ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธเจ้า มีตัวตนจริงหรือ.?  (อ่าน 1356 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29345
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระพุทธเจ้า มีตัวตนจริงหรือ.?
« เมื่อ: มีนาคม 10, 2014, 08:45:11 pm »
0


พระพุทธเจ้า มีตัวตนจริงหรือ.?
คอลัมน์ รื่นร่ม รมเยศ โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก : มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 9 มีนาคม 2557

มีบางท่านพูดกับผมทำนองสงสัยว่า พระพุทธเจ้าของเรานี้ มีตัวตนจริงหรือเปล่า ผมจึงย้อนถามว่า "ทำไมคุณจึงคิดอย่างนั้น เมื่อไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์แล้ว คำสอนของท่านที่เรียกว่าพระพุทธศาสนามาจากไหนล่ะŽ"

ท่านผู้นั้นพูดว่า "คำสอนอาจมีขึ้นมาจนเป็นระบบลัทธิความเชื่อ โดยไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของŽ"

"มันเป็นยังไงน่ะ ลองขยายความให้ชัดหน่อยซิŽ" ผมถาม

เขากล่าวว่า "อย่างศาสนาพราหมณ์นั่นไง ใครเป็นต้นตำรับความคิดยังไม่มีใครบอกได้เลย แสดงว่า แนวความคิดความเชื่อที่สืบทอดต่อๆ กันมาเป็นเวลาหลายพันปีนี้ ได้เกิดจากคนคนเดียว หากแต่เป็นพัฒนาการของความคิดร่วมยุคสมัยแต่ละยุคสมัยสืบถ่ายทอดสืบกันมาŽ"

ผมเถียงว่า อย่างศาสนาพราหมณ์อาจจะใช่ เพราะคำสอนของศาสนาพราหมณ์หลากหลายมาก แตกต่างและขัดแย้งโดยสิ้นเชิง แสดงว่าต้นตำรับความคิดความเชื่อไม่ได้มาจากแหล่งเดียว ยุคเดียว


 :96: :96: :96:

แต่พระพุทธศาสนามีหลักคำสอนที่สอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีหลักการใหญ่ลงรอยกันอย่างดี จะแตกต่างกันบ้างเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย และแหล่งที่มาของพระพุทธศาสนาก็มาจากบุคคลเดียวคือ พระพุทธเจ้าเท่านั้น และพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ มิใช่บุคคลในจินตนาการหรือในเทพนิยาย เป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ ท่านที่เรียนประวัติศาสตร์อินเดียก็จะรู้ได้ทันทีว่า เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว ดินแดนที่เรียกว่า ชมพูทวีป อันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น มีรัฐหรือแคว้นต่างๆ มากมาย แยกกันปกครองเป็นอิสระบ้าง เป็นเมืองขึ้นของรัฐอื่นที่ใหญ่กว่าบ้าง

ด้านเชิงเขาหิมาลัย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนชมพูทวีป มีแคว้นเล็กๆ อยู่สองแคว้นของเผ่าโกลิยะกับเผ่าศากยะ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางสายเลือด สองแคว้นนี้ตั้งอยู่คนละฟากฝั่งแม่น้ำเล็กๆ สายหนึ่ง

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ประวัติศาสตร์อินเดียระบุว่า มีแคว้นศากยะ แคว้นเทวทหะจริง และแคว้นต่างๆ ที่พระองค์เสด็จดำเนินไปเผยแผ่คำสอนก็มีบันทึกไว้จริง สถานที่ประสูติคือ ลุมพินี ก็มีอยู่จริง ปัจจุบันนี้อยู่ที่ประเทศเนปาล สถานที่ตรัสรู้ปัจจุบันเรียกว่า พุทธคยา สถานที่ทรงแสดงธรรมครั้งแรกแก่ปัญจวัคคี ปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ อยู่ที่รัฐพิหาร สถานที่ปรินิพพานปัจจุบันเรียกว่า กุสินารา อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ

สถานที่เหล่านี้ได้รับการยืนยันจากนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีว่าเป็นของจริง ไม่ใช่ของปลอมที่ "กุ"Ž ขึ้นแบบเทพนิยาย มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ เป็นประจักษ์พยานอยู่

พระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งมีชีวิตหลังจากสมัยพระพุทธเจ้าสองร้อยกว่าปีเคยเสด็จไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่แห่งอันเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า ได้ทรงจารึกเสาศิลาแล้วปักไว้ตามสถานที่เหล่านี้เพื่อยืนยันความมีอยู่จริง เช่น เมื่อเสด็จไปที่ลุมพินี สถานที่ประสูติก็ทรงจารึกเสาศิลาไว้ว่า "หิธ พุเธ ชาเต พระพุทธเจ้าประสูติ ณ ที่นี้Ž"


 :25: :25: :25:

หลังจากนั้นมาสถานที่เหล่านั้นได้ร้างไป ที่เคยเป็นบ้านเป็นเมืองก็รกร้างว่างเปล่า มีนักโบราณคดีไปขุดค้นพบเสาศิลาและฐานอิฐแห่งสิ่งก่อสร้างซึ่งจมดินอยู่ ก็ได้รู้เรื่องราวแต่หนหลัง สืบสายแห่งประวัติศาสตร์ต่อมาจนทุกวันนี้

ปัจจุบันนี้ประเทศอินเดียมีรายได้จากนักทัศนาจรต่างประเทศที่เข้าไปนมัสการสถานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์เหล่านี้ปีละเป็นจำนวนมากมาย ทุกคนที่ไปดูไปชมด้วยตา ต่างก็ไม่มีใครสงสัยว่าเป็นสถานที่ในเทพนิยายแม้แต่คนเดียว

 st12 st12 st12

จากหลักฐานของศาสนาร่วมสมัยเช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาเชน มีพูดถึงศาสดาแห่งศาสนาพุทธ คือพระพุทธเจ้าด้วย โดยเฉพาะศาสนาเชน เขาถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเขา บุคคลชั้นมันสมองของศาสนานี้ได้ออกมาโต้วาทะกับพระพุทธองค์บ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็ถูกพระพุทธองค์หักล้างด้วยเหตุผลจนยอมจำนนหันมานับถือพระพุทธศาสนาหลายคน เรื่องราวเหล่านี้มิเพียงแต่บันทึกไว้ในคัมภีร์ฝ่ายเขาเท่านั้น คัมภีร์ฝ่ายเราก็บันทึกไว้เช่นกัน คนทั้งหลายทั้งปวงต่างก็เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามิใช่บุคคลในเทพนิยาย มีตัวตนจริงแน่นอน

เมื่อ 6-7 ปีก่อน ก็มีเด็กมหาวิทยาลัยถามผม และในเวลาต่อมา ก็มีพระสงฆ์ลูกวัดคุยกับผมในเรื่องเดียวกันนี้เหมือนกัน


 :85: :85: :85:

แต่ก็อย่างว่าแหละ คนที่คิดสงสัยแปลกๆ อย่างนี้มิใช่เพิ่งเคยมี สมัยก่อนก็มีคนใหญ่คนโตเสียด้วย ชื่อ "เมนันเดอร์"Ž เป็นกษัตริย์กรีก ลูกหลานอเล็กซานเดอร์มหาราช เมนันเดอร์เป็นนักปราชญ์ฝีปากกล้า โต้เถียงกับพระนาคเสน (เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 5) ว่าพระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนจริง พระนาคเสนตอบว่า "มีจริง แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งŽ"

"พระคุณเจ้าเคยเห็นพระพุทธองค์หรือ"Ž เมนันเดอร์ซัก

"ไม่เคย"Ž

"อ้าว ไม่เคยเห็น จะรู้ได้อย่างไรว่ามีตัวตนจริง"Ž เมนันเดอร์สำทับ

"มหาบพิตร เคยเห็นปฐมบพิตรแห่งพระราชวงศ์ของมหาบพิตรไหม"Ž นาคเสนถามบ้าง

"ไม่เคยŽ"

"อ้าว ถ้าอย่างนั้นกษัตริย์ต้นวงศ์ของมหากษัตริย์ก็ไม่มีสิ"Ž นาคเสนย้อน

เมนันเดอร์ตอบว่า "มีสิขอรับ เมื่อมีโยมก็ต้องมีพ่อของโยมมีปู่ มีปู่ของปู่‚ ไล่ไปก็ถึงกษัตริย์ต้นวงศ์เอง"Ž นาคเสนตอบว่า "เช่นเดียวนั่นแหละ เมื่อมีอาตมา ก็ต้องมีอุปัชฌาย์ของอาตมา มีอุปัชฌาย์ของอุปัชฌาย์ ไล่ไปเรื่อยๆ ก็ถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นต้นวงศ์ของพระพุทธศาสนาŽ"


 ans1 ans1 ans1

เมนันเดอร์ก็คือพระยามิลินท์ การโต้ตอบระหว่างเมนันเดอร์กับนาคเสนก็มีบันทึกไว้เป็นเอกสารประวัติศาสตร์ชื่อว่า มิลินทปัญหา

อ่านแค่เรื่องพระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่ ข้อเดียวก็แจ้งจางปางแล้ว ถ้าอยากหายสงสัยในเรื่องอื่นที่ลุ่มลึกกว่านี้ ก็ไปหาอ่านเอาเองเทอญ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394380639&grpid=01&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ