ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอวยพรและลูบหัวผู้หญิง หลังใส่บาตรได้หรือไม่.?  (อ่าน 1063 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ask1 ask1 ans1 ans1
ปุจฉา-วิสัชนากับพระไพศาล วิสาโล

พระอวยพรและลูบหัวผู้หญิงหลังใส่บาตรได้หรือไม่

ปุจฉา : นมัสการพระคุณเจ้า ช่วยไขข้อข้องใจให้ด้วยค่ะ ดิฉันไปใส่บาตรพระตอนเช้า กับหลวงพ่อรูปหนึ่งแถวบ้าน ขณะกำลังยืนคอยใส่บาตรอยู่นั้น ก่อนหน้าดิฉันมีโยมผู้ชายท่านหนึ่งใส่บาตรกับท่าน ท่านก็ลูบหัวให้พรชายคนนั้น มองแล้วมีความรู้สึกอบอุ่นใจค่ะ เพราะน้อยครั้งจะได้เห็นภาพแบบนี้ เคยเห็นแต่พระลูบหัวอวยพรเด็กตัวเล็กๆ

ทีนี้ดิฉันนิมนต์หลวงพ่อเพื่อจะใส่บาตรบ้าง ปรากฏว่าท่านก็อวยพรดิฉันพร้อมกับลูบหัวไปพลาง ดิฉันนึกแปลกใจอย่างมาก ในชีวิตไม่เคยมีแบบนี้ พลันคิดในใจว่า คิดว่าพ่อให้พรลูกก็แล้วกัน แต่ก็ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่ดี คำถามก็คือว่า ดิฉันจะติดบาปกรรมไหมคะ?


วิสัชนา : การที่พระลูบหัวคุณนั้น ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณจึงไม่ควรเป็นกังวลว่าจะเป็นบาปกรรมหรือไม่ แต่ในส่วนของพระรูปนั้น การกระทำดังกล่าวแม้จะกล่าวได้ไม่เต็มปากว่าผิดพระวินัย (มีสิกขาบทข้อหนึ่งห้ามมิให้พระจับต้องกายหญิงด้วยความกำหนัด) แต่ก็ไม่ถูกต้องกับประเพณีที่คนไทยยึดถือ จึงอาจถูกตำหนิติเตียนได้ แต่หากท่านกระทำเช่นนั้นด้วยจิตที่มีราคะ ก็เท่ากับว่าท่านทำผิดพระวินัยด้วยอีกชั้นหนึ่ง



ask1 ask1 ans1 ans1

เคยคิดว่าเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์ จนเมื่อพบเจอความตาย

รักเธอ ประเทศไทย ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ ได้ศึกษาธรรมะมาระยะหนึ่งแล้วและคิดว่าตัวเองอ่านและเข้าใจ เช่น สรรพสิ่งทั้งหลายตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ก็เข้าใจและก็เชื่ออย่างนั้น แต่เมื่อมีเหตุให้ต้องตายจากกันไป ทำไมทุกข์มันช่างใหญ่หลวงนัก ที่เคยศึกษาเคยอ่าน เคยคิดว่าเข้าใจ เหมือนจะไม่เลยหรือจะต้องไปฝึกกรรมฐานประกอบด้วย

วิสัชนา : ที่คุณคิดว่าเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์นั้น ยังเป็นแค่ความเข้าใจในระดับความคิด แต่ยังไม่ลงลึกไปถึงใจจริงๆ เรียกว่าเป็นเพียงแค่ "สัญญา" ก็ได้ ยังไม่ใช่ "ปัญญา" ที่แท้จริง จะพัฒนาให้เป็นปัญญาได้ก็ต้องฝึกกรรมฐานดูกายและใจให้เห็นไตรลักษณ์อย่างแจ่มแจ้ง จนจิตยอมรับความจริงนั้นอย่างสิ้นเชิง

ในระหว่างที่ปัญญายังไม่กระจ่างถึงขั้นนั้น ก็ควรเตือนใจตนเองให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงและความพลัดพรากอยู่เสมอ โดยเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันหรือข่าวสารที่ได้ยินได้ฟังเป็นบทเรียนสอนใจ ทำอย่างนี้บ่อยๆ จิตจะยอมรับความพลัดพรากสูญเสียได้ไวขึ้น เมื่อเกิดเหตุร้าย สติและปัญญาจะมาทันท่วงที ช่วยให้ปล่อยวางได้ง่าย ไม่ฟูมฟายเศร้าโศกจนหมดเนื้อหมดตัว


สายด่วนให้คำปรึกษาทางจิตใจผู้ป่วยระยะสุดท้าย 'เตรียมตัวก่อนสู่วาระสุดท้ายของชีวิต จะทำอย่างไรดี' ปรึกษาได้ที่ โทร.๐-๘๖๐๐๒-๒๓๐๒

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20140214/178926.html#.Uv4bYPsW5El
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ