ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน มรณภาพแล้ว..ปิดตำนานเสือปืนแตก  (อ่าน 4070 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน มรณภาพแล้ว..ปิดตำนานเสือปืนแตก

4 มิ.ย.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปิยนนทคุณ หรือหลวงปู่แย้ม หลวงปู่แย้ม ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ถนนนครอินทร์ (พระราม 5) ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้มรณภาพเมื่อเวลา 09.20น.ของวันที่ 4 มิ.ย.2557 ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ สิริอายุ 98 ปี

หลวงปู่แย้มชื่อและสกุลเดิมคือ "แย้ม ปราณี" เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2459  ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง ที่ ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร บิดาชื่อ "เพิ่ม" มารดาชื่อ "เจิม" อายุครบ 20  ปี อุปสมบทตามประเพณี และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้มารดาที่ล่วงลับไปแล้ว ที่วัดหลักสองบำรุงราษฎร์ มีพระครูคณาสุนทรนุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเหลือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ชื่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปิยวณฺโณ"

พรรษาที่ 2 หลวงพ่ออาพาธหนัก ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านด้วยยาต้มแผนโบราณ หายดีแล้วจึงกลับไปอยู่วัดตามเดิม ต่อมาท่านจึงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณจนแตกฉาน รักษาชาวบ้านจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ประมาณพรรษาที่ 10 หลังจากเรียนคาถามาจากหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร ท่านบอกว่าใช้เวลาเรียนไม่นาน เนื่องจากวิชาที่เรียนมีมาก จึงเลือกเรียนเพียงบางวิชาเท่านั้น ถ้าเรียนทุกอย่างคงไม่ไหว เพราะวิชามีเยอะแยะ ท่านจึงเลือกเรียนวิชาทำตะกรุด เพราะเอาไว้ป้องกัน และรักษาตัวจากภยันตราย



หลวงปู่แย้มถือเป็นเจ้าตำนานตะกรุดคอหมา อันโด่งดังพระเกจิเมืองนนท์ ด้วยเหตุที่ท่านเป็นคนที่มีเมตตาต่อสรรพสัตว์อย่างสูง สัตว์ที่ท่านรักมากก็คือสุนัขเหตุสืบเนื่องครั้งเมื่อท่านได้ทำตะกรุด ผูกคอให้กับหมาภายในวัดทุกตัว เพื่อป้องกันภัยให้หมาที่มันดุและถูกรังแก จริงๆ แล้วเขาเรียก ตะกรุดผูกคอหมา แต่แล้วคนก็มาแย่งหมาไปบูชากันเองจนหมดสิ้น ตะกรุดที่ท่านได้สร้างเพื่อแจกเริ่มแรกเป็นตะกรุดโทน แจกลูกศิษย์ลูกหา แจกญาติโยมในโอกาสสำคัญ คราวใดที่ท่านขึ้นเทศน์แสดงธรรม ญาติโยมที่ติดกัณฑ์เทศน์ถวายอันดับต้นๆ ก็จะได้รับตะกรุดทองคำ ตะกรุดเงินไปตามลำดับ
   
 :96: :96: :96:

ส่วนเหตุของการสร้างตะกรุดหนังเสือหลายปีที่ท่านไม่ได้ทำตะกรุด แต่ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาสอบถามต้องการมีตะกรุดของท่านไว้บูชาเป็นจำนวนมาก ท่านจึงทำเป็นตะกรุดหนังเสือซึ่งเป็นหนังเสือโคร่งที่มีลูกศิษย์ที่มีฐานะ นำมาถวาย หลวงปู่บอกว่าตะกรุดหนังเสือคงจะถูกทำเลียนแบบไม่ง่ายเหมือนตะกรุดแผ่นโลหะ ซึ่งคลี่ดูยันต์ข้างในไม่ได้ หลวงปู่ยังบอกอีกว่าเสือเป็นสัตว์ที่มีตะบะ มีบารมีถ้านำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง ของนั้นจะเด่นไปในทางมหาอำนาจ และอยู่ยงคงกระพันดี
   
เอกลักษณ์ของวัตถุมงคลของหลวงปู่แย้มทุกชนิด คือ ท่านลงยันต์มหาเบาเป็นยันต์ครูซึ่งท่านเรียนมาจากหลวงพ่อสายวัดหนองสองห้อง ผู้สืบวิทยาคมสาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกรูปหนึ่ง โดยท่านจะจารตะกรุดทุกวันพฤหัสบดี เสร็จแล้วท่านก็จะม้วนตะกรุดพร้อมคาถากำกับทุกดอก แล้วประจุเสกจนของขึ้นมีพลังท่านบอกว่าต้องอย่างนี้สิถึงจะใช้ได้เอาไปลองได้เลย ปืนก็ปืน มีดก็มีดรับรองไม่ได้กินเนื้อกินเลือดเราแน่

   

ท่านว่าตะกรุดหนังเสือก็มีเมตตาอยู่มากไม่ใช่มีแค่ทางมหาอำนาจอย่างเดียว ท่านยังล้อเล่นเสมอว่าไปถามเด็กซิว่า ไปเขาดินอยากไปดูอะไร ส่วนใหญ่เด็กก็จะตอบว่าจะไปดูเสือ เห็นไม่ว่าเสือมันดุขนาดไหน ใครก็อยากเห็นเสือ นี่แหละเสือมันมีเมตตามหานิยม ใครก็อยากเห็น จัดว่าเป็นวัตถุมงคลล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง “ตะกรุดหนังเสือ” ก่อนที่หลวงปู่จะมอบให้หลวงปู่ยังกำชับว่า “ใครจะยิงให้มันยิงไปเถอะ เดี๋ยวปืนมันก็แตก เอ้า เพี้ยง” ทำให้ผู้รับขนลุกซู่ไปทั้งตัว
   
เมื่อได้พูดถึงตะกรุดคอหมาแล้ว ว่าคงกระพัน หรือแคล้วคลาดอย่างไร ก็ทำให้ต้องพูดถึงวัตถุมงคลอีกอย่างที่เข้มขลังไม่แพ้กัน นั่นคือ “เสือปืนแตก” เล่ากันว่า มีนายตำรวจ ในเขตอำเภอบางกรวย ได้ทราบข่าวว่าหลวงปู่แย้ม สร้างเสือเนื้อตะกั่วขึ้นมาเพื่อหาปัจจัยสร้างวัด และมีคนเล่าให้ฟังถึงความขลังของวัตถุมงคลของหลวงปู่ จึงอยากลองของ ใด้มาขอยืมจากลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้วัด เพื่อนำไปลอง ปรากฏว่ายิงนัดแรกไม่ออก นัดที่สองไม่ออก ยิงอีกครั้งเป็นครั้งที่สาม ปืนแตกใส่มือได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลเป็นมาจนทุกวันนี้

   
 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

นอกจากนี้แล้วเมื่อสมัยหลวงพ่อสดเดินทางจากสุพรรณบุรี และมาจำพรรษาแรกที่วัดโบสถ์บน (ติดกับวัดตะเคียน )ก่อนจะย้ายไปครองวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ได้รับถ่ายทอดสุดยอดเมตตาวิชาการทำผงพุทธคุณ วิชาการลบผงอิทธิเจ เมื่อท่านสำเร็จวิชาการทำผงพุทธคุณแล้วก็ได้นำผงพุทธคุณที่ท่านได้สร้างแล้วเก็บรวบรวม ต่อมาท่านก็ได้พระเครื่องขึ้น เป็นพระสมเด็จรุ่นแรก พระขุนแผนไข่ผ่าซีก พระนางพญาเนื้อดิน พระพิมพ์เล็บมือเข่าตุ่มเนื้อผงใบลานและเนื้อผงอิทธิเจ
   
อย่างไรก็ตามตั้งแต่อดีตหลวงปู่ได้พยายามรวบรวมปัจจัย เพื่อนำมาสร้างเสนาสนะ บูรณะวัดอยู่อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด แม้นหลวงปู่จะชราภาพลงมากแล้ว แต่ยังมีภาระซ่อมสร้างเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมอีกหลายอย่าง อุโบสถ หอระฆัง ยกศาลาการเปรียญ โดยมอบหมายให้ท่านพระครูสมุห์สงบ กิตฺติญาโณ หรือหลวงพี่สงบ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้สนองงานดำเนินการในการซ่อมสร้างเพื่อให้สำเร็จลุล่วงไป


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140604/185881.html
http://e3.isanook.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ