พิมพ์

[raponsan]

ชาวบ้านแห่กราบเศียรพระใหญ่นครพนมแน่นวัด ตะลึง ! พบน้ำไหลหยดพระศอ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม  เมื่อวันที่ 30 เมษายน  ว่า มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาที่วัดพุทธนิมิต บ.นาโสกเหนือ หมู่ 10 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน  หลังมีผู้โพสต์และแชร์ภาพเศียรพระขนาดใหญ่ลงในสื่อสังคมออนไลน์  ระบุว่าทางวัดจะขายเศียรพระพุทธรูปให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าไปตั้งโชว์ร้านอาหาร-โรงแรม  สร้างความหดหู่แก่ชาวพุทธไปแล้วนั้น  ซึ่งพบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปมีประชาชนในตัวจังหวัดและอำเภอใกล้เคียง  ต่างทยอยเดินทางมาสักการะขอพรเศียรพระที่ขาดประดิษฐานหน้าหอระฆังไม่ขาดสาย  จนที่จอดรถแน่นขนัด ทางวัดและคณะกรรรมการวัดจึงได้นำพระประธานพร้อมโต๊ะหมู่บูชา  และธูปเทียนมาตั้งไว้  เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้บูชาขอพรเป็นสิริมงคล  บางรายก็พากันขึ้นไปบนเนินดินจุดพบซากปรังหักพังของพระพุทธรูปปางประทานพรก่ออิฐถือปูนหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 29 เมตร

 

นายลำเผย  ชนะพจน์ ผู้ใหญ่บ้าน บ.นาโสกเหนือ หมู่ 10 กล่าวว่า  หลังมีผู้คนทยอยเดินทางมาจำนวนมาก  บางคนก็มาถ่ายภาพและแชร์ในสังคมออนไลน์กันคึกคักถือเป็นจุดดึงดูดผู้คนมาวัด  บางรายมาขอโชคหลังร่ำลือว่ามีผู้ถ่ายรูปติดที่โหนกแก้มพระด้านซ้าย ตามความเชื่อ  วัดไม่ได้ห้ามเพียงจะย้ายเศียรพระไปประดิษฐานบนเนินดิน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

“ส่วนที่มีน้ำไหลหยดออกจากพระศอ(คอ) มีผู้นำภาชนะไปรองไว้เพื่อนำไปเป็นสิริมงคล  ซึ่งเป็นเรื่องแปลกแต่ไม่อยากให้งมงายมากนัก  ขณะที่ยอดเงินที่ได้จากตู้บริจาค 2 วันกว่า 5,000 บาท จะนำไปบูรณะเศียรพระ ซึ่งในวันที่ 5 พ.ค.ตรงกับวันฉัตรมงคล  จะประกอบพิธีตั้งฐานเพื่อเตรียมบูรณะต่อไป” นายลำเผย กล่าว

นายพันธ์ศักดิ์  เอกพันธ์  วัย 72 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าว่า ช่วงตี 3 ได้ฝันว่ามีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาห้อมล้อมเศียรพระเพื่อหลั่งไหลมาทำบุญ  อาจเป็นแรงศรัทธาหลังจากพระประจวบ  อุชุชาโร พระจากวัดป่าลำสำราญ จ.อำนาจเจริญ ธุดงค์มาจากภูลังกา อ.บ้านแพง ก่อนพลัดลงกับกลุ่มพระเห็นวัดจึงแวะมาปักกลดที่วัดนี้

“ก่อนนิมิตเห็นเศียรพระฝังดินอยู่  จึงจะนำไปบูรณะก่อนให้ญาติโยมว่าจ้างรถแบ็คโฮและรถเครนจะยกขึ้นรถ โดยไม่ได้ซื้อ-ขายแต่อย่างใด  ทางวัดและคณะกรรมการวัดก็ยินยอม  กระทั่งมีผู้พบเห็นและแจ้งให้นายอำเภอท่าอุเทน และวัฒนธรรมจังหวัด มาตรวจสอบจึงระงับการเคลื่อนย้าย  พระรูปดังกล่าวเห็นชาวบ้านมีความตั้งใจจริงจะบูรณะจึงยกเลิกความประสงค์ดังกล่าว” ผู้เฒ่าวัย 72 ปี กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1398832709&grpid=&catid=19&subcatid=1906