เปรียบอาหารเช้าเสมือนพระราชา กินน้อยเครียดมาก ′อ่อนไหว-หงุดหงิด′ง่าย
ชีวิตคนในเมืองมักจะไม่ได้กินอาหารเช้า เพราะความเร่งรีบ คุณเคยสังเกตตัวเองไหมว่า การไม่ได้กินอาหารเช้า ในวันนั้นคุณรู้สึกว่าตัวเองจะหงุดหงิดเป็นพิเศษและอารมณ์จะอ่อนไหวง่าย
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันพบว่าคนที่กินอาหารเช้าน้อยเท่าไรยิ่งเกิดความเครียดได้มากเท่านั้นและอารมณ์จะอ่อนไหวง่าย หงุดหงิดง่าย ในทำนองเดียวกันหากคุณกินอาหารมื้อกลางวันที่ให้พลังงานน้อย ก็จะมีผลเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการศึกษาพบว่า อาหารที่กินเข้าไปมีผลต่ออารมณ์และความเครียด
เขาได้ทำการศึกษาโดยแบ่งคนออกเป็น๒กลุ่มกลุ่มแรกให้กินอาหารเช้าและกลางวันตามปกติ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะให้กินอาหารที่มีพลังงานต่อมื้อต่ำ เขาพบว่า มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องอารมณ์ แต่กลุ่มที่ได้รับพลังงานต่ำจะเกิดความเครียดขึ้นมีความกระวนกระวายและมีความอดทนน้อยลงในการทำงาน

ส่วนที่อังกฤษเขาได้แสดงผลการศึกษาการกินอาหารเช้าที่มีไขมันมากว่าจะทำให้สมองทำงานช้าลงเฉื่อยล้า ขาดความคิดสร้างสรรค์ และมีความเพ้อฝันมากขึ้น University of Sheffield ได้ตรวจสอบ พบว่า ในกระบวนการย่อยไขมันจะไปลดความกระฉับกระเฉง ความคล่องแคล่วว่องไว และความละเอียดลออลง
ในบทความดังกล่าวยังได้เปรียบเทียบความสำคัญของอาหารแต่ละมื้อว่าอาหารเช้าเปรียบเหมือนพระราชาอาหารกลางวันเปรียบเหมือนพระราชินีส่วนอาหารมื้อค่ำเปรียบเหมือนยาจก ใครจะเน้นหนักมื้อไหนก็คิดดูเอาเองข้อมูล : Facebook นิตยสารหมอชาวบ้าน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1402967466