« เมื่อ: มิถุนายน 13, 2014, 11:28:04 am »
0
ฮือฮา.! อดีตนายทหาร จัดงานศพให้ตัวเอง
ฮือฮา! อดีตนายทหารจัดงานศพให้ตัวเองทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำพิธีเหมือนงานศพจริงทุกประการ คนแห่ร่วมงานแน่นวัด
12 มิ.ย.57 เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายวรภพ ฉิมพันธ์ นายก อบต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ว่าได้รับการประสานจาก ร.อ.สำราญ มีจ่าย อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่18/1 หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นอดีตนายทหารสังกัด ร.1 พัน 3 รอ. เชิญให้ไปประธานในพิธีทำศพเป็น ของ ร.อ.สำราญ ซึ่งมีความสนิทกัน โดยจัดพิธีที่ศาลาการเปรียญวัดสุวรรณนาคี ต.ตลิ่งชัน
จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังร่วมพิธีซึ่งจัดเหมือนกับการจัดงานศพคนตายทุกประการ โดยมีการตั้งโลงศพ และมีดอกไม้ประดับประดาอย่างสวยงาม พร้อมพระสวดบังสกุล และยังมีมหรสพปีพาทย์มอญวงใหญ่ขับกล่อม จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ได้มีพิธีแห่รอบเมรุ
3 รอบ โดยแห่ทางซ้ายไปขวา ซึ่งปกติถ้าแห่ศพจะแห่ทางขวาไปซ้าย และมีพระสงฆ์จำนวน 21 รูป แห่นำหน้า เมื่อครบ 3 รอบ สัปเหร่อและชาวบ้านได้ช่วยกันหามโลงศพขึ้นไปไว้บนหน้าเมรุ จากนั้นได้มีการทำพิธีบังสุกุล จำนวน 4 เจ้าภาพ หลังพิธีบังสุกุลเจ้าภาพทั้ง 4 ได้กล่าวคำอวยพรขอให้ ร.อ.สำราญ มีอายุยืนยาว และเมื่อพิธีกรอ่านประวัติเสร็จ ชาวบ้านที่มาร่วมงานได้ขึ้นไปอวยพรกันแน่นเมรุ และรับของชำร่วยเป็นยารักษาโรคกลับบ้านไปคนละ 1 กระปุก 

โดย ร.อ.สำราญ กล่าวว่าตนเคยเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ อยู่ ร.1. พัน 2 รอ. และเคยผ่านสมรภูมิรบรุ่นจงอางศึกที่เวียตนามและเกาหลี ก่อนเกษียณอายุราชการได้รับปูนบำเหน็จชั้นยศเป็น ร.อ.สร้างความภาคภูมิใจให้ตนและครอบครัวอย่างมาก วันนี้รู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้จัดงานศพให้กับตนเอง ส่วนสาเหตุที่จัดงานศพเป็นให้กับตนเองเนื่องจาก ตนมีอายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง
ดังนั้นในขณะที่มีชีวิตอยู่จึงได้จัดงานศพเป็นให้กับตนเอง พร้อมกับบริจาคทานให้กับโรงเรียนและวัด เพราะคิดว่าการบริจาคทานด้วยมือตนเองขณะมีชีวิตอยู่นั้น ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในบุญกุศล เพราะคนเราเกิดมาต้องมีการดับสลาย ดังนั้นขณะมีชีวิตอยู่ควรจะปฎิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ชาติ ไม่เอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ แต่ต้องกันข้ามเราต้องช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และประการที่สำคัญอีกอย่างก็คืออยากเห็นว่าขณะที่เรามีชีวิตอยู่เมื่อจัดงานศพให้ตัวเองจะมีใครมาบ้าง เพราะถ้าเราตายไปแล้วลูกหลานมาทำศพให้เราก็ไม่เห็นและอยากรู้ว่าบรรยากาศในงานศพของตัวเองจะเป็นอย่างไร ใครมาร่วมงานบ้าง
ร.อ.สำราญ กล่าวต่อว่าส่วนโลงศพนั้น ตนจะนำไปไว้ในห้องนอนที่บ้าน เพื่อเอาพิจารณาตัวเอง ว่าเมื่อเราตายไปก็จะได้หมดห่วง ไม่ต้องกังวลหรือมีห่วงใด เพราะตอนนี้ได้ทำหน้าตอนยังมีชีวิตอยู่สมบูรณ์แล้ว ส่วนร่างของตนเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ตนได้อุทิศให้กับคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลศิริราชเพื่อให้นักศึกษาได้ค้นคว้าวิจัยต่อไป
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140612/186361.html