พิมพ์

[raponsan]

'กูเกิล' ยอมปกปิด ข้อมูลส่วนบุคคล

กูเกิล อิงค์ ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลในยุโรปให้เคารพสิทธิ์การปกปิดข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เริ่มถอดถอนข้อมูลส่วนตัวของผู้ยื่นเจตจำนงแล้ว 12,000 ราย

31 พ.ค. 57  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  กูเกิล อิงค์ ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิ้นอันดับหนึ่งของโลก ถอดถอนข้อมูลส่วนตัวของผู้ยื่นเจตจำนง 12,000 ราย ออกจากระบบเป็นครั้งแรก หลังจากที่ศาลสหภาพยุโรปมีคำสั่งให้กูเกิล เคารพสิทธิ์พื้นฐานของผู้ใช้ และร่วมปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไม่ให้ถูกละเมิดโดยผู้อื่น ด้วยการนำเสนอข้อมูลส่วนตัวในที่สาธารณะ
 
ทั้งนี้ กูเกิล ได้จัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ต ที่มี นายจิมมี เวลส์ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์วิกิพีเดีย เพื่อให้คำปรึกษาในการปฏิบัติตามคำสั่งศาลสหภาพยุโรปในครั้งนี้ด้วย
 
สื่อต่างประเทศ ระบุว่า คำสั่งของศาลที่ให้สิทธิ์ผู้ใช้ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตนเองจากการเปิดเผยต่อสาธารณะสร้างความประหลาดใจให้แก่กูเกิลและผู้ให้บริการในโลกออนไลน์อีกหลายรายเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 28 ประเทศ กำลังเพิ่มอำนาจให้หน่วยงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลในการตรวจจับและลงโทษปรับแก่ผู้ละเมิดสิทธิ์พื้นฐานนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากที่มีการเปิดโปงการละเมิดสิทธิ์พื้นฐานของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โดยหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา
 
 

ด้านวิเวียน เรดิง กรรมาธิการยุติธรรมอียู ระบุว่า สมควรแก่เวลาที่กูเกิลจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการปกป้องข้อมูลของอียูที่ออกมาตั้งแต่ปี 2548
 
ส่วน นายลาร์รี เพจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกูเกิล อิงค์ กล่าวว่าการบังคับใช้กฎหมายเช่นนี้อาจจะทำมาซึ่งการขยายอำนาจของรัฐในการเซ็นเซอร์การใช้งานอินเทอร์เน็ต และเชื่อว่ารัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้มีความก้าวหน้าเท่ากับอียูนำกฎหมายเช่นนี้ไปใช้บ้าง จะเกิดอะไรขึ้น
 
คำสั่งของศาลสหภาพยุโรปได้สร้างความวุ่นวายให้แก่กูเกิล ที่ทำธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้ถูกมนุษย์แตะต้อง และกูเกิลเชื่อว่าจะมีชาวยุโรปจำนวนมากมายื่นความจำนงในการปกปิดข้อมูลส่วนตัวออกจากพื้นที่ในโลกออนไลน์
 
 

เรดิง ยังกล่าวด้วยว่า สิทธิ์ในการปกปิดข้อมูล และสิทธิเสรีภาพ เกี่ยวข้องกับการปกป้องตัวตนและสร้างความสมดุลในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและการเปิดเผยตัวตน
 
ทั้งนี้ ศาลสหภาพยุโรปชี้ชัดถึงแนวทางการดำเนินการในการสร้างสมดุลระหว่างสิทธิ์ทั้งสองประการ และขีดจำกัดในการใช้สิทธิ์การปกป้องข้อมูลส่วนตัว โดยระบุว่าเป็นการป้องกันการลักลอบล้วงข้อมูลบุคคลจำนวนมากที่ถูกกฎหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอำนาจให้กับฝ่ายปกครองในการตรวจสอบติดตามตัวบุคคล

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140531/185683.html