ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนคิดชวนทำ : ลบ 7 นิสัยร้าย บ่อนทำลายมิตรภาพ  (อ่าน 2147 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชวนคิดชวนทำ : ลบ 7 นิสัยร้าย บ่อนทำลายมิตรภาพ

เคยมีคนกล่าวว่า “เมื่อความคิดแง่ร้ายผุดขึ้นในสมอง ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่การไม่จมปลักอยู่กับมันนั้น ยังไม่พอ คุณต้องแทนที่มันด้วยความคิดแง่บวกด้วย”
       
       แล้วคุณล่ะ...เป็นคนที่ชอบคิดและมองอะไรๆ ในแง่ร้ายหรือเปล่า? เพราะจะว่าไปแล้ว ทุกคนล้วนมีรูปแบบความคิดด้านลบเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่หากเราสะสมมันไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นนิสัยติดตัว
       
       แต่หากคุณตระหนักรู้ถึงแนวความคิดด้านลบที่มีอยู่ และแปรเปลี่ยนให้เป็นตรงกันข้าม ย่อมส่งผลดีต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและชีวิตตัวเอง ดังนั้น จงอย่ารีรอที่จะโยนความคิดร้ายๆออกไป

        ans1 ans1 ans1

      ลองสำรวจดูซิว่า 7 ความคิดไม่ดีเหล่านี้ มีอยู่ในตัวคุณบ้างมั้ย?
       
       1. อาฆาตมาดร้าย      
       เมื่อมีคนทำไม่ดีหรือทำเรื่องร้ายๆกับคุณ คุณมักจะโกรธและอาฆาตมาดร้ายอยู่เสมอ และบ่อยครั้งถึงกับสาบานว่า “ฉันจะไม่มีวันให้อภัยอย่างเด็ดขาด”       
       คุณรู้มั้ยว่า..ความคิดเช่นนี้ทำร้ายใครกันแน่? ตัวคุณเองหรือคนที่คุณกล่าวคำอาฆาต
       
       คำตอบ คือ คุณกำลังทำร้ายตัวคุณเอง เพราะหากยังมีพลังความเกลียดชังซึ่งเปรียบเสมือนไฟที่ลุกโชนอยู่ในใจตลอด มันก็จะคอยเผาผลาญจิตใจคุณให้เร่าร้อนทุกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเห็นหน้าคู่กรณี ซึ่งคุณยังไม่ได้ล้างแค้น ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เพียงส่งผลร้ายต่อจิตใจ แต่มันยังรวมถึงร่างกายด้วย เพราะความเครียดที่สะสมมา จะกลายเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคประสาท เป็นต้น
       
       เพราะฉะนั้น จึงน่าจะดีกว่า หากรู้จักข่มอารมณ์ร้ายไม่ให้เกิดขึ้นแต่แรกด้วยการใช้หลักธรรมะมาช่วย เช่น พิจารณาว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง คุณก็อาจเคยทำเช่นนี้กับคนอื่นมาเหมือนกัน หรือการสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับคู่กรณีบ่อยๆ ก็จะทำให้คุณใจเย็นลง และปล่อยวางความอาฆาตมาดร้ายได้ในที่สุด


        :sign0144: :sign0144: :sign0144:

       2. กล่าวโทษผู้อื่นเสมอๆ       
       หลายครั้งที่เกิดความผิดพลาดขึ้นในชีวิต คุณมักจะกล่าวโทษหรือโยนความผิดให้ผู้อื่นหรือสิ่งอื่น ได้แก่ เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน องค์กร สังคม ลมฟ้าอากาศ ฯลฯ ว่าเป็นต้นเหตุให้คุณพบแต่เรื่องแย่ๆ เช่น เงินเดือนไม่พอใช้ เพราะเจ้านายไม่ขึ้นเงินเดือนให้ บริษัทที่ทำงานอยู่ก็ไม่มีโบนัสหรือผลตอบแทนที่ดี ทำให้ไม่สามารถซื้อรถซื้อบ้าน เรียกว่าสารพัดที่จะโทษ เพราะมันง่ายกว่าและดีกว่าที่จะโทษตัวเองว่า เป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักเก็บออม
       
       แต่สิ่งที่ควรทำคือ พึงระลึกเสมอว่า ทุกคนมีทางเลือก และขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะเลือกแบบไหน หากเลือกที่จะกล่าวโทษผู้อื่น คุณก็จะอยู่ในสภาพที่ไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต แต่ถ้าเลือกที่จะมองตัวเอง กล่าวโทษตัวเอง แล้วปรับปรุงตัวเอง คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีความสุขจนน่าอิจฉา


        :29: :29: :29:

       3. ไม่ยอมฟังใคร       
       ถ้าคุณมักยึดติดกับความคิดของตัวเอง โดยไม่สนใจที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หากเป็นเช่นนี้ละก็ มันคือเครื่องบ่งชี้ว่า ความสัมพันธ์ของคุณกำลังล่มสลาย
       
       เพราะทุกครั้งที่ผู้ร่วมงานเสนอความคิดเห็นในเรื่องราวหรือแผนงานต่างๆ คุณจะต้องโต้แย้งและปฏิเสธเป็นประจำ คือ ถ้าไม่พูดปฏิเสธตรงๆ ก็จะแสดงความคิดเห็นประมาณว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อสื่อให้เข้าใจว่า ความคิดของคนอื่นยังไม่เข้าท่า แต่ความคิดของคุณดีกว่าหลายเท่า
       
       การกระทำเช่นนี้อย่างไร้เหตุผลบ่อยๆ อาจก่อให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียด ซึ่งแน่นอนย่อมไม่เป็นผลดีกับความสัมพันธ์ในหมู่ผู้ร่วมงาน       
       ทางที่ดีควรรับฟังและยอมรับความคิดของคนอื่นดูบ้าง และเมื่อผลลัพธ์ออกมา คุณอาจจะพบว่า มันเจ๋งกว่าคุณคิดไว้เยอะ


        :49: :49: :49:

       4. ดูถูกคนอื่น       
       การที่คุณชอบดูถูกคนอื่น ทั้งการพูดทำนองว่า “ไม่มีทางที่เธอจะประสบความสำเร็จหรอก” และแววตาเหยียดหยามเยาะเย้ย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถือว่าเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์ชัดๆ
       
       ทั้งๆที่คุณเองก็ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้อนาคต แต่คำพูดหรือกระทำบางอย่างในด้านลบ เป็นการปลุกปั่น สร้างรอยร้าวฉานให้เพื่อน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีเลย       
       ตรงกันข้าม การใช้คำพูดที่ให้ความหวังและกำลังใจแก่ผู้อื่นเสมอ จะทำให้มิตรภาพของคุณงอกงามขึ้นเรื่อยๆ


        :91: :91: :91:

       5. แส่ทุกเรื่อง      
       ทุกคนมีวิถีชีวิตของตัวเอง และไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายในเรื่องที่ไม่ได้ร้องขอ แต่หากคุณเป็นคนประเภท “แส่ทุกเรื่อง” ทั้งรู้จริงและไม่รู้จริง กับทุกเรื่องราวของคนรอบข้าง และพยายามผลักดันให้เขาทำตามสิ่งที่คุณบอก นั่นย่อมนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่แตกสลาย
       
       เพราะหากเขาไม่ทำตามสิ่งที่คุณแนะนำ (ซึ่งอาจจะผิดหรือถูก) คุณก็จะโกรธ ไม่พอใจ แต่หากเขาทำตามที่คุณบอกแล้วเกิดความผิดพลาด เขาก็จะโกรธและไม่พอใจ       
       การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่พยายามผลักดันความคิดของตัวเอง เมื่อใครบางคนร้องขอ น่าจะเป็นสิ่งดีที่สุดที่ควรทำ เพื่อดำรงไว้ซึ่งมิตรภาพอันงดงาม


        :41: :41: :41:

       6. ชอบตัดสินคนอื่น      
       การตัดสินผู้อื่นด้วยคำพูดหรือการกระทำ ที่เกิดจากความไม่รู้จริง อาจทำให้คนคนนั้นรู้สึกเสียใจและเกิดความเสื่อมเสีย รวมทั้งคุณจะสูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีไปด้วย เช่น เห็นมีผู้ชายแปลกหน้ามานอนค้างบ้านเพื่อนบ้านซึ่งสามีไม่อยู่บ่อยๆ ก็เอาไปนินทาว่าร้ายต่างๆนานา ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ผู้ชายคนนั้นคือน้องชายของเธอที่มานอนเป็นเพื่อนพี่สาว เป็นต้น
       
       ดังนั้น อย่าด่วนตัดสินคนอื่นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเด็ดขาด หากสงสัยใคร่รู้ ก็ให้ถามไถ่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน


        :96: :96: :96:

       7. ขโมยซีน       
       ในวงสนทนาที่เพื่อนคนหนึ่งกำลังเล่าเรื่องราวสนุกสนานให้ทุกคนฟัง แต่ขณะที่ยังพูดไม่จบ คุณซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ก็ชิงซีนพูดแทรกขึ้นมา เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่คิดว่าน่าสนใจ เพื่อให้ทุกคนหันมาฟังแทน แล้วมันก็ได้ผลดีซะด้วย
       
       แต่การขโมยซีน เพื่อเรียกร้องความสนใจอย่างไร้มารยาทนี้ กลับกลายเป็นผลร้ายที่เกิดขึ้นกับคุณ เพราะมันอาจทำให้เพื่อนคนนั้นเลิกคบคุณไปเลยก็เป็นได้

       
จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 164 สิงหาคม 2557 โดย ประกายรุ้ง
http://www.manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9570000087321
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ