมีมูลค่า 12,500 ล้านบาท และในปีนี้ 2556 เพิ่มขึ้น 8.93% มีมูลค่ากว่า 13,600 ล้านบาท เมื่อสะพานเปิดใช้แล้วจะช่วยทำให้การขนส่งสินค้าสะดวกขึ้นทำให้ค่าขนส่งลดลงจากที่ต้องเสียค่าแพขนานยนต์ 1,800 บาทต่อตู้คอนเทนเนอร์จะเหลือเพียง 500 บาทซึ่งลดลงไปถึง 3 เท่าตัว เชื่อว่าจะทำให้มูลค่าส่งออกเพิ่มมากขึ้นโดยการพยากรณ์ของกรมศุลกากรคาดว่าจะมีการขยายตัวการค้าขายผ่านสะพานแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท ในปี 2558 ถือเป็นการรองรับเศรษฐกิจอาเซียนพอดี

นายทรงฤทธิ์ แก้วสุทธิ นายอำเภอเชียงของ กล่าวว่า ทางอำเภอได้กำหนดเส้นทางเสด็จฯไว้ 3 จุดหลัก คือบริเวณหน้าบริษัทสินธานีฯสาขาเชียงของ บริเวณหน้าโรงเรียนเชียงของวิทยาคม-โลตัสเชียงของและบริเวณแยกเข้าสะพานฯหน้าสหกรณ์การเกษตรสาขาเชียงของ โดยเตรียมการรับเสด็จฯเป็นไปอย่างเรียบร้อยยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติฯ เพราะถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์และวันแห่งเกียรติยศของชาวเชียงของ โดยให้ประชาชนผู้ร่วมงานแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองชนเผ่าหรือชุดประจำถิ่น ชุดเมืองล้านนาเพื่อความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของเชียงของรวมทั้งต้อนรับผู้มาเยือนในฐานะเจ้าบ้านเพื่อเผยแพร่วิถีชาวเชียงของสู่สายตาคนทั้งประเทศและทั่วโลก





ขณะที่นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานโครงการประสานเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือกล่าวว่าสะพานข้ามน้ำโขงแห่งนี้จะทำให้ระบบจอลิสติกส์ของประเทศไทยสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะผ่านถนนอาร์ 3 เอ ผ่าน สปป.ลาว ไปถึงเมืองสืบสองปันนาและเมืองซือเหมา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีประชากรหลายร้อยล้านคนได้

ซึ่งจะมีผลทำให้การค้าและการท่องเที่ยวผ่านสะพานและด่านเชียงของมีความคึกคักมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ที่สำคัญหากเปิดสะพานใช้อย่างเป็นทางการเชื่อว่าจะทำให้เป็นประตูเชื่อมระหว่างนานาประเทศ โดยมี จ.เชียงราย เป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะมีผลทำให้การค้าชายแดนที่ปกติทั้ง 3 ด่านคือด่านแม่สาย ด่านเชียงแสน และด่านเชียงของมีประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท อาจทะลุขึ้นไปเป็นหลักแสนล้านบาทได้ อย่างยิ่งเมื่องมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี.ในปี 2558ที่จะถึงอีก 2 ปีข้างหน้า


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1386298697&grpid=01&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ