พิมพ์

[raponsan]

นายก อบจ.นครพนมชูจุดขายใหม่ “บั้งไฟใต้น้ำโขง” บูชา “พญานาค”

นครพนม - นายก อบจ.ทึ่ง “บั้งไฟใต้น้ำโขง” บูชา “พญานาค” หลังชาวบ้านไทย-ลาวเฝ้าชมเนืองแน่น พร้อมจัดเข้าแผนท่องเที่ยว อบจ.ชูจุดขายแปลกใหม่ เตรียมดึงพิธีกรทีวีทำสารคดีฉายทั่วประเทศ เจ้าของแนวคิดปลื้ม หวัง ททท.เห็นค่า จับใส่ปฏิทินเที่ยวไทย
       
       วันนี้ (23 ต.ค.) นายสมชอบ นิติพจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อคืนวันที่ 19 ตุลาคม ชาวบ้านน้อยลวงมอง หมู่ 8 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน ได้จัดงานบุญ “จุดบั้งไฟใต้น้ำโขง” บูชา “พญานาค” ครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของหมู่บ้านหลังออกพรรษา ซึ่งตนได้รับเชิญเป็นประธานเปิดงานเป็นปีที่ 2 รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งช่วยงานบุญครั้งนี้ รู้สึกทึ่งมากว่าชาวบ้านทำได้อย่างไร และยอมรับว่าเป็นงานบุญที่แปลกใหม่ที่สุด ถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยก็ว่าได้
       
       “ผมมองข้ามช็อตถึงอะเมซิ่ง นครพนมอีกงานหนึ่ง นอกเหนือจากงานแข่งไหลเรือไฟที่ อบจ.สนับสนุนงบประมาณทุกปี แต่ปีหน้าจะจัดให้งานจุดบั้งไฟใต้น้ำโขงเข้าแผนชูท่องเที่ยวของ อบจ. เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้งานยิ่งใหญ่ เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น พร้อมเชิญพิธีกรรายการทีวีมาทำสารคดีเรื่องนี้ออกอากาศให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ”
       

       ทั้งนี้ การจัดงานในคืนดังกล่าวมีพี่น้องชาวไทยและลาวต่างรอชมการจุดบั้งไฟใต้น้ำกันเนืองแน่นสองฝั่งโขง โดยมีหมอลำซิ่งให้ประชาชนทั้งสองฝั่งได้ฟ้อนรำกันอย่างสนุกสนานตามวิถีชาวบ้าน ซึ่งการจัดงานปีนี้คึกคักมาก ชาวบ้านไทย-ลาวต่างทึ่งกับความแปลกใหม่ที่มีเพียงหมู่บ้านเดียวนี้เท่านั้นที่จัดงานบุญจุดบั้งไฟใต้น้ำโขงเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยปีนี้จุดให้ชมถึง 40 บั้ง ทุกบั้งจะถูกหย่อนตามรางลงใต้น้ำโขง และเมื่อจุดแล้วบั้งไฟจะพุ่งจากใต้น้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า สีสันสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
       
       ด้านนายอวยชัย เกษสิมมา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองเทา ผู้ริเริ่มจุดประกายงานบุญจุดบั้งไฟใต้น้ำ บ้านน้อยลวงมอง กล่าวว่า งานปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง มีประชาชนและนักท่องท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น นายก อบจ.ให้การสนับสนุน บรรจุเข้าแผนท่องเที่ยวของ อบจ. ต่อไปก็จะผลักดันให้อยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยหลังปลุกปั้นงานนี้มา 2 ปี และมาลงตัวที่สุดคือ การจัดงานหลังประเพณีไหลเรือไฟ ซึ่งปีหน้าจะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000122072