พิมพ์

[raponsan]

ยืนยันคุณยาย 94 ‘ตายแล้วฟื้น’ แค่มีชีพจร ไม่ได้ลุกนั่ง.!

ลูกหลานทำใจ ปาฏิหาริย์ไม่น่าจะมีจริง คุณยายวัย94ปี‘ตายแล้วฟื้น’ที่อุดรธานี ชีพเต้นเบาลงเรื่อยๆ เผยเป็นภริยาอดีตอัยการจังหวัด ลูกสาวขอแก้ข่าว บอกคุณยายไม่ได้ลุกขึ้นนั่ง หรือพูดคุย แค่มีชีพจรอ่อนๆ 

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 9/54 ซอยเบญจางค์ 2 ถนนเบญจางค์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังทราบว่า มีคุณยายวัย 94 ปีตายแล้วฟื้น เมื่อไปถึงพบว่าญาติได้ผูกผ้าระบายสีขาว-ดำที่รั้วบ้าน บริเวณบ้านมีการตั้งเต็นท์ กางโต๊ะ เก้าอี้วางอยู่ ส่วนภายในบ้านพบคุณยายเทียบ บุญยเกียรติ อายุ 94 ปี นอนอยู่บนเตียงนอนบริเวณกลางห้องโถง มีลูกหลานเฝ้าอยู่ข้างเตียง และญาติพี่น้องเตรียมอาหารอยู่ข้างบ้าน

นางสุนิสา ทรงศาสตร์ อายุ 60 ปี ลูกสาวของคุณยาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คุณแม่เป็นภริยาอดีตอัยการจังหวัดอุดรธานี ป่วยด้วยโรคชรา ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกหลานได้พาคุณแม่ไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กรุงเทพฯ ต่อมาได้นำกลับมานอนรักษาอยู่บ้านในกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 1 เดือน กระทั่งเวลา 03.20 น. วันที่ 21 ตุลาคม คุณแม่ได้เสียชีวิต แต่ลูกหลานไม่ได้ฉีดยาศพ เมื่อทำความสะอาดและสวมเสื้อผ้าให้ใหม่ ก็รู้สึกว่าคุณแม่ตัวแข็งแล้ว และสวมเสื้อผ้าลำบาก จากนั้นจึงนำศพคุณแม่กลับมาที่บ้าน จ.อุดรธานี

 

ลูกสาวคุณยาย เปิดเผยต่อว่า เมื่อมาถึงบ้านที่ จ.อุดรธานี เวลา 19.30 น. วันที่ 21 ตุลาคมได้นำศพคุณแม่มานอนบนเตียงกลางห้องโถง เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพ เพราะคุณแม่เป็นคนเก่าคนแก่ของ จ.อุดรธานี แต่เมื่อนำศพคุณแม่ลงมานอน ก็พบว่าตัวอ่อน สีหน้ามีเลือดฝาด เมื่อจับดูชีพจร ก็พบว่าชีพจรเต้น แต่เต้นแบบอ่อนๆ เหมือนคนนอนหลับจึงได้แจ้งให้แพทย์มาตรวจ ซึ่งแพทย์บอกว่ามีชีพจรจริง เหมือนตายแล้วฟื้นและปล่อยให้คุณแม่นอนเฉยๆ อย่าไปทำอะไร รอปาฏิหาริย์ว่าจะมีจริงหรือไม่

"ขอแก้ข่าวที่ออกไปด้วยว่า คุณยายแค่มีชีพจรอ่อนๆ ไม่ได้ลุกนั่ง หรือพูดคุย ตามที่มีข่าวบางฉบับบางช่องเสนออกไป ซึ่งเมื่อวานนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้ทำข่าว เพราะเกรงว่าจะเป็นการหลอกลวงประชาชน ลูกหลานรอให้คุณแม่ลืมตา และพูดจึงจะอนุญาตให้ทำข่าวได้ แต่วันนี้คุณแม่เริ่มเล็บเขียว ชีพจรเบาลงเรื่อยๆ ปาฏิหาริย์คงไม่มีจริง ลูกหลานเริ่มทำใจได้ คาดว่าคงจะไม่พ้นวันนี้ โดยรอให้คุณหมอมาตรวจอีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่าเวลาใด แต่ญาติๆ คาดว่าคงเป็นประมาณ 16.00 น." นางสุนิสา กล่าวในที่สุด.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/458724