พิมพ์

[raponsan]

มนต์เสน่ห์ย้อนยุค -- รถเทียมม้าซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้มานานนับร้อยปีขับผ่านบริเวณเจดีย์เก่าแก่ในทุ่งเจดีย์เมืองพุกามในภาคกลางพม่า ในภาพวันที่ 25 ม.ค.2556 ปิดตัวเองมานานครึ่งศตวรรษพอเปิดประเทศไม่กี่ปีพม่าได้กลายเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกในทันที ปีนี้เมืองหลวงเก่าพุกามทะยานขึ้นอันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ตามด้วยเมืองมรดกโลกอีก 2 แห่งในประเทศเพื่อนบ้านคือ หลวงพระบางกับโฮยอาน. --Associated Press/Khin Maung Win.

พุกาม หลวงพระบาง โฮยอาน ท็อปเมืองท่องเที่ยวโลก 2014

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เมืองเก่าแก่ 3 เมืองในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง คือ พุกาม (Bagan) ในพม่า หลวงพระบางในลาว กับโฮยอาน (Hoi An) ในเวียดนาม ได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 2 และ 3 ของโลก ประจำปี 2557 นี้ จากการให้คะแนนโดยผู้อ่านนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำฉบับหนึ่งในประเทศอังกฤษ ซึ่งในคราวเดียวกันนี้ ได้โหวตให้พม่ากับลาวติดอยู่ใน 10 อันดับประเทศน่าท่องเที่ยวมากที่สุดของโลกเช่นกัน
       
       พุกาม ได้คะแนนโหวต 97.5% หลวงพระบาง 95.71% และโฮยอาน 94.33% อันดับ 4 ได้แก่เมืองเวนิซ อิตาลี (94.19%) 5.ซานฟรานซิสโก สหรัฐ (94.2$) 6.คุสโก เปรู (93.85%) 7.นิวยอร์ก สหรัฐฯ (93.51%) 8.เอดินเบิร์ก อังกฤษ (93.08%) 9.เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ (92.97%) และอันดับ 10 รั้งท้ายคือ กรุงทาลลิน ประเทศเอสโตเนีย 92.63%
       
       ในขณะเดียวกัน กรุงฮานอย ของเวียดนาม เป็นเมืองที่ผู้อ่านนิตยสารฉบับนี้ไปเยี่ยมเยือนมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว รองลงไปเป็นกรุงลอนดอน เมืองโฮยอาน ในเวียดนาม และกรุงปารีส ทั้งนี้ เป็นการโหวตจากเมืองท่องเที่ยว จำนวน 768 แห่งในทวีปต่างๆ ทั่วโลก นิตยสารฉบับนี้รายงานในเว็บไซต์ Wanderlust.Co.UK
       
       ขณะเดียวกัน ผู้อ่านได้โหวตให้พม่าเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 4 สำหรับการท่องเที่ยวประจำปีนี้ และลาวรั้งท้ายในอันดับที่ 10

       

       ประเทศที่ครองอันดับ 1 ปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม ประจำปี 2557 คือ นามิเบีย (96.92%) 2.นิวซีแลนด์ (96.36%) 3.โคลอมเบีย (96.36%) 5.เอกัวดอร์ (95.83%) 6.ทันซาเนีย (95.33%) 7.ญี่ปุ่น (95.15%) 8.ชิลี (94.62%) 9.สกอตแลนด์ (94.17%) สำหรับพม่าได้คะแนนโหวต 96.13% และลาว 93.19%
       
       พม่าซึ่งเป็นปลายทางท่องเที่ยวเกิดใหม่ ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกประเทศปลายทางท่องเที่ยววยอดนิยมประจำปี 2556 เช่นกัน.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024701