ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บุญแท้ ไม่ปรากฏกับการให้ที่มีเจ้าของ : บาตรเดียวท่องโลก  (อ่าน 2229 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



การให้อย่างไร้ตัวตน : บาตรเดียวท่องโลก
โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

นกฮัมมิ่งเบิร์ด (Hummingbird) ได้ชื่อว่าเป็นนกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก คือ มีความยาวไม่เกิน ๖ เซนติเมตร มีอาศัยอยู่ทั่วโลก ขณะที่นั่งข้างห้องอาหาร ณ สวนปฏิบัติธรรมสวนกวาง (Deer Park) สหรัฐอเมริกา จะเห็นนกฮัมมิ่งเบิร์ดรวมชุมนุมเพื่อดื่มน้ำหวานที่ผู้มาปฏิบัติใส่ไว้ที่ภาชนะแขวนไว้กับต้นสน สังเกตเห็นนกตัวหนึ่งไม่มีความสุขกับการรับอาหารเพราะมัวแต่ไล่นกตัวอื่นที่มาขอร่วมดื่มน้ำหวานด้วย ทั้งๆ ที่มีตั้งห้าช่องที่เหลือและน้ำหวานก็มีอยู่มากมาย

มนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานต่างมีความยึดมั่น ถือมั่นในรูปแบบที่แตกต่าง เมื่อเรามีความสามารถ ศักยภาพสร้างสิ่งต่างๆ มากมายให้จิตใจได้หลงไหล เพลิดเพลิน สะดวกสบาย นั่นหมายถึง เราจะหลงยึด ติดกับดักมากมายเพิ่มขึ้นตามเช่นเดียวกัน ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะหยุดความอยากเหล่านั้น เราจะเหนื่อยอย่างไม่มีวันสิ้นสุด โดยความไม่รู้ ทั้งกายและใจ เพราะความเพลิดเพลินที่ทำให้เราเกิดความอยากเสพ และเพิ่มความต้องการมากยิ่งขึ้น ทั้งประสาทสัมผัสทั้งหก

ดังนั้นทุกธุรกิจที่ประกอบขึ้นมาจึงต้องมีการวิจัย ศึกษา ค้นคว้า สอบถาม ผู้บริโภคและคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ตลอดเวลาทั้งทางด้านอุปโภคและบริโภค เพราะจิตใจที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนให้มีความสุขกับการเสพแต่น้อย จะมีการเปลี่ยนแปลงและเบื่อสิ่งที่ซ้ำซากจำเจอยู่ตลอดเวลา ต้องการความตื่นเต้น เร้าใจ หลงไหลในระดับที่เพิ่มมากขึ้น

 
 :49: :49: :49:
           
การทำงานและความซับซ้อนแห่งจิตใจก็จะเพิ่มมากขึ้นตามเมื่อเกิดความหลงไหล เพลิดเพลินมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีความสุขจากความเรียบง่าย ไร้การปรุงแต่งยากขึ้นมากไปทุกที แต่ในส่วนลึกของจิตใจทุกชีวิตต่างโหยหา ธรรมชาติที่บริสุทธิ์

ขณะเดียวกัน เราจะไม่สามารถทนอยู่กับความเรียบง่าย ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่ไร้การปรุงแต่งได้นาน เพราะไม่มีสิ่งล่อให้จิตใจเกิดความหลงไหล เพลินเพลิดมากนัก ถ้าเราไม่อดทนเพียงพอที่จะฝืนความรู้สึกไม่น่ารักที่ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นกับการอยู่นิ่งๆ เราจะวิ่งกลับไปหาสิ่งที่เคยเสพแบบเดิมๆ ที่คุ้นชิน เพราะเราจะรู้สึกอึดอัด เหงา ดิ้นรน เหมือนคนติดยาเสพติด ที่ขาดการเสพ ความสะดวกสบาย สิ่งกล่อมเกลาทางประสาทสัมผัสไม่ได้ เราอยู่ไม่ได้กับการไม่มี หรือมีแต่น้อย และเหตุผลหนึ่งที่อ้างให้เรารู้สึกดี ไม่ผิด คือ เราต้องทำงาน ไม่ทำก็ไม่มีกิน มีใช้ ทั้งที่จิตใจเราก็ทำงานตลอดเวลาเช่นกัน แม้นั่งนิ่งๆ


 :25: :25: :25:

จิตใจที่เป็นเจ้าของ ครอบครองจึงเป็นจิตที่ไร้ความเบาสบาย โปร่งเบา สุขสงบที่แท้จริง และเมื่อยึดมากๆ ก็ยากที่จะหยิบยื่น แบ่งปัน เป็นเหตุแห่งทุกข์ที่สั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอาจถึงกับโกรธ เกลียด ทำร้าย ฆ่ากันให้ถึงตาย เมื่อต้องสูญเสียหรือกำลังสูญเสียสิ่งที่ได้รับการสมมติว่าเป็นตัวเรา ของเรา ญาติพี่น้องร่วมสายเลือดที่ทำร้ายแย่งชิงทรัพย์สมบัติ เพื่อน คนรู้จัก ที่ทำร้ายทะเลาะแย่งชิงคนรัก การนอกใจคนรัก นักการเมืองที่โกบโกยโกงกิน  มิตรที่กลายเป็นศัตรู เริ่มจากความยึดมั่น ถือมั่นและความไม่พอทั้งสิ้น

การหยิบยื่น เรียนรู้ที่จะให้ จึงเป็นบทเรียนแรกแห่งการปลดปล่อยพันธนาการแห่งความยึดมั่นถือมั่น แต่ก็มิวายที่จะมีสิ่งล่อให้เกิดความยึดมั่น ถือมั่นในอีกรูปแบบของการสร้างความภูมิใจ ทนงตน อวดตนจากการหยิบยื่น หรือการให้ซึ่งเป็นภาระของจิตใจที่ละเอียด อันตรายอีกขั้นหนึ่ง ดังนั้นการให้ที่ดีและสูงสุด คือการให้อย่างไร้ตัวตน ของตน จึงเป็นปลดปล่อยและได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง  เพราะไม่เคยมีอะไรเป็นของเรา นอกจากของธรรมชาติ แล้วใครเล่า คือ ผู้ให้

    บุญแท้ ไม่ปรากฏกับการให้ที่มีเจ้าของ


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140521/185061.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ