ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวไทยทอดกฐิน วัดบังกลาเทศ อุทิศพระเถระชื่อดัง  (อ่าน 968 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 29389
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชาวไทยทอดกฐิน วัดบังกลาเทศ อุทิศพระเถระชื่อดัง
สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาโทสันติศึกษา มจร รายงาน

ช่วงนี้ถือเป็นเทศกาลทอดกฐิน ชาวไทยพุทธส่วนใหญ่ได้บำเพ็ญบารมีทั้งทานบารมี ศีลบารมี และปัญญาบารมีอย่างถ้วนหน้า รวมถึงวิริยบารมีคือต้องเดินทางไปทำบุญในถิ่นต่างไกลความจริงวัดตามเขาตามดอยถือเป็นการบำเพ็ญบารมีขั้นอุกฤษฏ์

ไม่ใช่เฉพาะชาวไทยพุทธเท่านั้นที่นิยมทำบุญทอดกฐิน ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทก็มีประเพณีทำบุญกฐินเช่นกันอย่างเช่นประเทศประทศบังกลาเทศก็มีประเพณีคล้ายๆกับประเทศไทย อย่างเช่นเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ได้มีคณะสาธุชนชาวไทยส่วนหนึ่งเดินทางไปทอดกฐินสามัคคีที่ที่วัดฮารุอัลชรี พุทธเชตวันวิหาร (Harualchari Buddha Jetaban Vihar)  หมู่บ้านฮารูอัลจารี อำเภอฟาติกจรี เมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ  ซึ่งเป็นเมืองที่มีพื้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศบังกลาเทศ ณ ที่แห่งนี้มีแม่น้ำและที่ราบอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่รู้แจ้งทำให้บริเวณนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า


 :25: :25: :25: :25:

ช่วงเช้ามีพิธีถวายสังฆทานแต่พระสงฆ์ประมาณ ๗๐ รูป และพิธีเปิดอาคารสามชั้นที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ระลึกและอุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระภิกษุเอช สุขตปิยะ (Bhikku H Sugatapriya)  และพระอาจารย์เดนนิส ธมฺมนิสฺสโย (Phra Ajhan Dennis Dhammanissiyo Thero)  ส่วนช่วงบ่ายเป็นพิธีถวายผ้ากฐินแต่พระสงฆ์ ประธานพิธีในปีนี้ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากพระศีลานันทมหาเถระ

อาคารหลังใหม่สามชั้นนี้ ชั้นที่ ๑ ใช้เป็นสถานทีสอนธรรมแก่พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป ชั้นที่ ๒ ใช้เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติสมาธิ และชั้นที่ ๓ เป็นสถานที่รับรองพระภิกษุสงฆ์และประชาชนทั่วไป



หมู่บ้านฮารูอัลจารีแห่งนี้ถือเป็นสถานที่กำเนิดของพระภิกษุเอช สุขตปิยะ  เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๕ ชื่อในวัยเด็กคือ สูบัส จันดรา บารูวา “Subas Chandra Barua” คำว่า สูบัส หมายถึง เครื่องหอม และ จันดรา หมายถึง ดวงจันทร์ ท่านเกิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธ มารดาชื่อ มานอนฐา บารูวา และบิดาชื่อ อาภรณ์ จรัล บารูวา

ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๔ พระภิกษุเอช สุขตปิยะได้เข้าร่วมในสงครามต่อสู้เพื่ออำนาจอธิปไตยและความเป็นอิสระของประทศบังกลาเทศ นอกจากนั้นท่านยังได้เป็นศิษย์ของ ท่านธรรมดารา มหาเถระ ซึ่งเป็นนักปรัชญา นักวิชาการที่มีชื่อเสียง และยังเป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทให้แก่ท่านอีกด้วย เมื่อพ.ศ. ๒๕๒๒ ที่ ธรรมังกูฐ วิหารในเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย เมื่อท่านมีอายุได้ ๒๗ ปี หลังจากได้รับการอุปสมบทแล้วท่านได้เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ศูนย์ฝึกอบรมพระภิกษุมหาระกัมมา เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา



พระภิกษุเอช สุขตปิยะ ได้เป็นผู้ก่อตั้ง ฮารูอัลจารี พุทธสมาคมเพื่อสวัสดิการสังคม และยังเป็นผู้อำนวยการของจุปราสูกตาวิหาร และคุณาลังกระ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า รวมทั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ของอาจาระ ชูบอน บาลีวิทยาลัย และยังเป็นอาจารย์สอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียน บารอ มัฌชียา นอกจากนั้นยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไปของสถาบันฝึกอบรมและปฏิบัติงานของพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งเป็นเลขานุการของมูลนิธิมหามณฑล ซึ่งเป็นองค์กรสวัสดิการสังคมเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาและช่วยเหลือประชาชนทั่วไป

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ พระภิกษุเอช สุขตปิยะ ได้รับรางวัลเกียรติยศจากรัฐบาลบังคลาเทศ ทางด้านการสนับสนุนสังคมสงเคราะห์กับเด็กในพื้นที่ราวแซน ถือได้ว่าท่านคือแสงสว่างส่องทางให้กับเด็กและเยาวชนแห่งอำเภอฟาติกจรี และเสียสละของท่านในครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำอย่างยาวนาน


 :96: :96: :96: :96:

เป็นที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง ในขณะที่ท่านเป็นตัวแทนพระสงฆ์บังคลาเทศมาร่วมประชุมที่เมืองโตโรนโต ประเทศแคนาดา และเดินทางกลับได้อาพาธกระทันหันและเสียชีวิตลงในวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ด้วยอายุ ๔๒ปี ที่ ซาน มะตีโอ San Mateo รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

พระภิกษุเอช สุขตปิยะ เป็นพระสงฆ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับหลายองค์กรทั้งในชุมชนที่นับถือพระพุทธศาสนาและชุมชนที่ต่างศาสนา ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากสองพระปรมาจารย์ทางด้านพุทธศาสนา คือ สมเด็จพระญาณศรี มหาสโตวีระ และพระปัญญาวังศะ มหาสโตวีระ เปรียบได้ว่าทั้ง ๓ รูปเป็นอัญมณีของสังคมชาวพุทธร่วมสมัยแห่งบังกลาเทศ  พระภิกษุเอช สุขตปิยะ เป็นพระสงฆ์ที่ทุ่มเทให้แก่พระพุทธศาสนาและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ทุกคนในบังกลาเทศจะจดจำท่านและผลงานอันทรงคุณค่าต่างๆของท่าน


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20141019/194310.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ