« เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 11:26:32 am »
0
ออกหว่า ออกพรรษาชาวไต
โดย...กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
สายฝนที่ชุ่มฉ่ำแห่งวสันตฤดูกำลังจะผ่านพ้น ความหนาวเหน็บแห่งเหมันต์เริ่มพัดมาอย่างช้าๆ ถึงเวลาเก็บสัมภาระออกไปสัมผัสความหนาวที่รอคอยแม่ฮ่องสอน คือเมืองแห่งความฝันของใครหลายคน ที่อยากออกไปสัมผัสกับความหนาวเย็น ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ป่าไม้เขียวขจีหลังผ่านฤดูฝน ทุ่งนาขั้นบันไดกำลังตั้งท้องออกรวง อ.แม่สะเรียง เป็น 1 ใน7 อำเภอในจ.แม่ฮ่องสอน ที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และความหลากหลายของชาติพันธุ์ โดยเฉพาะกลุ่มชาวไทยใหญ่ หรือชาวไต ที่ตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตตามขนบธรรมเนียม
ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีประเพณีที่สำคัญในวันออกพรรษาของชาวไต เรียกว่า “ประเพณีออกหว่า” มีเอกลักษณ์หลายอย่างทั้งการตักบาตร 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 14 ค่ำ15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เวลาตีสี่เป็นต้นไปวันแรกจะเป็นการตักบาตรอาหารร้อนอาหารปรุงสุก สองวันหลังจะตักบาตรอาหารแห้ง โดยในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน11 หลังจากที่ทำบุญตักบาตรในตอนเช้ามืดแล้ว ตอนสายพุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญฟังเทศน์ที่วัดอีกครั้งหนึ่ง
ตามบ้านเรือนตกแต่งอย่างสวยงามด้วยซุ้มราชวัตรเพื่อปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุขต้นกล้วย ต้นอ้อย และประทีป ซึ่งในอดีตจะใช้ตะเกียงเจ้าพายุเพื่อบ่งบอกฐานะ ถ้ายิ่งประดับมากแปลว่าบ้านนั้นมีฐานะดี แต่ปัจจุบันใช้เป็นโคมที่ทำจากไม้แทน เช่นโคม 16 ทำจากไม้ 16 เส้นต่อกันหรือโคมหูกระต่าย นอกจากนี้ทุกบ้านยังมีการสร้างจองพารา (จอง แปลว่า วัดพารา แปลว่า ปราสาท)ภาษาไทยใหญ่เรียก จองเข่งต่างส่างปุ๊ด ทำขึ้นเพื่อรับเสด็จพระพุทธเจ้าที่ลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และไม้ไผ่สานขัดแปะที่หน้าประตูบ้านเพื่อแบ่งเขตระหว่างพระสงฆ์และฆราวาสขณะใส่บาตรตามความเชื่อ
นอกจากการตักบาตรในตอนเช้ามืดแล้วประเพณีออกหว่ายังควบคู่ไปกับ “ประเพณีตานเทียนเหง”หรือหลู่เตนเหง เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ถึงวันแรม 14 ค่ำ เดือน 11 เป็นการถวายเทียนไข 1,000 เล่มขึ้นไป กรวยดอกไม้ 1,000 เล่มขึ้นไป ข้าวตอก และจตุปัจจัยไทยธรรม สิ่งสำคัญ คือ ต้นเกี๊ยะ ภาษาไทยใหญ่เรียกว่า ต้นแปก มีลักษณะเป็นชั้นๆ เหมือนฉัตร ทำจากไม้สนสามใบ เศษผ้า มัดรวมกัน ความยาวของไม้ไม่กำหนด บ้าง 4 เมตร บ้างยาวถึง 7 เมตร ทำเพื่อนำไปจุดที่วัด ขบวนแห่เทียนเหงจะเคลื่อนไปตามถนนสายต่างๆ ใน อ.แม่สะเรียง เมื่อผ่านวัดไหนก็จะแบ่งเทียนและกรวยดอกไม้ไปจุดถวายพระพุทธรูปที่วัดนั้น จนถึงวันสุดท้าย (วันแรม 14 ค่ำ เดือน 11) ที่จะทำการถวายเทียนเหง จะมีเจ้าอาวาสจากวัดต่างๆ มารับเครื่องไทยธรรม มีการแสดงพระธรรมเทศนา1 กัณฑ์ และเสร็จสิ้นพิธีด้วยการจุดต้นเกี๊ยะตามประเพณี
ชุมชนชาวไตใน อ.แม่สะเรียง มีการจัดพิธีออกหว่าอย่างมีสีสัน มีทั้งขบวนแห่ การแสดงร่ายรำ และประดับประดาชุมชนด้วยโคมไฟ แตกต่างจากชุมชนชาวไตใน “เมืองปอน” อ.ขุนยวม ที่จัดขึ้นแบบเรียบง่าย
เมืองปอนเป็นเมืองเกษตรกรรม เงียบสงบ และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมไต ชาวบ้านยังแต่งกายด้วยผ้าซิ่นผ้าลูกไม้และให้สำคัญกับประเพณีทางพุทธศาสนาอย่างประเพณีออกหว่าที่กล่าวถึงนี้ เห็นได้จากจำนวนจองพาราที่ตั้งอยู่หนา้บา้นหรือนอกหนา้ตา่ งทีพ่ บไดเ้กือบทุกบา้น นอกจากนี้เมืองปอนยังสวยงามไปด้วยนาขั้นบันไดที่บัดนี้กำลังตั้งท้องใกล้คลอดเต็มที และเมื่อมาเยือนแล้วต้องไปสักการะวัดศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านที่ “วัดต่อแพ” สถาปัตยกรรมแบบไทยผสมพม่าตามเอกลักษณ์ของชาวไต และมีบรรยากาศที่น่าตรึงใจเพราะตั้งอยู่กลางทุ่งนา
วิถีชีวิตของชาวไตมีเปลี่ยนไปบ้างตามเวลา แต่เป็นการเปลี่ยนที่ค่อยๆ แปลงไปเพราะชาวบ้านยังคงรักษาขนบธรรมเนียมหลักไว้ ดังเช่น “ออกหว่า” วันออกพรรษาชาวไตที่สืบสานต่อกันมา ประเพณีโบราณที่ย้อนกลับไปหาวันเริ่มต้นไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าวันนี้ยังมีและยังแข็งแรงขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/325049/ออกหว่า-ออกพรรษาชาวไต