ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตามรอยศรัทธามหากุศล สวดมนต์ข้ามปี-ไหว้พระ9วัด  (อ่าน 1524 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ตามรอยศรัทธามหากุศล สวดมนต์ข้ามปี -ไหว้พระ 9 วัด

   ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมของคนไทยให้ความสนใจกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและไหว้พระ 9 วัด เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการ "ตามรอยศรัทธา มหากุศล" แบ่งเป็นกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ" และกิจกรรม "ไหว้พระ 9 วัด สัมผัส วิถีบุญ" โดยทั้งสองกิจกรรมจะมีอาจารย์คฑา ชินบัญชร ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรม มาเป็นผู้ให้ความรู้ทั้งในเรื่องอานิสงส์ของการสวดมนต์ข้ามปีและความน่าสนใจของวัดทั้ง 9 แห่ง เพื่อให้ผู้ร่วมโครงการได้รับความรู้และความเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กัน

    เริ่มที่กิจกรรมแรก "สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ" มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จัดงานขึ้นที่ “พระอุโบสถกลางน้ำ” มรดกธรรมของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่มีความสงบ ร่มรื่น สวยงาม เป็นสถานที่เหมาะสมแห่งการสวดมนต์เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วยความมีสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง

    ภายในงานจะมีกิจกรรมหลักๆ คือ การชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถกลางน้ำ รับฟังพุทธประวัติและอานิสงส์แห่งการสวดมนต์ การฟังเทศน์มหาชาติประกอบการแสดง ชมนิทรรศการพระธาตุประจำปีเกิด และเส้นทางท่องเที่ยว 12 เดือน การฟังพระธรรมเทศนา และสุดท้ายร่วมกันทำจิตใจให้สงบและสวดมนต์พร้อมกันในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ก้าวสู่วันที่ 1 มกราคม 2557


     :welcome: :welcome: :welcome:

    อีกหนึ่งกิจกรรมคือ "ไหว้พระ 9 วัด สัมผัสวิถีแห่งบุญ” โดยทั้ง 9 วัดจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างพลังให้จิตใจทั้งในด้านของสุขภาพ การงาน ความสำเร็จ ความสุข

    อ.คฑา กล่าวถึงอานิสงส์ของการสวดมนต์ข้ามปีว่า "การสวดมนต์ข้ามปีถือเป็นกุศโลบายบุญในทางพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่งที่ต้องการโน้มน้าวให้พุทธศาสนิกชนสงบจิตสงบใจจากเรื่องวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงให้มาอยู่กับบทสวดเพื่อพิจารณาหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าได้สอนสั่งและน้อมนำมาใช้ปฏิบัติในชีวิต ลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุและความชั่วร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในคืนข้ามปี ถือเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิตทั้งทางด้านกาย จิต และปัญญา เป็นการส่งท้ายปีด้วยธรรมและต้อนรับด้วยศีล เริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคลอันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี

    โครงการนี้ยังมีความพิเศษ คือ คนไทยจะได้ร่วมกันสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษาครบ 86 พรรษา ให้พระองค์ทรงมีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ถือเป็นการฉลองปีใหม่ด้วยการส่งความรักให้แก่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยร่วมกัน"


     :49: :49: :49:

    "ในปี 2557 ที่จะถึงนี้ ททท.ยังมีกิจกรรมการไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดทิพยวารี วัดเทวราชกุญชร วัดกัลยาณมิตร วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม วัดพระเชตุพนฯ วัดอรุณราชวรารามฯ และวัดราชนัดดารามฯ
     ซึ่งอยากเชิญชวนให้ทุกท่านไหว้พระรับสิริมงคลในปีใหม่ที่จะถึงนี้ เพราะการท่องเที่ยวเชิงศาสนาไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด แต่กลับมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องของประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่หลอมรวมอยู่ในแต่ละสถานที่ ขอเชิญชวนทุกท่านได้ร่วมค้นหาไปพร้อมกับความสุขใจอิ่มบุญ"



    ส่วนงานสวดมนต์ข้ามปีที่พระอุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย พระนครศรีอยุธยา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญประกอบด้วย

    1.พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ที่อาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก เป็นพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนที่ชาวสิงหลหรือศรีลังกาในปัจจุบันได้รับมอบไปในคราวแบ่งพระบรมสารีริกธาตุหลังการปรินิพพาน มีสัณฐานดังเมล็ดข้าวสารเต็มสีทอง มหาวิทยาลัยฯ ได้รับมอบจากรัฐบาลศรีลังกา โดยพระมหานายกะ อัสสคิริยะแห่งสยามนิกาย เป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้เป็นการถาวรในบุษบกทองคำ ณ อาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก โดยมีสมเด็จพระพุทธาจารย์ (อุปเสนมหาเถระ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีประดิษฐาน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2548

    2.ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ปลูกอยู่บริเวณสนามหญ้าตรงกลางระหว่างอาคารสำนักงานอธิการบดีและอาคารพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ) เป็นต้นโพธิ์ที่เกิดจากหน่อของต้นโพธิ์ที่เป็นที่ประทับในคราวตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มหาวิทยาลัยฯ ได้รับมอบจากรัฐบาลศรีลังกา โดยพระมหานายกะ อัสสคิริยะแห่งสยามนิกาย เป็นผู้อัญเชิญมาพร้อมกับพระบรมสารีริกธาตุ ทำพิธีปลูกอย่างเป็นทางการโดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2548

    3.พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือผู้ทรงสถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดังนั้น ในคราวย้ายสถานที่ทำการจากวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ มายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ จึงได้จัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ไว้เป็นสัญลักษณ์คู่มหาวิทยาลัย ประดิษฐานไว้ที่ด้านหน้าของอาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก เพื่อให้ประชาชนที่มาเยือนได้เคารพสักการะบูชา

    4.พระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธร (จำลอง) พระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก 108 นิ้ว มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ เป็นประธานในการหล่อขึ้นที่วัดโสธรวราราม จ. ฉะเชิงเทรา มีพระสงฆ์ทำพิธี 1 หมื่นรูป จากนั้นจึงนำล่องแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นฝั่งที่วัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ และอัญเชิญมาประดิษฐานที่ท้องสนามหลวงเพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

    จากนั้นได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่มหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547 เพื่อเป็นองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์รวมของศรัทธาสาธุชนที่เดินทางมาสักการบูชาปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่อาคารหอประชุม มวก. 48 พรรษา

    5.อุโบสถกลางน้ำ เป็นอุโบสถประจำมหาวิทยาลัยฯ อุปถัมภ์การสร้างโดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป สร้างบนพื้นที่ 16 ไร่ เป็นลักษณะทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น อยู่กลางสระน้ำขนาดใหญ่ ชั้นบนรองรับพระสงฆ์ได้ 250 รูป และมีลานล้อมรอบอุโบสถ พื้นที่ชั้นล่างเป็นฐานอุโบสถ รองรับพระสงฆ์ได้ 4 พันรูป เพื่อใช้ทำสังฆกรรมอันเป็นกิจของสงฆ์


     :25: :25: :25:

    ต่อมาภายหลังเมื่อพระพรหมมังคลาจารย์มรณภาพ พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 17 และเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ได้มารับงานดูแลการก่อสร้างต่อโดยได้อัญเชิญพระประธานประจำอุโบสถปางปราบพญาชมพูบดี และประดับตกแต่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม สร้างพญานาคที่บันไดทางขึ้น และสร้างพระพุทธรูปประจำวันเกิดรายล้อมรอบศาลาก่อนที่พระธรรมวิมลโมลีจะมรณภาพลง พระมหาเจริญ สุทธิญาณเมธี เจ้าอาวาสรูปต่อมาได้มอบถวายอุโบสถให้แก่มหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2556.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/151213/83391
ขอบคุณภาพจาก http://img.kapook.com/ , http://img.kapook.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ