พิมพ์

[raponsan]

พรินเตอร์อัจฉริยะเสกของกิน(เกือบ)ได้ดั่งใจ

บริษัทเอกชนคิดค้น "Foodini" พรินเตอร์ 3 มิติที่สามารถเตรียมอาหารได้แบบเกือบสำเร็จ เพียงแค่ใส่วัตถุดิบลงไป

มีคำทำนายโบราณที่ว่า เมื่อถึงยุคอันเรืองรองศิวิไลซ์ มนุษยชาติไม่จำเป็นต้องเสียแรงทำอาหารให้เหนื่อยหน่าย น่ารำคาญอีกต่อไป เพราะแค่กดกริ๊กเดียวก็ได้ของดีๆ มาลิ้มลองกันแล้ว

ในยุคของเรามีหลายคนพยายามเปรียบเทียบเทคโนโลยีต่างๆ ว่าเหมือนกับคำทำนายที่เอ่ยถึงของกินที่ผุดขึ้นมาทันตาเห็น บ้างก็ว่าเป็นหม้อหุงข้าว บ้างก็ว่าเป็นไมโครเวฟ แต่สุดท้ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ก็ยังไม่ใช่เครื่องปรุงสำเร็จทันตาเห็น เพราะต้องตระเตรียมอะไรต่อมิอะไรอีกหลายขั้นตอน กว่าจะผลิตอาหารออกมาให้เรารับประทานกันได้

แต่ล่าสุดเทคโนโลยีของชาวโลกก้าวไปอีกขั้น ถึงขนาดที่หากต่อยอดต่อไปอีกอาจล้ำยิ่งกว่าคำทำนายโบราณเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่แค่ผลิตอาหารตามใจปรารถนาภายในพริบตาเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้มายังสวยงามราวกับเป็นผลงานของเชฟชั้นเลิศ อุปกรณ์สุดล้ำที่ว่านี้คือ เครื่องพรินเตอร์ 3 มิติ หรือ 3D Printer เทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงนั่นเอง

 

ก่อนหน้านี้มีการใช้พรินเตอร์ 3 มิติ เนรมิตสิ่งของต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์มาแล้ว เพียงแค่เตรียมวัสดุ ตั้งโปรแกรม แล้วรอผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมจิ๋วที่มีความละเอียดเหมือนจริง หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้า รองเท้าก็มี ที่ฮือฮามากที่สุดคือการใช้อุปกรณ์ไฮเทคนี้ผลิตอาวุธปืนขึ้นมาโดยสามารถใช้งานได้เหมือนของจริงทุกประการ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแพร่หลายของอาวุธในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการล่าสุดของพรินเตอร์ 3 มิติ มีความปลอดภัยไร้กังวล เพราะไม่เน้นให้มนุษย์ประหัตประหารกันด้วยเทคโนโลยี แต่เน้นให้ท้องอิ่มสำราญใจมากกว่า ด้วยการตั้งโปแกรมให้สามารถทำอาหารได้เหมือนจริง แถมยังมีรสชาติและหน้าไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ปรุงด้วยมือมนุษย์

ผู้พัฒนา “แม่ครัวพรินเตอร์ 3 มิติ” คือ บริษัท Natural Machines ผู้ที่ขนานนามสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้ว่า “Foodini” เลียนแบบชื่อของ “ฮูดินี” นักมายากลชื่อดังเมื่อศตวรรษที่แล้ว เพราะเจ้าของพรินเตอร์ 3 มิติ มีความสามารถในการปรุงอาหารได้ตามใจนึกราวกับมีเวทมนตร์มายานั่นเอง

วิธีการทำงานของเครื่องนี้คล้ายกับระบบพิมพ์ 3 มิติแบบอื่นๆ ต่างกันตรงที่ผลลัพธ์ที่ออกมาสามารถรับประทานได้แน่นอน 100% และทำออกมาได้ทั้งของหวานของคาว ตั้งแต่เค้กช็อกโกแลตจนถึงราวิโอลี่หรือพาสต้าที่มีความซับซ้อน

ขั้นแรกผู้ใช้เพียงใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงในแคปซูลบรรจุ จากนั้นผู้ใช้ต้องเลือกรูปแบบการจัดแต่งอาหารที่แผงควบคุมบนเครื่อง แล้วปล่อยให้เครื่อง “พรินต์” ผลงานออกมาในลักษณะเดียวกับการพรินต์งาน 3 มิติแบบอื่นๆ นั่นคือค่อยๆ สร้างเลเยอร์เป็นชั้นๆ จนเป็นรูปร่างสมบูรณ์แบบ

 

เครื่องพรินเตอร์อาหารสามารถพรินต์ผลงานออกมาได้เกือบเหมือนจริง แต่จะให้เหมือนจริงที่สุดก็ยังต้องอาศัยแรงมนุษย์อยู่ดี เพราะจากนั้นผู้ใช้ต้องนำอาหารที่พรินต์ออกมาไปเข้าตู้อบ หรือต้มยำทำแกงต่อให้สุกจนรับประทานได้ แล้วตกแต่งให้งดงามชวนน้ำลายไหลยิ่งขึ้น แม้จะยังห่างไกลจากอุปกรณ์ในตำนานที่สามารถเนรมิตอาหารในพริบตา แต่ก็นับว่าพรินเตอร์อัจฉริยะเครื่องนี้มีความใกล้เคียงกับความฝันอันสูงสุดของมนุษย์ผู้ปรารถนาความสบายอยู่ไม่น้อย

ลีเนนต์ คุชส์มา หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Natural Machines เผยว่า “Foodini” ยังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังไม่สามารถเตรียมวัตถุดิบ หรือปรุงอาหารจนถึงขั้นตอนสุดท้ายด้วยตัวมันเอง แต่อย่างน้อยก็มีส่วนช่วยย่นระยะเวลาในการปรุงอาหารได้มาก อีกทั้งยังออกแบบหน้าตาของอาหารได้อย่างมีสีสัน ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/264519/พรินเตอร์อัจฉริยะเสกของกิน-เกือบ-ได้ดั่งใจ