ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : จิตล่วงรู้อดีตเพื่อปล่อยวาง  (อ่าน 3112 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สมาธิชาวบ้าน : จิตล่วงรู้อดีตเพื่อปล่อยวาง

แม่ธาตุทั้ง 4 ก็ก่อเกิดเป็นมวล เป็นสังขารของคนวนเวียนกันอยู่ เป็นพืช เป็นสัตว์ เป็นน้ำ เป็นฝน เป็นสิ่งต่างๆ เวียนกันตามเหตุตามปัจจัยของมัน วิญญาณก็สะสมสิ่งต่างๆ ที่เป็นเวรเป็นกรรม วิญญาณก็จำกรรมต่างๆ ได้ กรรมดีเรียกว่ากุศลกรรม กรรมชั่วเรียกว่าอกุศลกรรม

เจ้าจิตดวงนี้ก็สะสมไว้หมด จำได้หมด กายสังขารแตกดับไป สลายไป แต่วิญญาณยังไม่ตาย วิญญาณก็ไปเกาะตัวกับธาตุเป็นร่างกายใหม่ สังขารใหม่ จิตเข้ามาอยู่ในกายใหม่นั้น จิตมันบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้ แต่ว่ามันจำไม่ได้ พระพุทธเจ้าสามารถที่จะย้อนระลึกชาติได้เป็นสิบๆ ชาติเนื่องจากการฝึกสมาธิ เมื่อพบธรรมะแล้วปล่อยวางในเรื่องราวต่างๆ ได้ ก็จะล่วงรู้อดีตชาติได้มากมาย

คนเราก็เช่นกัน ถ้าคนเราฝึกสมาธิแล้วได้ธรรมะ รู้ธรรมะแล้ว ก็สามารถระลึกชาติได้ ถ้าฝึกสมาธิแล้วยังไม่ได้ธรรม ก็ไม่สามารถระลึกชาติได้ เพราะจะเข้าไปยึดติดกับกรรมกับเวรของชาติที่แล้ว เป็นผลร้ายต่อตัวเอง เพราะโลกเป็นไปตามเงื่อนไขสมมติโลก จะเอาเงื่อนไขทางจิตวิญญาณมากำหนดไม่ได้


 :25: :25: :25:

คนตายจากโลกนี้แล้ว ก็หมดสิทธิ์บนโลกทุกอย่างทุกแบบ จะมากล่าวอ้างชาติที่แล้วไม่ได้ โลกสมมติใบนี้เป็นโลกธาตุที่อาศัยเหตุปัจจัยเฉพาะคนที่มีลมหายใจอยู่เท่านั้น ดังนั้นแล้วการฝึกสมาธิที่สามารถระลึกชาติได้นั้นต้องได้ธรรมะก่อน พอได้ธรรมะแล้วเราจะรู้เห็นเยอะ เกิดเป็นปัญญาธรรม ปัญญาธรรมก็ทำให้เราเกิดภูมิจิตภูมิธรรม เมื่อเกิดภูมิธรรม อะไรในโลกอดีตก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอีกแล้ว ถ้าเราไปรู้ไปเห็นอะไรก่อนที่จะเกิดภูมิธรรม มันจะทำให้เราอยู่บนโลกนี้ยาก มันร้อนรน มีความทุกข์ ทุกข์ด้วยโทสะ โมหะ ทุกข์ด้วยความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ยึดมั่นถือมั่นในของต่างๆ ก็จะเป็นทุกข์

ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ความโกรธ อาฆาตพยาบาทต่างๆ เหล่านี้ มันจะลุกขึ้นในใจเรา ถ้าเราไม่มีธรรมะ มองไม่เห็นสิ่งที่เป็นสัจจริง ก็จะมีแต่ความทุกข์ ทุกข์เพราะว่าโลกไม่เป็นไปตามที่เราคิด ของที่เคยเป็นของเรา พอหมดจากเรามันก็ไปเป็นของคนอื่น ในเมื่อเราจดจำอดีตได้ว่าทรัพย์สมบัติเหล่านี้ สิ่งของนี้เคยเป็นของของเรา คนคนนี้เคยเป็นศัตรูเรา ถ้าเราไม่ได้ธรรมะแห่งการปล่อยวางแล้ว ทรัพย์สินเหล่านั้น ความอาฆาตแค้น เหล่านั้นเมื่อชาติที่แล้วจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา ถ้าเราไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของโลกแล้วก็จะทำให้เราทุกข์ เพราะไปยึดติดกับความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ในยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือความเกลียดชัง โกรธ อาฆาตในชาติที่แล้ว


 :41: :41: :41:

การที่จะรู้ถึงอดีตชาติได้นั้น ล้วนเป็นสิ่งเฉพาะที่ผู้ที่มีธรรมมะแล้วเท่านั้นที่จะล่วงรู้ เมื่อสามารถที่จะปล่อยวางเรื่องราวสมมติ ลาภ ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือความเกลียดชัง โกรธ อาฆาตสมมติในอดีตชาติได้ การที่ปล่อยวางในเรื่องราวสมมติ ลาภ ยศฐาบรรดาศักดิ์ในชาตินี้ได้ง่ายขึ้น

ชีวิตที่ดำรงอยู่เป็นตัวเป็นตน เล่นละครชีวิตในชาตินี้ที่แม้จะมีทุกข์ แต่เราก็เห็นทุกข์ และปล่อยวางในทุกข์ เราก็จะทุกข์น้อยลง เพราะจริงๆ แล้ว ข้อธรรมะที่เราพบนั้นไม่ได้รับประกันว่าจะแก้ปัญหาทางโลกที่เผชิญอยู่ได้ แต่มันรับประกันได้ว่า พอมันรู้ธรรมเห็นธรรม มันจะไปแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นได้แน่นอน แก้ไปจนถึงขั้นไม่ต้องกลับมาเกิด นั่นคือดวงจิตเข้าสู่กระแสแห่งพระนิพพาน.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/130414/88887
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : จิตล่วงรู้อดีตเพื่อปล่อยวาง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2014, 09:07:25 pm »
0
.......พุทธะ.......พุทโธ.........สัมมาอรหัง.......ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : จิตล่วงรู้อดีตเพื่อปล่อยวาง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2014, 08:34:13 am »
0
สาธุ เป็นประโยชน์อย่างสูงครับ

 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ