พระครูสิริกิตติคุณกับต้นแบบพระสังกัจจายน์.
94 ปี...แผ่นดินสังกัจจายน์ สร้างเอกองค์มหึมา...จารึก
คะเซ็นเน็น (Kasennen)...เป็นนามที่ญี่ปุ่นเรียก พระอรหันต์ ผู้เป็นอสิติมหาสาวกในศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้ารูปหนึ่งที่มี ลักษณ์อ้วนพุงพลุ้ย อันหมายถึง...ความอุดมสมบูรณ์ด้วยโชคลาภ
แต่...จีนมีคติความเชื่อว่าเป็นนิรมาณกายของพระโพธิสัตว์ (พระศรีอริยเมตไตรย) ที่จะมาจุติเป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระพุทธโคตม ได้แบ่งภาคมาโลกมนุษย์ จึงแปลงตัวมาในร่างของพระสงฆ์นาม...ซีฉื่อ
O O O
สำหรับใน บ้านเรา เรียก พระอรหันต์ องค์นี้ว่า...พระสังกัจจายน์
...ตำนานพุทธสาวก บันทึกว่า พระพุทธองค์มีอยู่ 80 องค์ ที่เป็นเอตทัคคะมีเพียง 41 องค์ และในจำนวนนี้ มีการจำลองรูปมาบูชากันเพียง 3 องค์ คือ...พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร และ พระสังกัจจายน์เจิมคาถาพระบูชาก่อนจ่ายแจกตามศรัทธา.
พระสังกัจจายน์...มีร่างกายและ ผิวพรรณงดงาม มาก เป็นที่ปองของอิตถีเพศจนเกิดความปั่นป่วนด้วยความคะนองปากของ โสเรยยะ เศรษฐีหนุ่ม พูดพล่อยๆว่าถ้าภรรยามีรูปร่าง ดั่ง “สังกัจจายน์” จักพอใจยิ่ง
ด้วยอิทธิฤทธิ์...เศรษฐีหนุ่มกลายเป็นสตรีในทันที ต้องขอขมาจึงกลับกลายเป็นชายดั่งเดิม
O O O
กาลต่อมา...พระภิกษุ เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย เห็นพระเถระเดินมาแต่ไกลก็บอกกันว่า “พระบรมศาสดาของพวกเราเสด็จมาแล้ว” และ พากันเคารพกราบไหว้ ด้วยเห็นว่า รูปลักษณ์คล้ายพระผู้มีพระภาค จึงได้อธิษฐาน เนรมิตร่างให้ย่นย่อ ต่ำเตี้ย ท้องป่อง หมดความสวยงาม
ด้วยความศรัทธา...จีนแผ่นดินใหญ่นิยมสร้างองค์พระสังกัจจายน์ ประดิษฐานตามศาสนสถานทั่วไป ส่วนจะเนิ่นนานแค่ไหนนั้นไม่มีบันทึกไว้ แต่ก็พอที่จะคาดเดาถึงกาลได้จาก เครื่องเคลือบกังสมัยเซ็งเตาปังโคย กังไสนั้นมีรูปพระสังกัจจายน์ เป็นจำนวนมาก
O O O
สำหรับ แผ่นดินสยามนั้นมีการขุดพบพร้อมกับพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน....
ครั้งสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ รัชกาลที่ 1 มีการ บูรณปฏิสังขรณ์วัด แห่งหนึ่ง ณ ฝั่งธนบุรี ก็ ขุดพบประติมากรรมพระสังกัจจายน์กับหอยสังข์ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ อันเป็นนามของวัดในปัจจุบัน
เจดีย์หลักฐานความเก่าแก่ของวัด.
และ...เมื่อปี 2461 ที่ สุพรรณบุรี ริมคลองท่าว่า ชาวจีนอพยพกลุ่มหนึ่งขุดทรายที่ คุ้งน้ำวังฆ้อง เจอองค์ พระสังกัจจายน์ ปรากฏการณ์ครั้งนั้น ชุมชนหมู่ 8 ตำบลสวนแตงและวัดได้เปลี่ยนนามให้เรียกพ้องกับ พระสังกัจจายน์ ซึ่งเป็น เถระ ว่า...สังฆจายเถร
O O O
วัดสังฆจายเถร...เดิมนามว่า วัดวังฆ้อง เชื่อว่าสร้างในสมัยอู่ทอง มีเจดีย์ทรงปรางค์ (ปัจจุบันกรมศิลปากรลงทะเบียนเป็นโบราณสถาน) ยืนยันเป็นหลักฐาน
ด้วยความเก่าแก่และเนิ่น นานศาสนสถานแห่งนี้มีการปล่อยให้ทิ้งร้างและบูรณปฏิสังขรณ์กันมาหลายครั้ง ล่าสุดล่วงเข้า สมัยพระพุทธเจ้าหลวงฯจึงได้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาอีกครั้งโดยมีพระสงฆ์จำวัดสืบต่อกันมา...วัดก็ยังใช้นามเดิม
เมื่อมีการขุดพบพระสังกัจจายน์ จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดตามชุมชน ปัจจุบัน พระครูสิริกิตติคุณ หรือ พระมหาชาญชัย กิตติญาโณ ปธ.5 เป็นเจ้าอาวาส (เป็นลำดับที่ 4 ตั้งแต่บูรณปฏิสังขรณ์ครั้งล่าสุด)
O O O
พระมหาชาญชัย...อายุ 54 ปี พรรษา 33 เป็นชาวสุพรรณบุรีโดยกำเนิด เกิดในตัวเมืองแต่ มารดาเป็นชาวบ้านสังฆจายเถร ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ทำงานเกี่ยวกับบริษัทคอนกรีตผสมเสร็จในกรุงเทพฯ
บริเวณที่ประดิษฐานพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่.
เมื่ออายุครบเกณฑ์ ได้ ลางานมาคัดเลือกทหารไม่ติด มีเวลาเหลือจึง เข้าอุปสมบทซึ่งในตอนแรกเพียงเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่เพียง 7 วัน แต่ถึงเวลาลาสิกขาก็ขออยู่ต่อกระทั่งปัจจุบัน
O O O
ช่วงที่บวชอยู่นั้นได้รับใช้ พระครูสุนทรสุวรรณกิจ “หลวงพ่อดี” เจ้าอาวาสวัดพระรูป เกจิอาจารย์ผู้ มีพลังเข้มขลังในด้านเมตตามหานิยม เรียกโชคลาภ และปลุกคาถามนต์เรียกทรัพย์...ฯลฯ
และ...เป็นศิษย์ได้รับการถ่ายทอดศาสตร์นานถึง 10 ปี จนหมดไส้หมด พุง ผู้เป็น อาจารย์จึงอนุญาตให้ใช้วิชาอาคม โดยบอกว่าเธอมีพลังพอที่จะออกโปรดและช่วยเหลือชาวบ้านด้วยตนเองได้แล้ว
บางครั้งที่มีกิจนิมนต์... หลวงพ่อดีก็จัดให้พระมหาชาญชัยไปแทน โดยบอกว่า...มหาฯก็เก่งเหมือนฉัน นั้นแหละ...!!
O O O
ประกอบกับช่วงปี 2545 เจ้าอาวาสวัดสังฆจายเถรมรณภาพ จึงแต่งตั้งพระมหาชาญชัยมาเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ ด้วยที่ว่าเป็นดินแดนที่มารดาเกิดจึงรับกิจนิมนต์ในตำแหน่งตั้งแต่บัดนั้น ตลอดระยะเวลาได้พัฒนาและสร้างอาคารศาสนสถาน ณ วัดสังฆจายเถร เพื่อประกอบศาสนกิจครบถ้วนและ ได้ฐานะเป็นเจ้าคณะตำบลสระแก้ว
ก่อน...หลวงพ่อดีจะละสังขาร ได้เรียกเข้าพบ และบอกแก่ศิษย์เอกว่า สิ่งที่ควรสร้างต่อไปเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและวัดคือ...พระสังกัจจายน์
O O O
วัดพระสังฆจายเถร จึงได้จัดสร้างถาวรวัตถุเป็น พระสังกัจจายน์มวลสารโลหะ ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร 9 นิ้ว สูง 10 เมตร ด้วยการรวบรวมกองทุนศรัทธาเป็นส่วนหนึ่ง
อีกส่วนจะมาจาก...วัตถุมงคลในการย่อส่วนพระสังกัจจายน์เป็นพระบูชา บนฐานมังกร ฐานกลม ฐานบัวเหลี่ยม พระปิดตา พระยอดธง ซึ่งมิได้สร้างจำนวนมาก เกรงจะถูกกล่าวหาว่าเป็นพุทธพาณิชย์
อีกกองทุนหนึ่ง...จากการสืบสานศาสตร์ของอาจารย์ (หลวงพ่อดี) ด้วยการเจิมหน้าเศรษฐี เจิมเมตตามหานิยม เป่ามนต์เรียกทรัพย์ เรียกแก้วสารพัดนึก...ฯลฯ
O O O
ดำเนินการ....ไม่โลภะรวมแรงร่วมทุน ผนึกพลัง ศรัทธาทีละน้อย จากร้อยเป็นล้าน และหลายๆล้าน ด้วยมหาโชคมหาลาภ...ให้ พระสังกัจจายน์สมบูรณ์ แล้วเสร็จ
เพื่อ จารึกบุญใหญ่ในเบื้องหน้า...หนึ่งศตวรรษแผ่นดินพระสังกัจจายน์ ในสุพรรณบุรี...!!
ก้อง กังฟูขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/427886