มส.ห่วง'คดีพุทธิศักดิ์คลินิก'เป็น'เณรคำ2' หาข้อกม.เอาผิดพระแพร่ภาพไม่เหมาะผ่านเน็ต
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีพุทธิศักดิ์คลินิกภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)ว่า กรณีของวัดซับอุดมมงคลธรรมนั้น พศ.ไม่ได้มีการรายงานให้มส.ได้รับทราบ แต่กรรมการมส.หลายรูปก็เป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำพศ. แจ้งเตือนไปยังเจ้าคณะปกครองทั่วประเทศ โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าคณะปกครอง ต้องยึดกฎและระเบียบมส.อย่างเคร่งครัด หากมีการปล่อยปละละเลย เจ้าคณะปกครองในฐานะฝ่ายปกครอง ถือว่ามีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จะต้องมีโทษหนัก ใน 3 กรณี คือ
1.หย่อนยาน
2.ให้ความร่วมมือ และ
3. ทำความผิดเอง
ซึ่งพศ.ต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบและต้องทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เนื่องจากคณะสงฆ์ไม่อยากให้กรณีนี้เป็น คดีเณรคำ2

นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีการสืบสวนรายละเอียดของวัดดังกล่าวนั้น คงต้องรอให้เจ้าอาวาสกลับมาวันที่ 3 เมษายน นี้ ส่วนกรณีมีการนำภาพของความไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ที่ปฏิบัติไม่เหมาะสมมาเผยแพร่ และนำมาโฆษณาชวนเชื่อในความปาฏิหาริย์ จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อแบบผิดๆนั้น
ขณะนี้พศ.ได้หารือทีมกฏหมายว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการหาช่องดำเนินการกับผู้เผยแพร่ ภาพไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และถ้าเป็นพระสงฆ์ด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะนำมาเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ สำหรับการตักเตือนหรือกำชับ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองดูแล หากปล่อยก็ต้องได้รับโทษเช่นกัน
“ตอนนี้มีเรื่องความไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ร้องเรียนมายังสำนักพุทธฯเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราก็เร่งดำเนินการแก้ไข ซึ่งการแจ้งเบาะแส ฝากถึงประชาชนว่า ควรแจ้งสถานที่เกิดเหตุด้วย เพื่อที่จะได้ตรวจสอบได้ตรงจุด ที่สำคัญผมอยากวิงวอน พุทธศาสนิกชน ควรพิจารณาการโฆษณาชวนเชื่อของวัด หรือสำนักสงฆ์ต่างๆ ว่า สอนเรื่องหลักพระพุทธศาสนาจริงๆไม่ใช่แฝงด้วยการหาผลประโยชน์ ก็ไม่ควรไปสนับสนุนและให้แจ้งข้อมูลมายังสำนักพุทธฯโดยด่วน เพื่อจะได้แจ้งเจ้าคณะปกครองดำเนินการตักเตือนต่อไป”ผอ.พศ.กล่าวขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140331/182032.html#.UzldbaI9S4l