ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘สมเด็จวัดปากน้ำ’ ผู้สร้างศาสนสัมพันธ์อาเซียน  (อ่าน 1001 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29302
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


‘สมเด็จวัดปากน้ำ’ ผู้สร้างศาสนสัมพันธ์สันติสุขอาเซียน
สำราญ สมพงษ์ รายงาน

คงเป็นภาพที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ผู้นำศาสนาสำคัญทั้ง 5 ศาสนาคือพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิกข์ ในภูมิภาคประชาคมอาเซียนมาพบปะกัน ปรึกษาหารือกันเพื่อดับร้อนของคนในภูมิภาคนี้

แต่ภาพนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2557  ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในการประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 ในหัวข้อเรื่อง ขันติธรรมทางศาสนา ที่ มจร และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ร่วมกันจัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานเปิดงาน

งานนี้มีเป้าหมาย "เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้นำศาสนาใน 10 ประเทศอาเซียนมาพูดคุยกันว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติและยั่งยืนอย่างไร สร้างสะพานเดินเข้าไปหากันมากกว่าการสร้างกำแพงเพื่อปิดกั้นกันและกัน" ตามที่พระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร พร้อมด้วยผู้แทนศาสนาในภูมิภาคประชาคมอาเซียน ร่วมกันแถลงข่าวของการจัดงานครั้งนี้ที่พุทธมณฑลที่ผ่านมา


 :25: :25: :25: :25:

การที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์รับเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าประคุณสมเด็จให้ความสำคัญ ความจริงแล้วเจ้าประคุณสมเด็จนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทางศาสนาต่างๆ ตั้งแต่สมัยที่เป็นพระธรรมทูตเดินทางไปบุกเบิกเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ประเทศสหรัฐอเมริการ่วมกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ  และอดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และพระพรหมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม

และเมื่อปี 2555 มีการจัดสัมมนานานาชาติ เรื่อง "ศาสนากับกระบวนการสร้างสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน"  ที่จังหวัดปัตตานี  จัดโดยศาสนาสันนิบาตโลกมุสลิม สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคมสมัยนั้นก็ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย


 st12 st12 st12 st12

ในครั้งนั้นเจ้าประคุณสมเด็จได้เป็นวิทยากรร่วมกับวิทยากรสำคัญเช่น นายอับดุลเลาะห์ บิน อับดุลมุหชิน อัล ตุรกี เลขาธิการสันนิบาตโลกมุสลิม ประธานร่วมศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (RfP - IRC Thailand) สมเด็จพระสังฆราช Tep Vong (กัมพูชา) ประธานร่วมศาสนาเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ

Mr. Myint Swe จากมูลนิธิรัตนเมตตา สหภาพพม่า อัครสังฆราช Fernando Capalla จากฟิลิปปินส์ สังฆราชแห่งมินดาเนาและประธานกิจการระหว่างศาสนาและระหว่างชาวคริสต์ของสหพันธ์สภาสังฆราชแห่งเอเชีย Dr.Nyoman Udayana Sangging กรรมการบริหารของสมาคมฮินดูแห่งอินโดนีเซีย พระอาจารย์ภูสวรรค์ รองประธานพุทธศาสนสัมพันธ์ประเทศลาว Sadsr V. Harcharan Singh ประธานสภา Gurdwards แห่งมาเลเซีย Prof. Dr. Philip K Widjaja รองเลขาธิการพุทธสมาคมแห่งอินโดนีเซีย Huji Mohamad Idris ประธานชุมชนอิสลามในกรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม Dr. Yabit Alas คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบรูไนดารุสซาลาม Sister Maria Law ประธานองค์กรระหว่างศาสนาแห่งสิงคโปร์ เป็นต้น


 st12 st12 st12 st12

ได้เห็นภาพของสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 ศาสนา คือ อิสลาม พุทธ คริสต์ ซิกข์ และฮินดู และก็มีวัตถุประสงค์ที่เป็นเวทีและสะพานเชื่อมระหว่างผู้นำศาสนารวมทั้งประชาชนทั่วไปในการนำหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องมาใช้ในกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเปิดโอกาสให้แต่ละศาสนาในพื้นที่เสนอทางออกในมิติของการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์และสันติสุข และที่ได้เห็นภาพเช่นนั้นเพราะรัฐบาลในครั้งนั้นให้การสนับสนุนการจัดงาน

การสร้างสะพานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 ศาสนาจากปี 2555 จนถึงวันที่ 26 ก.ย.2557นี้เกือบ 3 ปีแล้ว ได้ใช้"ขันติธรรมทางศาสนา"อย่างมากถึงเดินทางมาได้และต้องสร้างต่อไปเพื่อสันติสุขให้เกิดขึ้นกับคนในภูมิภาคประชาคมอาเซียนและชาวโลก


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140923/192638.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ